มีชัย มั่นใจโรดแมปเลือกตั้งยังอยู่ ก.พ.62 อภิสิทธิ์ จี้ คสช. ชัดเจน ปมปลดล็อคพรรคการเมือง

มีชัย ยังมั่นใจโรดแมปการเลือกตั้งจะอยู่ช่วง ก.พ.2562 ชี้ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าใช้กำลัง ขณะที่ อภิสิทธิ์ จี้ คสช. ชัดเจน เรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง

แฟ้มภาพ

13 เม.ย.2561 รายงานข่าวระบุว่า มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ( กรธ.) กล่าวถึงที่รัฐบาลเตรียมนัดพรรคการเมืองหารือตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ว่า การหารือเป็นเรื่องที่ดี แต่เท่าที่ทราบนายกรัฐมนตรีเคยระบุว่า หากมีอะไรที่พรรคการเมืองต้องการหารือก็สามารถนัดคุยกันได้ ส่วนการปลดล็อคคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เป็นเนื้อหาที่คำสั่งได้ระบุระยะเวลาไว้แล้ว แต่หากคิดว่าห้วงเวลาในคำสั่งไม่สอดคล้องกันก็สามารถที่จะบอกนายกรัฐมนตรีเพื่อช่วยแก้ไขได้ แต่หากจะให้แก้ไขโดยที่ยังไม่ทราบปัญหาก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่นักการเมือง แต่เบื้องต้น ตนคิดว่าต้องรอพิจารณาเนื้อหากฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้ายว่าจะมีเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง นอกจากนี้พรรคการเมืองยังได้ใช้ช่องทางยื่นคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงทำให้การแก้ไขคำสั่ง คสช.ตามความต้องการของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)อาจจะต้องรอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่หากเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ก็ต้องหารือเพื่อหาทางออก  ทั้งนี้คาดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยทั้งคำสั่ง คสช. และ กฎหมายลูก แล้วเสร็จทันในช่วงเดือนมิถุนายน ที่นายกรัฐมนตรีเคยกำหนดว่าจะหารือกับพรรคการเมืองไว้ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 เดือน

มีชัย ยังกล่าวด้วยว่า หากประเด็นที่พรรคการเมืองกังวลและต้องการให้ คสช.แก้ไขคำสั่งเป็นเหตุผลอันเนื่องมาจากเนื้อหาของคำสั่งไม่ชัดเจน เช่น เรื่องการยุบสาขาพรรคการเมืองเก่า ก็ไม่จำเป็นต้องรอ เพราะแม้ว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขให้พรรคการเมืองอยู่ดี 

มีชัย ยังมั่นใจว่าโรดแมปการเลือกตั้งจะอยู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ส่วนที่นักวิชาการออกมาคาดการณ์ว่า หากไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จะเกิดความขัดแย้งนั้น มองว่า หากเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นความขัดแย้งแบบต่างฝ่ายต่างใช้กำลัง คงจะไม่ดี และประชาชนก็จะไม่ยอมรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะต้องดูแลป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ประเทศเกิดความสงบ พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า  คสช. จะยังสามารถบริหารงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ หากการเลือกตั้งไม่ได้เกิดขึ้นตามโรดแมปที่วางไว้

อภิสิทธิ์ เปิดโอกาสนักการเมืองรุ่นใหม่ร่วมงานประชาธิปัตย์

ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าปัจจุบันมีข้อจำกัดภายใต้คำสั่งของ คสช. จึงทำให้พรรคฯยังไม่สามารถเปิดรับสมาชิกใหม่ได้ แต่ก็พบว่ามีคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจจะเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคในด้านการเมืองเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นปกติของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะต้องสร้างนักการเมืองหน้าใหม่ทุกรุ่น ซึ่งเห็นได้จากอายุของพรรคที่ก่อตั้งมา72ปีทั้งนี้ตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาที่พรรคยังไม่สามารถเปิดรับสมาชิกใหม่ได้นั้น ก็เป็นเวลาที่ทำให้สมาชิกที่ต้องการเข้ามาใหม่ได้คิดทบทวน ว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองได้อย่างไรบ้าง พร้อมเชื่อว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จะมองเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดโอกาสให้สำหรับคนรุ่นใหม่ 

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันกลุ่มคนรุ่นใหม่ลงสมัคร ส.ส.ทั้งในระบบบัญชีรายชื่อและระบบแบ่งเขตหรือไม่นั้น อภิสิทธิ์ ระบุว่า อยู่ที่ความต้องการของบุคคลนั้นๆ ว่ามีความต้องการที่จะลงสมัคร ส.ส.หรือมีความต้องการที่เข้ามาทำงานเกี่ยวกับการเมืองในด้านอื่น แต่หากมีความต้องการจะลงรับสมัครเลือกตั้งนั้นก็ต้องเป็นไปตามกติกาในการทำไพรมารี่โหวต และการแสดงบทบาทให้สมาชิกพรรคสนับสนุน อย่างไรก็ตามสำหรับแนวทางของพรรคนั้น ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ต้องการที่จะแสวงหาแต่อำนาจรัฐโดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ และความสอดคล้องของนโยบาย

จี้ คสช. ชัดเจน เรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง

อภิสิทธิ์ ยังกล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ว่า คสช. ต้องไปดำเนินการเรื่องกฎหมายให้เรียบร้อย เพราะขั้นตอนและโรดแมปขึ้นอยู่กับกระบวนการทางกฏหมาย ที่เดิมคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ กฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ แต่เมื่อมีการยื่นตีความ อาจทำให้ระยะเวลาขยับออกไปอีก ซึ่งปัญหาของพรรคการเมืองมี 2 ประเด็นคือ คำสั่งที่เป็นปัญหาละเมิดสิทธิประชาชน สร้างภาระและความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็นให้พรรคการเมือง ซึ่งหากสะสางแล้วเสร็จก็จะทำให้เกิดความชัดเจนว่าจะกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ และกำหนดการเลือกตั้ง 150 วันว่าจะเริ่มนับวันใด เพราะเป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. หากเกณฑ์เวลา หัวหน้า คสช.สามารถลดทอนขั้นตอน ตลอดจนกรอบเวลา 90 วัน หากไม่จำเป็นก็สามารถตัดออกได้ ทุกอย่างจะแก้ไขได้ด้วยกรอบเวลาไม่ต้องมีปัญหาเรื่องการตีความ หวาดระแวงเป็นปมขัดแย้ง ดังนั้น คสช.ควรที่จะสะสางข้อกฏหมายเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้

อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความชัดเจนของพรรคการเมืองใหม่ อีก 2-3 เดือนจะมีความชัดเจนว่ามีพรรคเกินขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายหลังวันที่ 30 เม.ย.ไม่ว่าพรรคเก่าหรือใหม่ ก็ต้องรอ คสช. ปลดล็อคพรรคการเมือง เพราะไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ได้ทำให้เกิดช่องว่าง ดังนั้น คสช.ควรชัดเจน ไม่ใช่รอให้พรรคการเมืองไปขออนุญาต เพราะเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง หาก คสช.อนุญาตเป็นบางพรรค หรืออนุญาตช้าเร็ว จะเกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบและไม่เป็นธรรม ในขณะที่รัฐธรรมนูญต้องการปฏิรูปการเมืองแต่กลับมองว่าพรรคการเมืองผูกกับการเลือกตั้งจนทำให้เกิดความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา จึงขอให้มองพรรคการเมืองเป็นสถาบันที่ต้องดูแลประชาชน จึงขอให้ คสช.ทบทวนแนวคิดเพื่อให้ประเทศเดินไปได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนยอมรับสถานการณ์พิเศษด้วยเหตุผลด้านความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงเท่านั้น แต่จะดำเนินการต่อไปแบบนี้ตลอดคงเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องแข่งขันกับตนเอง มากกว่าไปแข่งขันกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งขณะนี้การแข่งขันทางการเมืองเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องเสนอทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้ประขาชนเกิดความศรัทธา และอยากเห็นการเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาประเทศแต่ละด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ มากกว่าการถกเถียงการเมืองว่าจะจับมือกับใคร หรือจะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่เพราะจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย

ที่มา สำนักข่าวไทย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท