Skip to main content
sharethis

อัยการนัดฟังคำฟ้องกรณี แชร์เนื้อหาจากเพจ “KonthaiUK” ซึ่งเป็นข้อความด่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร หลังไม่มีความเคลื่อนไหวทางคดีมา 2 ปีแล้ว ผู้ต้องหา 21 รายเดินทางมาจากหลายจังหวัดเพื่อฟังคำสั่ง สุดท้ายได้รับแจ้งว่ายังไม่มีคำสั่งจากอัยการสูงสุด ให้เลื่อนนัดออกไปก่อน

แฟ้มภาพ: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

6 ก.พ. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ประชาชนจำนวน 21 คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาจากกรณีแชร์เนื้อหาในเพจ “KonthaiUK” ทางเฟสบุ๊ค  เดินทางเข้าฟังคำสั่งอัยการในข้อหา นำเข้า เผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2)(5)

ในคดีนี้มีผู้ต้องหาซึ่งถูกออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหารวม 26 คน ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา จนเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ 2 ราย หนึ่งในนั้นคือ วัฒนา เอ็บเบจช์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจ “KonthaiUk” ซึ่งพำนักอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่วนอีกรายปัจจุบันถูกจับกุมและคุมขังในระหว่างสอบสวนอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ผู้ต้องหาที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 24 ราย ในนัดส่งตัวให้อัยการไม่ได้มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนรวม 3 ราย เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ในวันนี้ไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่งอัยการด้วย

ผู้ต้องหาที่เดินทางมาฟังคำสั่งอัยการในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีพื้นเพอาชีพที่หลากหลาย  หลายคนเดินทางมาพร้อมกับญาติ เนื่องจากอัยการแจ้งว่าหากมีคำสั่งฟ้องจะต้องทำเรื่องประกันตัว โดยผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งมีอายุมากกว่า 60 ปี และไม่ได้ประกอบอาชีพ ผู้ต้องหาอีกจำนวนหนึ่งทำอาชีพรับจ้างซึ่งไม่สามารถหยุดงานบ่อยครั้งเพื่อมาตามนัดของอัยการหรือศาลได้ ส่งผลให้หลายคนในจำนวนนี้ตัดสินใจว่า หากคดีไปถึงชั้นศาลจะให้การรับสารภาพ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเดินทางมาสู้คดีได้ 

เนื่องจากผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดีในคดีนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในหลายจังหวัดทุกภูมิภาค อาทิ จ.ร้อยเอ็ด, นราธิวาส, ระยอง, เชียงราย, สุโขทัย, ชลบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาส่วนหนึ่งจึงเดินทางมาจากต่างจังหวัดตั้งแต่เช้าตรู่ บางคนเดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืน โดยมีเพียง 10 คน ที่สามารถเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวได้ทันในวันนี้ ขณะที่ผู้ซึ่งไม่มีหลักทรัพย์จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเช่าหลักทรัพย์คนละ 16,000-20,000 บาท โดยประมาณ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหาทั้งหมดนั่งรอคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องกว่า 1 ชั่วโมง ในเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการได้แจ้งว่า ยังไม่มีคำสั่งจากอัยการสูงสุด อัยการจึงเลื่อนนัดฟังคำสั่งไปเป็นวันที่ 25 ก.พ. 2563 และให้ผู้ต้องหาทั้งหมดกลับบ้านไปก่อน  

ทั้งนี้ พฤติการณ์ของผู้ต้องหาแต่ละคนที่เป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาและดำเนินคดีในคดีนี้แตกต่างกันไป โดยมีจำนวนโพสต์ที่แชร์จากเพจไม่เท่ากัน บางคนเพียงแค่แชร์โพสต์ บางคนแชร์และแสดงความคิดเห็นประกอบด้วย โพสต์ที่ถูกแชร์มาจากเพจมีเนื้อหา อาทิ 

ภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “เรือเหาะ…ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91200 มาแดกอีก… จะยอมมันอีกไหม”
 

ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบกับข้อความว่า “ตู่ ขอ คนหนีคดีที่อยู่ต่างแดนกลับมาพิสูจน์ความผิดในไทย ขายชาติ ทะหมาอย่างมึง ทำผิด…แต่ไม่ขอรับผิด! คงมีแต่คนเสียสติเท่านั้น ที่จะกลับมาสู้คดี ที่มีแต่กฎหมา เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด”

ภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและภาพพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกอบกับข้อความว่า “คสช. รัฐบาลเถื่อนคณะตัวเหี้ยแห่งชาติ พวกขายชาติตัวจริง งบประมาณมีไว้กิน แผ่นดินมีไว้ขาย กฎหมายมีไว้เลี่ยง คะแนนเสียงมีไว้ซื้อ สื่อมีไว้ใส่ไฟประชาธิปไตยมีไว้บังหน้า”


คดีนี้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาตั้งแต่ช่วง มิ.ย.2561 โดยในช่วงเวลานั้นตำรวจท่องเที่ยวได้นำตัวผู้ต้องหา 7 คน มาร่วมแถลงข่าวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ด้วยการแสดงหมายเรียกพร้อมนำตัวผู้ต้องหามาจากบ้านและที่ทำงาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องหาที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด อย่างไรก็ตามคดีไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอีกหลังจากนั้นจนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 พนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหามาส่งตัวที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 และอัยการได้นัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในวันนี้

ทั้งนี้คดีแชร์เพจ “KonthaiUK” ถูกแยกออกเป็น 2 คดี คือคดีที่มีจำเลย 10 คน ซึ่งถูกฟ้องเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2563 และกำลังอยู่ในขั้นสืบพยานระหว่างวันที่ 3-7 ก.พ.และ11-12 ก.พ. 2563 และคดีซึ่งมีจำเลย 26 คน ที่ยังคงรอฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องจากอัยการ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net