กลุ่มเอ็นจีโอและฝ่านค้านกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นข้อเรียกร้องต่อเวียดนามให้ถอนแหล่งพักพิงของทหารที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ข้อพิพาทด้านพรมแดนออกไป โดยบอกว่าการมาตั้งที่พักของทหารในเขตชายแดนเหล่านี้เป็นการพยายามรุกล้ำพื้นที่พรมแดนกัมพูชา ฝ่ายเวียดนามอ้างว่าพวกเขาต้องป้องกันไม่ให้มีคนเข้าเมืองซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของ COVID-19
ที่มาภาพ: Kandal Provincial Police (อ้างใน rfa.org)
Rong Chhun สมาชิกกลุ่มเอ็นจีโอกัมพูชา แคมโบเดียวอทช์ด็อกเคาน์ซิลเปิดเผยว่า มีการตั้งแหล่งพักพิงชั่วคราวของทหารเวียดนามในพื้นที่ๆ ยังคงเป็นข้อพิพาทระหว่างกัมพูชากับเวียดนามในจังหวัดกันดาล ซึ่งตัวแทนเอ็นจีโอรายนี้ระบุว่าถือเป็นการพยายามรุกล้ำอาณาเขตของกัมพูชา ทำให้พวกเขาเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในที่แห่งดังกล่าวและเพิ่มการตรวจลาดตระเวณในพื้นที่ดังกล่าว
มีการค้นพบแหล่งพักพิงชั่วคราวของทหารเวียดนามตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา จากการที่ตำรวจกัมพูชาลาดตระเวณแถบชายแดนจังหวัดกันดาล พวกเขาพบว่ามีการตั้งเต็นท์ที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่งมีทหารเวียดนามพักอาศัยอยู่ในเต็นท์เหล่านั้นหลังละ 5-6 คน ตำรวจกัมพูชาเรียกร้องให้รื้อเต็นท์เหล่านี้กลับไป
ฝ่ายทางการเวียดนามไม่ได้พูดถึงอะไรในประเด็นนี้ แต่ทหารที่อยู่ในเต็นท์เหล่านั้นก็กล่าวอ้างว่าพวกเขาต้องมาประจำการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองเพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของ COVID-19
อย่างไรก็ตามตัวแทนเอ็นจีโอกัมพูชาชี้ว่าการกระทำที่อ้างว่าป้องกัน COVID-19 นี้ผิดต่อสนธิสัญญาสันติภาพปี 2534 ที่เรียกว่าสนธิสัญญาสันติภาพปารีส ในสนธิสัญญานี้มีการลงนามร่วมกันเพื่อยุติสงครามระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม โดยที่ตัวแทนเอ็นจีโอร้องเรียนว่ารัฐบาลควรจะยื่นฟ้องร้องการละเมิดสนธิสัญญานี้
ทั้งนี้ Muong Sony ประธานสหพันธ์นักศึกษาปัญญาชนกัมพูชาก็วิพากษ์วิจารณ์รัฐบ่ลกัมพูชาในเรื่องนี้ โดยกล่าวหาว่าการทที่รัฐบาลมีนโยบายที่อ่อนแอทำให้ไม่สามารถปกป้องพรมแดนของตัวเองได้ โดยที่ประธานองค์กรนักศึกษารายนี้จะเป็นตัวแทนเข้าไปเยือนพื้นที่พิพาทภายในสุดสัปดาห์นี้
Um Sam An อดีตสมาชิกพรรคฝ่ายค้านกัมพูชาที่เคยจำคุกเพราะโพสต์เฟสบุควิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องการจัดการประเด็นชายแดนกล่าวว่ากัมพูชาควรจะกำหนดเส้นเขตแดนของตนผ่านแผนที่ซึ่งจัดทำโดยฝรั่งเศสซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของพวกเขา Um Sam An กล่าวอีกว่าพวกเขาต้องการให้เวียดนามถอนเต็นท์ของตัวเองออกไป
Prak Sokhon รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าทางการจะพิจารณายื่นคำร้องทักท้วงเกี่ยวกับเรื่องพรมแดนหลังจากที่ทางรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนในเรื่องนี้เสร็จแล้ว รัฐมนตรีกล่าวอีกว่า "เหตุการณ์ประมาณนี้เกิดขึ้นเป็นบางครั้งบางคราว"
ข้อพิพาทระหว่างกัมพูชากับเวียดนามเป็นประเด็นกันมาก่อนหน้านี้แล้วในอดีต มีอยู๋ครั้งหนึ่งที่เวียดนามพยายามจะสร้างฐานทัพทหารในพื้นที่พิพาทซึ่งก็มีการโต้ตอบอย่างรวดเร็วจากทางการกัมพูชา อีกทั้งยังเคยมีเหตุการณ์ในปี 2558 ที่ตัวแทนของพรรคฝ่ายค้าน CNRP ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพรรคการเมืองที่ถูกแบนในกัมพูชาไปแล้ว ถูกโจมตีจากชาวบ้านชาวเวียดนามหลังจากเข้าไปตรวจสอบในจังหวัดสวายเรียง เพื่อสืบสวนเรื่องที่เจ้าหน้าที่จังหวัดลองอานของกัมพูชาสร้างถนนคร่อมพื้นที่อาณาเขตของกัมพูชา
ในปี 2539 กัมพูชากับเวียดนามเคยลงนามในหนังสือแถลงการณ์ร่วมกันระบุห้ามไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำการเปลี่ยนแปลงจุดปักปันเส้นเขตแดน รวมถึงห้ามไม่ให้มีการหาประโยชน์หรือตั้งรกรากบนอาณาเขตที่กำลังมีข้อพิพาท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)