Skip to main content
sharethis

สส.ร่มธรรม พรรคประชาธิปัตย์ เสนอมาตรการแก้ปัญหาลักลอบตัดสายไฟ ย้ำต้องเพิ่มบทลงโทษตามกฎหมาย เพิ่มอัตราโทษให้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ผู้ลักลอบกล้ากระทำความผิด และผู้รับซื้อของเก่าไม่รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการ


แฟ้มภาพการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA 

11 ส.ค. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายถึงรายงานผลการศึกษาแก้ไขปัญหาการลักลอบขโมยสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ว่า ปัญหาโจรลักลอบสายขโมยสายไฟ สายเคเบิล หม้อแปลง และขโมยอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นปัญหาเรื้อรังและระบาดไปทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างความเดือดร้อน หลายพื้นที่ไฟส่องสว่างดับ เป็นอันตราย ไม่ปลอดภัย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต ตลอดจนสร้างความเสียหายต่อรัฐ หากไม่มีมาตรการแก้ไขก็จะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น

นายร่มธรรม กล่าวด้วยว่า ปัญหาการลักลอบขโมยสายไฟฟ้า มี 3 ประเด็น ประเด็นแรก อุปสรรคในการป้องกันและแก้ไขปัญหา เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการวางแผน หรือมาตรการเพื่อป้องกันการขโมยอย่างมีประสิทธิภาพ ขาดแคลนบุคลากร ทั้งการดูแลหรือตรวจสอบ พื้นที่ในการดูแลสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้ากว้างมาก บางแห่งอยู่ห่างไกล ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด อีกทั้งการแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีเป็นไปด้วยความล่าช้า ประเด็นที่ 2 ปัญหาบทลงโทษตามกฎหมายเพื่อเอาผิดผู้ลักลอบขโมยสายไฟ และร้านค้าของเก่าที่รับซื้อทองแดงปัจจุบันบทลงโทษ หรืออัตราโทษต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายค่อนข้างต่ำ ไม่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งคนร้าย และร้านรับซื้อกระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่องและไม่เกรงกลัว และประเด็นที่ 3 ปัญหาแรงจูงใจของมิจฉาชีพในการผู้ก่อเหตุผู้ลักลอบขโมยสายไฟ มีหลายประเภท มีตั้งแต่ผู้อาศัยในพื้นที่ คนเร่ร่อน คนติดยา หลายครั้งมีแรงจูงใจที่เกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ความยากจน หรือปัญหาสังคม ไปจนถึงผู้ลักลอบมีความเชี่ยวชาญ ทำเป็นกลุ่มกระบวนการมีลักษณะเป็นมืออาชีพใช้ประโยชน์จากช่องว่างและความหละหลวมของรัฐ

นายร่มธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาครัฐควรมีมาตรการป้องกันการลักขโมยทรัพย์สินของทางราชการ ให้ขโมยยากมากขึ้น เช่น การเพิ่มบุคลากร หรืออาสาสมัคร เพื่อตรวจสอบ สอดส่องดูแล พร้อมกับให้อำนาจหน้าที่ที่เหมาะสม การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับอย่างกล้องวงจรปิด หรือมีระบบแจ้งเตือนหากทรัพย์สินของรัฐถูกขโมย พร้อมทั้งเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ให้ขโมยยากขึ้น มีการสัญลักษณ์ทางราชการเพื่อไม่สามารถนำไปขายต่อได้ นอกจากนี้ ต้องแก้ไขและเพิ่มบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายการค้าของเก่า ให้รุนแรงขึ้น หรือเพิ่มอัตราโทษให้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ผู้ลักลอบกล้ากระทำความผิด และผู้รับซื้อของเก่าไม่รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนปัญหาที่เป็นแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุนั้น รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของรัฐและประชาชน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net