อรรถวิชช์ตั้งเงื่อนไข 'พลังประชารัฐ' หากมุ่งต่อท่ออำนาจ คสช. "จะคบกันลำบาก"

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวในวงเสวนาที่จุฬาฯ เตือนพรรคพลังประชารัฐเรียนรู้ประวัติศาสตร์พรรคการเมืองต่อท่ออำนาจในอดีต หากไม่เจอรัฐประหารตัวเองก็เจอระบบส้นตีนแห่งชาติ พร้อมตั้งเงื่อนไขร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐได้ ถ้านโยบายตรงกันเช่นกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่ถ้าพลังประชารัฐมุ่งต่ออำนาจ คงคบกันลำบาก พร้อมห่วง 250 ส.ว.ที่ คสช. ตั้งหากไม่เคารพเสียงสภาผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมา จะพากันบรรลัยหมด ชี้ถ้ากองทัพหากเลิกเล่นบทคนกลางหันมายุ่งการเมืองจะวงแตก เกิดวังวนรัฐประหารไม่รู้จบ

ในการเสวนา "บทเรียนในอดีตสู่การพัฒนาในอนาคต" เป็นส่วนหนึ่งของงานเสวนา 42 ปี 6 ตุลาฯ จุฬาฯ มองอนาคต เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมเกษม สุวรรณกุล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนหนึ่ง อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเตือนการสืบทอดอำนาจของ คสช. และตอบคำถามเรื่องเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐว่า

"มาถึงวันนี้ พรรคใหม่ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ เสียดายต้องชวนเขามาพูดด้วย ผมว่าเป็นการต่อท่ออำนาจรัฐบาลนั่นแหละ ทำไมถึงพูดแบบนี้ครับ ก็เพราะในพรรคเดียวกันมีถึง 4 รัฐมนตรี แล้วเป็นรัฐมนตรีที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ด้วยไม่ออกครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือเปล่า เพราะท่านยังไม่แสดงท่าทีการเมืองใด to be fair ครับ แต่ที่แน่ๆ 4 รัฐมนตรีอยู่ในพรรคนี้ไม่ออก แล้วชื่อพรรคไปคล้องจองกับนโยบายรัฐด้วยสิ ประชารัฐครับ เสียดายน้องน่าจะเอามา

ผมว่าประวัติศาสตร์สอนอะไรเยอะเหมือนกันนะครับว่า ความล้มเหลวในการตั้งพรรคการเมืองที่ต่อท่ออำนาจ สุดท้ายแล้วมันไม่เจอการทำรัฐประหารตัวเอง หรือกลุ่มอำนาจใหม่ทำรัฐประหาร มันก็จะเจอระบบส้นตีนแห่งชาติ ก็คือเจอประชาชนนี่แหละครับ ทีนี้ปัญหาก็คือว่าเมื่อเรียนรู้กับมันแล้ว ทำไมยังเดินหน้าต่อ ก็ต้องฝากเตือนไว้ว่าต้องมีความระมัดระวัง

ทีนี้ผมขอย้อนรอยนิดหนึ่ง ผมมีความแตกต่างกับหลายคนที่นั่งในนี้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐ ฟังดีๆ นะครับ ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้จำนวน ส.ส. ส่วนหนึ่ง แล้วไม่ได้ขี้โกงเลือกตั้ง จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐได้ไหม คำตอบคือ ถ้านโยบายคุณกับผมตรงกันร่วมรัฐบาลได้ เช่น ผมอยากให้มีเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในหลากหลายจังหวัด ไปสู่การกระจายอำนาจ ลดทอนอำนาจราชการส่วนภูมิภาคลง แล้วเกิดการกระจายอำนาจ ถ้าคุณคิดเหมือนผม แล้วคุณมาจากการเลือกตั้ง ผมไม่เกี่ยง ผมชัดเจนนะครับ แต่ถ้าคุณทำลักษณะเป็นพรรคต่อท่ออำนาจ แล้วไม่เคารพเสียงข้างมากในสภา อันนี้เรื่องใหญ่ คบกันลำบากครับ

แปลว่าอะไรครับ อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านสวม 2 หมวก วันนี้ไม่รู้จะมาเป็นแคนดิเดตผู้ถูกเสนอชื่อในการเป็นายกรัฐมนตรีโดยพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า ผมไม่ก้าวล่วง แต่หมวกส่วนหนึ่งที่ท่านมีในขณะนี้คือหัวหน้า คสช. 

ส.ว. จำนวน 250 คน หลายคนอาจจะยังไม่ทราบนะครับ ส.ว. จำนวน 250 คน ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ภายใน 5 ปีแรกนี้ เขาให้ ส.ว. มาเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้ด้วยนะ ปกติแล้ว ส.ส. 500 คนที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนเลือก ใช่หรือเปล่า เราเลือกพรรคไหนชอบพรรคไหนใครเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีก็เลือกครับ แต่คราวนี้คำถามพ่วงรัฐธรรมนูญเขาถามว่าเอาไหม ถ้าให้ ส.ว.เลือกด้วย 250 คน

ส.ว. 250 คนมาจากไหน 200 คน มาจากการหยิบโดย คสช. สรรหา อีก 50 คนก็ คสช. หยิบเหมือนกัน หยิบจากไหนรู้ไหมครับ หยิบจากที่ กกต.จะประกาศเลือก ส.ว. เลือกมา 200 คน แล้วเขาหยิบ 50 หมายความว่าทั้ง 250 ใครเลือกครับ คสช. เลือกครับ สิ่งหนึ่งที่จะอันตรายที่สุด และเป็นการต่อท่อที่อันตรายมากๆ คือ ถ้าในขณะนั้นหัวหน้า คสช. ตัดสินใจไม่เคารพเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชน แล้วหักเหลี่ยมเลยครับ พรรคการเมืองจับตัวได้เรียบร้อย เกินจากครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร บอก ส.ว. ไม่ให้ยกมือให้ แบบนี้บรรลัยเยือนไหมครับ บรรลัยกันหมดครับ

ผมพูดชัดเจนครับ ผมไม่ได้รังเกียจทหาร เพราะทหารเป็นอาชีพเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง ทหารก็เป็นอาชีพสำคัญ ผมไม่เคยรังเกียจสักอาชีพ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ใครเป็นก็ได้ ใครไปตั้งพรรคการเมืองมาแบบไหนก็ได้ ถ้าอุดมการณ์ลงกัน นโยบายลงกัน เดินได้เลย แต่สิ่งที่จะปวดหัวคือการเอาสถาบันความมั่นคงทหารนี่แหละ เมื่อเอาสถาบันทหารมาปนกับสถาบันการเมืองแบบนี้วงแตก เพราะประวัติศาสตร์เมื่อสักครู่ที่เล่ามา ตั้งแต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ถอนม ประภาส จนถึงสุจินดา คราประยูร มันบอกเราครับว่าถ้าเอาสถาบันทหารกับสถาบันการเมืองปนกันแบบทีเรียกว่าหาจุดแตกต่างไม่ได้ ความเสียหายของบ้านเมืองจะมาถึง แล้วถ้ามาถึงวันนั้น มันจะเป็นเหตุการณ์ที่เราจะไม่มีคนกลางอีกแล้ว คนกลางขณะนี้คือรัฐบาลนี้ คสช. ครับ แต่วันนี้คนกลางเลิกเป็นคนกลางแล้วกลายเป็นผู้เล่นมันจะเกิดอะไรขึ้นครับ วัฏจักรวังวนของการทำรัฐประหารไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น"

บทเรียนในอดีตสู่การพัฒนาในอนาคต | อภิปราย 6 พรรค [คลิป], 16 ต.ค. 2561

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท