ยูนิเซฟยกระดับความช่วยเหลือใน 145 ประเทศ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ต่อเนื่องในช่วงโรงเรียนปิด บอร์ดสุขภาพฯ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญประชาชนสู้ ทุกตำบล 'กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า' ส่งธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ รพ.บันนังสตา
ยูนิเซฟยกระดับความช่วยเหลือใน 145 ประเทศ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ต่อเนื่องในช่วงโรงเรียนปิด
ขณะที่การปิดโรงเรียนกำลังสร้
27 มี.ค.2563 องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย โรเบิร์ต เจนกิ้นส์ หัวหน้าฝ่ายการศึกษาขององค์
ยูนิเซฟได้จัดสรรเงินช่วยเหลื
การช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยให้
ยูนิเซฟเตรียมทำงานกับพันธมิ
- สนับสนุนแผนการรับมือวิกฤตของรั
ฐบาล โดยให้กาารช่วยเหลือด้านเทคนิค การวิเคราะห์ความเสี่ยง การเก็บข้อมูล และการวางแผนการเปิดเรียน - สนับสนุนการวางแผนและการดำเนิ
นงานของโรงเรียน เช่น จัดทำและเผยแพร่คู่มือโรงเรี ยนปลอดภัย จัดส่งสิ่งของเพื่อสุขอนามัย และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้ องกันโรค ฝึกอบรมครูและผู้ปกครองด้ านการดูแลจิตใจตนเองและเด็ก - สนับสนุนให้การเรียนรู้
ทางไกลดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยออกแบบและจัดเตรียมหลักสู ตรการศึกษาทางเลือกบนช่ องทางออนไลน์ วิทยุ และโทรทัศน์ - พัฒนาศักยภาพในการแบ่งปันความรู้
และถอดบทเรียนในการรับมือกั บการแพร่ระบาดทั้งในปัจจุบั นและอนาคต
ข้อมูลเพิ่มเติม
ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา องค์การยูนิเซฟ องค์การอนามัยโลก (WHO) และสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้
บริจาคเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ผ่านองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ที่
ออนไลน์: http://www.unicef.or.th/th/
โอนผ่านบัญชีธนาคาร: ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 201-3-01324-4
กรุณาส่งข้อมูลติดต่อ (ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์) พร้อมใบสลิปมาที่ยูนิเซฟ โดยระบุ “โควิด-19” มาที่ unicefthailand@unicef.org
บอร์ดสุขภาพฯ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญประชาชนสู้ ทุกตำบล
กลุ่มงานสื่อสารทางสังคม สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) รายงานว่า ที่ สช. วันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับแผนงาน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19” ที่หน่วยงานภาคียุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น สธ.สปสช.สสส.สวรส. สรพ.สพฉ. และด้านสังคม เช่น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายหมออนามัย ๗ องค์กร และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมกับเครือข่ายภาครัฐสถาบันวิชาการธุรกิจเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่จับมือประกาศจุดยืนสู้ภัยโควิด19 สนับสนุนชุมชนคลอดธรรมนูญประชาชน เน้นปกป้องผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน โดยมี สช. เป็นหน่วยประสานงานกลาง
หลังประชุม นายอนุทินเปิดเผยว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้หารือและเห็นว่าการระบาดของโรคโควิด19 มีความรุนแรงมากขึ้นและขณะนี้กระจายเข้าสู่พื้นที่ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ถือเป็นวิกฤตของประเทศที่ต้องการรวมพลังจากทุกภาคส่วนมาหนุนช่วยขณะที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคนี้ และมุ่งปกป้องชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้ได้อย่างจริงจริง
“ผมและกรรมการสุขภาพแห่งชาติทุกคนเห็นด้วยกับแผนงานที่ สช.เสนอ และได้มอบให้ท่านเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ไปดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งส่วนกลางและพื้นที่ทำการขับเคลื่อนเตรียมพร้อมชาวบ้านในชุมชนจากความตื่นกลัวเป็นตื่นรู้และมีเวทีเรียนรู้ จัดทำข้อตกลงร่วมหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด 19 ในทุกตำบลชุมชนหมู่บ้าน เพราะประชาชนเป็นพลังสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเป็นหูเป็นตา ดูแลกลุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อไวรัส และปกป้องผู้สูงอายุ เด็นเล็กที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้ป่วยหนักจนเป็นภาระกับโรงพยาบาล รวมถึงการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามข้อแนะนำของทางการ” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า แม้ในโหมดของการรักษาทางกระทรวงสาธารณสุขจะค่อนข้างเตรียมความพร้อมได้ดีแล้วแต่หากมีการระบาดหนักก็ยังเป็นการยากที่จะรองรับไหว ดังนั้นการป้องกันการแพร่ระบาดโดยมาตรการ Social Distancing จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทำอย่างไรให้เรื่องนี้อยู่ในความตระหนักของประชาชนทั้งสังคมอย่างแท้จริง เรื่องนี้มีงานศึกษาจากประเทศออสเตรเลียรองรับแล้วว่า ต้องทำมาตรการนี้ให้ได้ถึงร้อยละ 80 จึงจะสามารถควบคุมการแพร่กระจายได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ทำได้เพียงร้อยละ 70 ตัวเลขเหมือนจะดูห่างกันไม่มากแค่ร้อยละ 10แต่ผลลัพธ์การแพร่กระจายกลับสูงแตกต่างกันอย่างมาก ผลการศึกษายังชี้อีกว่า หากทำมาตรการนี้ได้ถึงร้อยละ90ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะหยุดการแพร่กระจายได้ในเวลาไม่นาน การสร้างความเข้าใจและทำให้ประชาชนร่วมมือให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด19” มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการสนับสนุนให้ทุกตำบลจัดกระบวนการประชาคมของสภาองค์กรชุมชน ร่วมกับอาสาสมัครกลุ่มต่างๆ ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้เกิดข้อตกลงร่วมของประชาชนหรือธรรมนูญประชาชนสู้ภัยโควิด19ทุกตำบล ทุกชุมชนหมู่บ้าน ให้เต็มพื้นที่ภายในเดือนเมษายน นี้
“ขณะนี้มีการดำเนินการเรื่องนี้ในหลายพื้นที่แล้ว เช่น ธรรมนูญสุขภาพตำบลสร้างนกทาว่าด้วยปฏิบัติการต้านโควิด19 ธรรมนูญตำบลหนองหลวงว่าด้วยมาตรการเร่งด่วนเฉพาะกิจเกี่ยวกับโควิด19 ธรรมนูญตำบลนาโพธิ์กลางว่าด้วยมาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นต้น สำหรับในกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการนำล่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่เป็นตัวอย่างในบางชุมชนพื้นที่หรือบางเขต”
“ถ้าประชาชนในพื้นที่จับมือกันและหนุนช่วยมาตรการต่างๆ ของรัฐ เราจะชนะโรคโควิด19 และประเทศไทยจะพ้นวิกฤตนี้ได้อย่างแน่นอน”เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าว
'กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า' ส่งธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์ รพ.บันนังสตา
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า วันนี้ เวลา 11.30 น. ที่โรงพยาบาลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พ.อ.นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแพทย์จังหวัดชายเเดนใต้ เป็นประธานมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค และอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ ในกิจกรรม “ธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์” โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา ตามโครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยโควิด – 19 ภายหลังบุคลากรททางการแพทย์ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 ทำให้ปิดบริการบางส่วน และกักตัวเจ้าหน้าที่ โดยมี นายวิกฤตนรากรณ์ คงแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบันนังสตา, รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา, ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 , แพทย์, พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบันนังสตาเข้าร่วม
พ.อ.นพ.โชคชัย กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากความปรารถนาดี ความห่วงใย มายังบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลบันนังสตา ทุกคนถือเป็นบุคคลผู้เสียสละเพราะเป็นด่านแรกที่สัมผัสเชื้อโรค แต่ด้วยหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาประชาชน ซึ่งไม่สามารถเลี่ยงได้ ขอเป็นกำลังใจแก่ แพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนให้มีกำลังใจ ผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นย้ำหน่วยในพื้นที่ร่วมกับ ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับมาตราการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19 เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ ไม่ให้ขยายวงลุกลามมากขึ้น
ก️อ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานด้วยว่า กิจกรรม “ธารน้ำใจแด่นักสู้เสื้อกาวน์” โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นหนึ่งในกิจกรรมตามโครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยโควิด – 19 ซี่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน 4 ส่วนหน้า จัดขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ โควิด – 19 และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยขณะนี้โรงพยาบาลบันนังสตา จังหวัดยะลา ได้ปิดทำการชั่วคราว รับเฉพาะคนไข้ฉุกเฉินเท่านั้น คนไข้ทั่วไปสามารถขอเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง