Skip to main content
sharethis

ศาลยุติธรรม ไม่รื้อบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ ยันทำตามกฎหมาย หากจะยกเลิกสัญญาอาจมีคดีฟ้องร้องกันได้ ย้ำไม่ได้บุกรุกทำลายป่า แต่จะอยู่กับสิ่งแวดล้อม รอคณะกรรมการศาลยุติธรรมประชุมพิจาณา 9 เม.ย.นี้

 
5 เม.ย.2561 ไทยพีบีเอสและคมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า สราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและโฆษกศาลยุติธรรม แถลงข่าวกรณีบ้านพักตุลาการที่ จ.เชียงใหม่ ว่า กรณีดังกล่าวได้ขออนุญาตใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์ และได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการทั้งหมดแล้ว พื้นที่ 147 ไร่ แต่ใช้ดำเนินการจริง 89 ไร่ โดยมีเอกชนมาเป็นคู่สัญญา 3 สัญญา วงเงินรวม 950 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 การก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นเงิน 290 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จแล้ว ส่วนสัญญา 2 ก่อสร้างบ้านพักผู้พิพากษา 38 หลัง อาคารชุดตุลาการ 16 หน่วย อาคารชุดธุรการ 36 หน่วย วงเงิน 320 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 การก่อสร้างบ้านพักผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 จำนวน 6 หลัง และคอนโดตุลาการ 64 หน่วย เป็นเงิน 340 ล้านบาท สัญญาจะเสร็จสิ้นเดือน มิ.ย.2561
 
สราวุธ ยืนยันว่า การก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้ตัดต้นไม้ทำลายป่า โดยใช้วิธีการขุดย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่ปลูกในพื้นที่ทั้งหมด โดยแผนระยะสั้น คือ ไม่มีการตัดต้นไม้และดูแลพื้นที่ให้สมบูรณ์ แผนระยะกลางคือการปลูกป่าเพิ่มเติม 6,400 ต้น ในวันศาลยุติธรรม 21 เม.ย.นี้ และแผนระยะยาวคือการปลูกป่าในแต่ละปี
 
"ส่วนที่ผ่านมาถ้าถามว่าเราเคยรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนหรือไม่ เราไม่ได้ตอบว่าเราทำถูกกฎหมายอย่างเดียว แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความห่วงใยเราก็พร้อมที่จะรับฟัง และรับข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งจากแผนที่เราดำเนินการอยู่ก็คิดว่ามันจะดีขึ้น และทุกคนจะอยู่กับสิ่งแวดล้อมได้ ไม่ได้มีปัญหา เพราะเราไม่ได้เข้าไปทำลายสิ่งแวดล้อม แต่เราต้องการจะอยู่กับสิ่งแวดล้อมและรักษาสิ่งแวดล้อมไว้" โฆษกศาลยุติธรรม กล่าว
 
ส่วนในฐานะเลขาธิการศาลยุติธรรม ที่เป็นคู่สัญญากับเอกชน ตัวเองไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบ ซึ่งการก่อสร้างไม่เกี่ยวกับศาลอุทธรณ์ภาค 5 แต่ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานศาลยุติธรรม ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแล้ว ร้อยละ 98 ส่วนข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ ศาลยุติธรรม ทหาร และประชาชน ทางศาลพร้อมรับฟัง อีกทั้งรับฟังข้อเสนอแนะในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม ซึ่งการดำเนินการต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยวันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. คณะกรรมการศาลยุติธรรมจะประชุมพิจาณาว่าจะมีมติให้ศาลยุติธรรมดำเนินการอย่างไรต่อไป จากนั้นจะนำเรื่องเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเบื้องต้นทั้งคู่ยังไม่มีหนังสือมาถึงศาล แต่ยืนยันปฏิบัติตามคำสั่ง โดยต้องดูพื้นฐานของเหตุและผล
 
“เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ผมไม่อยากให้คนมาด่า โจมตีว่าเราพูดแต่แง่กฎหมาย เพราะไม่ได้บุกรุกป่า ขณะนี้ยังไม่ยุติการก่อสร้าง ไม่ได้รับคำสั่งใดๆ หากจะยกเลิกสัญญาอาจมีคดีฟ้องร้องกันได้ ที่ผ่านมารับฟังความเห็นของประชาชน ไม่ได้ต้องการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่การดำเนินการไม่เป็นที่ถูกใจของทุกคน อยู่ๆ จะไปสั่งทุบทำลายไม่ได้ เพราะเป็นทรัพย์สินทางราชการ” สราวุธ ระบุ
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net