Skip to main content
sharethis

'ส.ส.อนาคตใหม่' แฉขบวนการซื้อ 'งูเห่า' เผยถูกทาบทามเเพียบ ราคาขึ้นสูงถึง 120 ล้าน - ด้าน โฆษกพรรคยันไม่มีงูเห่าแน่นอน ขณะที่ 'ธนาธร' ขอบคุณ 7 พรรค ปชต. ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี-แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมเรียกร้อง ปชป.-ภท.ตัดสินใจให้ถูกต้อง

4 มิ.ย.2562 ทีมสื่อพรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า วันนี้ ที่พรรคอนาคตใหม่ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 13 คนที่เคยถูกติดต่อขอซื้อตัวให้เป็นงูเห่า ได้แก่ 1. อนาวิล รัตนสถาพร 2. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร 3. ฐิตินันท์  แสงนาค 4. ทองแดง เบ็ญจะปัก 5. ธีรัชชัย พันธุมาศ 6. สำลี  รักสุทธี 7. คารม พลพรกลาง 8. คำพอง เทพาคำ 9. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 10. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์  11. เกษมสันต์ มีทิพย์ 12. สมัคร ป้อมวงษ์ และ 13. องค์การ ชัยบุตร  ร่วมกันแถลงข่าวเปิดเผยรายละเอียดความพยายามในการซื้องูเห่าจากพรรคอนาคตใหม่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

พรรณิการ์ระบุว่า ณ ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว ว่าพรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงเพียง 150 เสียง ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเสียง 150 เสียงของวุฒิสภาไม่สามารถเข้าช่วยได้หลังการเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรคการเมืองที่มีเสียงเท่านี้ไม่สามารถบริหารประเทศได้ และมีความพยายามในการซื้องูเห่าจากพรรคอื่นๆมาโดยตลอดเวลา ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่นั้นก็ได้รับการติดต่อทาบทามมาเช่นเดียวกัน จนตอนนี้พูดได้ว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จำนวนมากได้ถูกติดต่อขอซื้อมา และที่จะนำมาเปิดเผยรายละเอียดในวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

อนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี ซึ่งระบุว่าได้รับการติดต่อมาสองครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกเสนอให้เงินเป็นจำนวนถึง 30 ล้านบาท โดยจะจ่าย 25 ล้านบาทก่อน ก่อนแล้วจะจ่ายให้อีก 5 ล้านบาทหลังเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จ แต่ตนก็ได้ปฏิเสธไป จนมีการติดต่อครั้งที่สองมาเสนอเงินเพิ่มให้เป็น 60 ล้านบาท ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธไปเช่นกัน

ด้าน เท่าภิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพ ระบุว่ามีการเสนอเงินให้ตนครั้งแรก 30 ล้านบาท ผ่านคนสนิทที่รู้จักกันต่อมาเป็นทอดๆ และยังมีความพยายามเสนออีกต่อมาในราคา 50 ล้านบาท ครั้งที่สาม 70 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการเสนอให้สูงถึง 120 ล้านบาท ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปทั้งหมดพร้อมให้ข้อคิดกลับไป ว่าประชาธิปไตยในประเทศนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้ สำหรับตนเงินจำนวนใดๆไม่มีความหมายทั้งสิ้น

ฐิตินันท์  แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น ระบุว่าที่ผ่านมามีความพยายามที่จะติดต่อตนมาตลอด เริ่มตั้งวันที่ 25 มีนาคม หลังเลือกตั้งได้เพียงหนึ่งวัน มีโทรศัพท์เข้ามาว่ามีผู้ใหญ่ขอพบ เป็นรองหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ตนได้ตอบไปว่าไม่สะดวก ต่อมาปลายสายจึงได้ถามตนว่าอยากได้เงินนอกบัญชีใช้ 9 หลักไหม ตนก็ตอบว่าอยากได้ แต่เงินนี้ตนขอหามาใช้เอง ไม่ขอรับเงินแบบนี้ โดยปลายสายมีการเสนอว่าจะให้ 5 ล้านบาทก่อนวันโหวต และจะให้อีก 50 ล้านบาทหลังวันโหวต พร้อมเงินเดือนๆละ 2 แสนบาท แต่ตนได้ปฏิเสธไป เพราะถ้ารับก็เท่ากับเป็นการทรยศต่อประชาชนชาวขอนแก่นที่เลือกตนมากว่า 40,000 เสียง

ขณะที่ ทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.สมุทรสาคร ระบุว่ามีการติดต่อขอซื้อตัวมาตลอดผ่านคนใกล้ชิด โดยเริ่มที่ 25 ล้านบาท ต่อมาจึงมีการเสนอให้อีกเป็น 50 ล้านบาท และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการเสนอขึ้นราคาให้เป็น 75 ล้านบาท ซึ่งตนตอบปฏิเสธไปทั้งหมด และตนยังถือว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการดูถูกจิตใจของคนจนอย่างพวกเรามาก ว่าจะเอาเงินมาซื้อได้

พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกติดต่อขอซื้อมาเท่านั้น และในหลายๆกรณีไม่ได้มีเพียงการเสนอเงินเท่านั้น โดยเมื่อการเสนอเงินเริ่มไม่ได้ผล ก็มีการใช้วาจาข่มขู่ ว่าถ้าไม่ยอมรับเงินอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเงินที่ใช้มีตั้งแต่ 5 ล้านบาทไปจนถึง 120 ล้านบาท และพรรคการเมืองที่ร่วมขบวนการซื้องูเห่าไม่ได้มีเพียงพรรคเดียว แต่มาจากหลายพรรคหลายกลุ่มด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น โดยมีแหล่งข่าวรายงานว่ากระบวนการเหล่านี้มีการสนับสนุนโดยทุนใหญ่ระดับชาติ ที่สนับสนุนคณะรัฐประหารด้วย

“ความสำเร็จของผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม คือการทำงานเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อมาแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนที่เรื้อรังมานานแล้ว ไม่ใช่การไปรวมเพื่อน ส.ส. 20 คนกับเงิน 400-500 ล้านมาเป็นพวกเดียวกันได้ พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า ส.ส.ทุกคนของพรรครวมกันด้วยอุดมการณ์และไม่มีงูเห่าแน่นอน” พรรณิการ์กล่าว

ทั้งนี้ พรรณิการ์ระบุว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ขอเปิดเผยชื่อและตัวตนของนายหน้าซื้องูเห่า เนื่องจากมีการข่มขู่ ส.ส.หลายคนของเราถึงชีวิต เราจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของ ส.ส.เป็นสำคัญ นอกจากนี้ บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้ามีหลายคนหลายกลุ่มจากหลายพรรค แต่ทั้งหมดไม่ใช่ตัวการสำคัญ ทุกคนต่างรู้ดีว่ากระบวนการซื้อขายงูเห่าทั้งหมดเป็นไปเพื่อบุคคลใดและเป้าประสงค์ในการสืบทอดอำนาจของใคร นั่นต่างหากคือตัวการสำคัญที่สุดของเรื่องทั้งหมดนี้


'ธนาธร' ขอบคุณ 7 พรรค ปชต. ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีและพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ พร้อมเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย รวมถึงสมาชิกวุฒิสภา ร่วมกันตัดสินใจให้ถูกต้อง เพื่อร่วมกันต่อต้านการสืบทอดอำนาจในวันประวัติศาสตร์พรุ่งนี้

ธนาธรระบุว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญที่จะชี้ทิศทางของประเทศไทย ซึ่ง ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่จะเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนจึงขอใช้โอกาสนี้กราบเรียนกับพี่น้องประชาชน ว่าตนมีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ปละในโอกาสนี้ขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย แกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน ที่แม้จะเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากที่สุด แต่ก็ได้แสดงสปิริตที่น่ายกย่อง โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่งและผลประโยชน์ใดๆ รวมถึงพรรคอื่นๆที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจร่วมกันมา

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยนั้น ธนาธรระบุว่ายังไม่เป็นการสายเกินไปที่จะตัดสินใจเดินในทางที่ถูกต้อง ในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยให้ตัดสินใจอย่างที่ตัวเองได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. การสืบทอดจะเป็นไปไม่ได้ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนร่วมกันยืนหยัดอย่างตั้งมั่น เหตุผลที่เผด็จการสืบทอดอำนาจได้ก็เพราะมีนักการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยอมเป็นนั่งร้านให้กับคณะรัฐประหารโดยไม่มองถึงผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประเทศ แต่มองถึงประโยชน์ส่วนตนและของพรรคตัวเองเป็นหลัก” ธนาธรกล่าว

ธนาธรยังระบุด้วยว่าตนพร้อมที่จะแสดงวิสัยทัศน์ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ โดยเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาและพ่อแม่พี่น้องประชาชน มีทั้งสิทธิและความชอบธรรมที่จะได้รับฟังผู้ที่เสนอตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี มีวิสัยทัศน์ว่าจะพาประเทศเดินหน้าไปอย่างไร ซึ่งตนมีความพร้อมอย่างเต็มที่ๆจะแสดงวิสัยทัศน์หากสภาอนุญาต และจะแสตนบายรออยู่ที่สภาเพื่อรอการแสดงวิสัยทัศน์ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาหรือไม่

สุดท้ายนี้ ธนาธรขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทุกคนตัดสินใจให้ถูกต้อง นำพาประเทศไทยออกจากเผด็จการร่วมกัน โดยอย่าปล่อยให้การสูญเสียและความฝันเดือนพฤษภาคมปี 2535 ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากผู้ได้รับเลือกตั้ง ต้องสูญเปล่าไปในวันพรุ่งนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net