กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลประชุม สส. มีมติเข้าร่วมรัฐบาล 'แพทองธาร' ด้วยคะแนน 43 ต่อ 4 เสียง ส่ง 'เฉลิมชัย' และ 'เดชอิศม์' เป็นรัฐมนตรี ด้านบัญญัติ บรรทัดฐาน เผยมีความหนักใจทางการเมือง แต่เคารพมติพรรค

30 ส.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก "พรรคประชาธิปัตย์" เปิดเผยวานนี้ (29 ส.ค.) ว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกัน เปิดเผยว่า ผลการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ มีมติเข้าร่วมรัฐบาลนำโดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

เฉลิมชัย กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาล และมีการทำหนังสือไปถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อให้รับทราบและพูดคุยเรื่องการทำงานร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้า และจากการพูดคุยเบื้องต้น พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

โดยที่ประชุมพรรคฯ ได้มีมติให้ 'เฉลิมชัย' ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เดชอิศม์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

เพจเฟซบุ๊ก The reporters รายงานเมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. ผลลงมติร่วมรัฐบาลอยู่ที่เห็นด้วย 43 เสียง และไม่เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง โดยบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวมีความหนักใจเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล แต่เคารพมติพรรคฯ พร้อมยืนยันว่าแม้ว่าจะร่วมรัฐบาลแล้ว แต่ถ้ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร ก็ต้องทักท้วง แต่ไม่เข้มข้นเหมือนกับพรรคฝ่ายค้าน

"มีความหนักใจทางการเมือง วันนี้ถกเถียงกันมากเป็นเรื่องปกติ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องเคารพมติที่ออกมา  

"ส่วนบทบาทการทำหน้าที่ สส.ในสภา ยอมรับว่าเมื่อร่วมรัฐบาลแล้ว เราก็ต้องอยู่ในรัฐบาล  เพียงแต่ว่าถ้ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ถูก ไม่ควร เราก็ต้องทักท้วง เพราะการตรวจสอบคนพรรคประชาธิปัตย์ทำกันอยู่แล้ว  แต่มันคงไม่เข้มข้นเหมือนทำหน้าที่ฝ่ายค้าน" บัญญัติ กล่าว

บัญญัติ กล่าว วันนี้ที่ประชุมก็ได้มีข้อเสนอแนะ ฝากไปยังรัฐมนตรีทั้ง 2 คน เพื่อให้นำนโยบายของรัฐไปหารือกับพรรคแกนนำ เช่นเรื่องการกระจายอำนาจ และการประกันรายได้ ว่าเวลากำหนดนโยบายให้คิดถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

สรรเพชญ​ บุญญามณี​ สส.สงขลา กล่าวว่าดีใจที่เรื่องนี้จบได้เสียที จะได้ไม่ต้องคาราคาซังกัน​ จะได้ชัดเจน

สรรเพชญ กล่าวว่า บรรยากาศการประชุมคุยกันฉันท์พี่น้องจนเป็นมติพรรคออกมา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้ก็ด้วยมติพรรค​ เนื่องจากเป็นสถาบันทางการเมือง วันนี้ถือว่าทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และใครมีอะไรในใจก็ได้พูดออกมาในฐานะที่เราเป็นครอบครัวพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผิดถูกอย่างไร เชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินในอนาคต แต่สำคัญที่สุดคือทุกคนอยากเห็นพรรคไปข้างหน้าและมีเอกภาพ ดังนั้น การได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา จึงได้มีการลงมติ

สรรเพชญ​ กล่าวว่า​ วันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้ง​หรือสู้รบกับใคร​ แต่เป็นการต่อสู้กันทางความคิด​และอุดมการณ์​  เป็นเรื่องของผิดและถูก​ สิ่งไหนถูก ก็ว่าถูก​ สิ่งไหนผิด จะว่าถูกไม่ได้​ วันหนึ่งเคยพูดไว้อย่างหนึ่ง แล้ววันนี้ถ้าทำอีกอย่างหนึ่ง ก็คงจะกลับไปในพื้นที่และมองหน้าประชาชนที่เลือกตนเองมาไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตัวเองได้เรียนไป แต่สุดท้ายก็จบแล้วและเป็นไปตามมติของพรรคฯ จะชอบหรือไม่ชอบก็ถือว่าเป็นมติที่ตัวแทนของประชาชนได้เลือกทางที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเข้าร่วมรัฐบาล และเป็นไปตามคณะกรรมการบริหารพรรค

ต่อประเด็นเรื่องการทำงานในพื้นที่จะทำงานยากขึ้นหรือไม่นั้น สรรเพชญ กล่าวว่า ถ้าในแง่ของการทำหน้าที่ สส. และนิติบัญญัติตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็ได้ทำหน้าที่อย่างหนักมาโดยตลอด ผลักดันโครงการและกฎหมายที่คิดว่ามีประโยชน์และส่งผลดีกับประชาชน และในพื้นที่ก็พยายามผลักดันโครงการต่างๆ ที่จะสามารถทำได้ในขอบเขตของ สส. หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะได้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป

รองโฆษกฯ ปชป. เผยหากยึดติดกับอดีตจะก้าวข้ามปัจจุบันได้อย่างไร 

วันนี้ (30 ส.ค.) เพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาธิปัตย์ รายงานว่า พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ รองโฆษกและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสทำงาน และสานต่อนโยบายของพรรคประชาธิปัจย์

พลอยทะเล มองว่าอยากให้เรื่องนี้ผ่านไป หากเรายังยึดติดอยู่กับอดีตแล้วจะสามารถก้าวข้ามปัจจุบัน ไปถึงอนาคตได้อย่างไร และขณะนั้นตนเองในขณะนั้นก็ไม่ได้มีส่วนร่วม หรือมีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในตอนนั้น แต่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เห็นแล้วว่า การที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรค มีความขัดแย้งกันนั้น บุคคลที่รับผลกระทบมากที่สุด คือ ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว 

เพราะฉะนั้น ณ ตอนนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานและบริหารพรรค จึงอยากให้พรรคมีแนวทางใหม่ๆ หรือการเมืองสมัยใหม่ โดยการทำงานร่วมกัน และพัฒนาไปพร้อมกันเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมในครั้งนี้ จึงไม่อยากให้มีการแบ่งแยกอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา

รองโฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า สำหรับในการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ชื่อของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ชื่อของพรรคเพื่อไทยด้วย ที่ทำให้ฝ่ายสนับสนุนของแต่ละฝ่ายไม่พอใจในการเข้ามาของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ จะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ลดความขัดแย้ง และลดอคติในใจ