Skip to main content
sharethis

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนฝนตก 47 จังหวัด พื้นที่เสี่ยงภัย-ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำระวังอันตราย ด้าน ปภ. ระบุตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ใน13 จังหวัด 17 อำเภอ 33 ตำบล 72 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 194 ครัวเรือน


ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์


31 ส.ค. 2562 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่านายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุล ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี กระบี่ และระนอง รวม 17 อำเภอ 33 ตำบล 72 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 194 ครัวเรือน ยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ได้แก่ 1.อุบลราชธานี เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วม ในพื้นที่อำเภอกุดข้าวปุ้น บริเวณวัดบูรพานิมิตร ประชาชนได้รับผลกระทบ 65 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 2.ร้อยเอ็ด เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอเมยวดี และอำเภอเมืองร้อยเอ็ด รวม 12 ตำบล 38 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 4,110 ไร่ ถนน 5 สาย สะพาน 1 แห่ง พนังกั้นน้ำ 3 แห่ง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 3.มหาสารคาม เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองมหาสารคาม บริเวณเรือนจำ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 4.เพชรบูรณ์ เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอชนแดน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง และ 5. ระนอง เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอกระบุรี ประชาชนได้รับผลกระทบ 64 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

นายชยพล กล่าวต่อว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้หลายพื้นที่อาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขอเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 47 จังหวัด พื้นที่เสี่ยงภัย-ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำระวังอันตราย

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรงที่อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงได้

สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ที่ปกคลุมอยู่บริเวณจังหวัดเลย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 1 ก.ย.นี้ ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์  อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง  บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

อพยพวุ่นชาวบ้านบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หนีน้ำท่วม

ThaiPBS รายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา (31 ส.ค.) เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังฝนตกหนัก น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หลายหลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง

นอกจากนี้ยังพบว่าชาวบ้านหลายคนไม่สามารถหนีน้ำออกมาไม่ทัน ทำให้ต้องปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน เพื่อหนีน้ำเเละขอความช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชน และสัตว์เลี้ยง ต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน

เวลา 09.00 น.น้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนมิตรภาพ ช่วงบริเวณ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้

ขณะที่ ทางหลวงบ้านไผ่ ขท.ขอนแก่นที่ 3 (บ้านไผ่) รายงานเมื่อ 09.40 น. เกิดฝนตกสะสมต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมขังบริเวณไหล่ทางและผิวทางระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ตอน พล - บ้านไผ่ ที่ กม.293+500 - 294+200 ทั้งขาเข้า เเละขาออก อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งปิดถนนมิตรภาพ แนะเส้นทางเลี่ยงบริเวณน้ำท่วม ในเขต อ.โนนศิลา และ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

 

 

กรณีรถที่เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่น ให้ใช้เส้นทาง มิตรภาพขาออก กทม.ให้เลี้ยวซ้ายแยกสัญญาณไฟแดง อ.พล เพื่อใช้เส้นทาง เมืองพล-แวงน้อย (ทล.2065) ข้ามทางรถไฟเลี้ยวขวา เพื่อใช้ถนน เมืองพล-ใหม่นาเพียง (ทล.2233) เมื่อถึง แยกบ้านใหม่นาเพียงเลี้ยวขวาใช้ถนน กุดรู-ชนบท (ทล.2199) เพื่อผ่าน อ.แวงใหญ่ เข้า อ.ชนบท ถึงถนน แจ้งสนิท (ทล.299) แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้า อ.มัญจาคีรี ออก อ.พระยืน เข้า จ.ขอนแก่น

กรณี มาจาก จ.นครราชสีมา เพื่อไป จ.ร้อยเอ็ด กาฬสินธ์ สกลนคร นครพนม ให้มาเลี้ยวขวาแยก อ.หนองสองห้องถนน มิตรภาพตัดถนนเจนจบทิศ (ทล.2440) หรือ (ทล.207 เก่า) เพื่อมุ่งหน้าเข้า อ.หนองสองห้องแล้ว เข้าเขต อ.พุทไธสงฆ์ จ.บุรีรัมย์

ในขณะที่ เมื่อเวลา 12.40 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ขอนแก่น ได้นำเรือท้องแบน จำนวน 5 ลำ เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมรถขนย้ายผู้ประสบภัย 2 คัน เครื่องจักรกู้ภัยต่างๆ ร่วมสนับสนุนช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ในเขตตัวเมืองบ้านไผ่ และบริเวณใกล้เคียงที่ว่าการ อ.บ้านไผ่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net