Skip to main content
sharethis

ผลสำรวจเผยผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงติดต่อกัน 3 ปีซ้อน คาดมาจากการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งฮ่องกงของจีน จนทำให้ฝ่าย ปชต.ถูกตัดสิทธิ-เน้นระบบแต่งตั้ง

 

8 ส.ค. 2567 เว็บไซต์ ‘Hong Kong Free Press’ รายงานเมื่อ 2 ส.ค. 2567 ระบุว่า สำนักงานการทะเบียนและการเลือกตั้ง (REO) ของฮ่องกง ระบุว่า จำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งในฮ่องกง ปี 2567 ลดลงเหลือ 4.21 ล้านคน ซึ่งเป็นการลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในจำนวนนี้มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งรายใหม่ 18,900 ราย มีผู้ลงทะเบียนที่มีอยู่เดิมเพื่อทำการอัพเดทข้อมูลของพวกเขาอีก 138,000 ราย ทั้งนี้ ยังมีการเพิกถอนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนชั่วคราวรวมแล้ว 142,400 ราย

แถลงการณ์ของ REO ระบุว่า "มีอยู่ราว 29,900 และอีกราว 112,500 ราย ที่ถูกเพิกถอนออกจากทะเบียนชั่วคราวผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยจะระบุไว้ในรายชื่อผู้ถูกละเว้นสิทธิเนื่องจากเสียชีวิตหรือเป็นผลมาจากการไต่สวนอื่นๆ ตามลำดับ" โดยที่ REO ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสื่อว่า "กระบวนการไต่สวนอื่นๆ" หมายความว่าอย่างไร

เว็บไซต์ HKFP ระบุว่า เมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งของฮ่องกงแบบยกเครื่อง ซึ่งส่งผลให้ผู้แทนฝ่ายก้าวหน้าลดลงทั้งในส่วนบริหารท้องถิ่น และภาคส่วนนิติบัญญัติ

กระแสการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเกิดขึ้นหลังฮ่องกงมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติปี 2563 ที่ร่างโดยประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้ทางการจีนก็เปลี่ยนระบบเลือกตั้งในฮ่องกง โดยอ้างว่าเป็น "ขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาระบบการเลือกตั้ง" และเพื่อขจัด "ช่องโหว่และความไร้ประสิทธิภาพ" ที่มีอยู่ในระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นจาก "การจลาจลและความวุ่นวาย... ในสังคมของฮ่องกง"

ต่อมา เมื่อ มี.ค. 2564 สภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติสูงสุดของจีน อนุมัติให้มีการปรับโครงสร้างแบบยกเครื่องต่อระบบการเลือกตั้งฮ่องกง เพื่อให้แน่ใจว่าฮ่องกงจะอยู่ภายใต้การปกครองของ "คนรักชาติ"

การปรับโครงสร้างจากจีนนั้นได้ปรับลดที่นั่งของผู้แทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจาก 35 ราย เป็น 20 ราย แต่ที่นั่งโดยรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 70 ที่นั่งเป็น 90 ที่นั่ง

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างจากจีนยังจัดให้มีกลไกการคัดกรองผู้สมัครโดยที่ผู้คัดกรองคือกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของตำรวจ รวมถึงคณะกรรมการด้านความมั่นคงของฮ่องกง และคณะกรรมการอื่นนอกเหนือจากนี้ การปรับเช่นนี้ทำให้ทางการจีนถูกวิจารณ์ว่าเพื่อให้คนที่พวกเขาต้งการเข้าไปบริหารประเทศได้

คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดปัจจุบันของฮ่องกง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากอยู่แล้ว เพราะมาจากการคัดสรรของผู้ว่าการฮ่องกง ยังได้รับอำนาจเพิ่มมากขึ้นในการคัดเลือกสภานิติบัญญัติฮ่องกงถึง 40 ที่นั่งจากทั้งหมด 90 ที่นั่ง มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเช่นนี้ เพื่อให้รัฐบาลฮ่องกงเต็มไปด้วยคนที่มาจากการแต่งตั้ง และมาจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับจีนแผ่นดินใหญ่

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังได้กลายเป็นการกีดกันผู้แทนฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยที่เหลืออยู่ยังไม่ได้สละสิทธิหรือถูกคุมขังด้วยกฎหมายความมั่นคง ทำให้เมื่อถึงวันเลือกตั้ง 19 ธ.ค. 2564 มีผู้แทนที่ไม่ใช่ฝ่ายอำนาจดั้งเดิมของฮ่องกงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ชนะได้ที่นั่งในสภา และมีผู้ไปใช้สิทธิแค่เพียงร้อยละ 30.2 นับเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ในภาคส่วนบริหารท้องถิ่น ก็มีการระบุว่าจะให้แก้ไขระบบการเลือกตั้ง เพื่อให้มีคนที่พวกเขามองว่า ‘รักชาติ’ เข้ามาดำรงตำแหน่งในเดือน ก.ค. 2566 สนช.ที่ปราศจากฝ่ายค้านได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งระดับเขตโดยลดจำนวนที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยลงจากเดิมเมื่อปี 2562 อยู่ที่ 452 ที่นั่ง แต่ในปี 2567 ที่ผ่านมา เหลือเพียง 88 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังระบุให้ผู้แทนต้องมาจากการเสนอชื่อจากคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐบาล ทำให้ฝ่ายต่อต้านถูกปิดกั้นจากการแข่งขันโดยสิ้นเชิง

การเลือกตั้งสภาเขตในเดือน ธ.ค. 2566 มีผู้ไปใช้สิทธิต่ำเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 27.5 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งสภาเขตเมื่อปี 2562 ที่มีผู้ใช้สิทธิร้อยละ 71.2 ซึ่งในช่วงนั้นกำลังมีการประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากจีนเกิดขึ้น

ถึงแม้ว่าการมีส่วนร่วมจากประชาชนจะลดลง แต่การเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งก็ได้รับการยกย่องจากรัฐบาลฮ่องกงและทางการจีนว่าเป็นชัยชนะ ผู้นำจีน สี จิ้นผิง กล่าวว่า การเลือกตั้ง สนช.ฮ่องกง "เป็นไปอย่างประสบความสำเร็จ" อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศ G7 ได้แสดง "ความกังวลอย่างมากต่อความทรุดโทรมขององค์ประกอบประชาธิปไตย"

ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งถัดไปในฮ่องกง จะเป็นการเลือกตั้ง สนช. ในปี 2568

 

เรียบเรียงจาก

Number of registered voters in Hong Kong falls for 3rd consecutive year, HKFP, 02-08-2024

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net