Skip to main content
sharethis

ข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่าเวียดนามสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ บนหมู่เกาะทะเลจีนใต้ที่กำลังมีข้อพิพาทด้านเขตแดน โดยมีฐานทัพทหารอยู่ในที่ดังกล่าวประมาณ 49-51 แห่ง ล่าสุดข้อมูลจากภาพถ่ายผ่านดาวเทียมจับภาพได้ว่าเวียดนามสร้างสิ่งก่อสร้างบนเกาะ 3 แห่งขึ้นพร้อมกัน

17 พ.ย. 2564 จากภาพถ่ายผ่านดาวเทียมของแพลนเนตแล็บส์วิเคราะห์โดยสื่อแสดงให้เห็นว่าทางการเวียดนามได้สร้างสิ่งก่อสร้างบนพื้นที่เกาะ 3 แห่งในภูมิภาคทะเลจีนใต้ที่กำลังเป็นข้อพิพาทคือ เพียร์สันรีฟ, เกาะนามยิต และแซนด์เคย์ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่พิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่มีจีน, ฟิลิปปินส์ และเวียดนามอยู่ในกลุ่มพิพาทหลักๆ

สื่อเรดิโอฟรีเอเชียระบุว่านับตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มจับตามองการเริ่มปลูกสร้างชุดใหม่บนเพียร์สันรีฟตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. จนถึง 15 พ.ย. ที่มีการรายงานข่าวเรื่องนี้ก็พบว่ามีการปลูกสร้างสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นท่าจอดเรือหรือท่าเรือสองส่วนใหญ่ๆ มีการตั้งข้อสังเกตว่าเพียร์สันรีฟขยายขึ้นประมาณ 6 เอเคอร์ แต่ส่วนที่เป็นการถมผืนดินนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปี 2557 แล้ว จากข้อมูลขององค์กรการริเริ่มด้านความโปร่งใสทางทะเล หรือ AMTI

ในพื้นที่เกาะนามยิตและแซนด์เคย์ที่เวียดนามควบคุมอยู่ก็มีการสร้างอู่เรือเพื่อทำให้เกาะสองแห่งนี้เข้าถึงง่ายขึ้นและเป็นที่สำหรับพักเรือได้

นักวิเคราะห์ในเวียดนามระบุว่าประเทศของพวกเขาต้องสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกัดเซาะของหน้าดินและป้องกันไม่ให้เกิดดินถล่ม เป็นไปเพื่อการปกป้องผืนดินไม่ใช่เพื่อต้องการขยายผืนดินหรือเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเกาะภายใต้การควบคุมของพวกเขา

จากการให้สัมภาษณ์ของผู้นำทหารอาวุโสนายหนึ่งของเวียดนามกล่าวว่าภายใต้แผนยุทธศาสตร์ใหม่ของเวียดนามพวกเขามีแผนการจะสร้างอารยธรรมในพื้นที่ทะเลจีนใต้มากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเพื่อปกป้องอธิปไตยของเวียดนาม

AMTI ระบุว่าเวียดนามมีฐานทัพอยู่ราว 49-51 แห่งในแถบทะเลจีนใต้ทั้งตามเกาะแก่งต่างๆ 27 แห่งรวมถึงเกาะเล็กๆ  10 แห่ง เวียดนามค่อยๆ ขยายการควบคุมพื้นที่ภูมิภาคนี้มาตั้งแต่ปี 2557 มีอย่างน้อย 4 พื้นที่ที่มีอู่เรือสำหรับเรือของพลเรือนที่สามารถเข้าถึงการจัดหาทรัพยากรทดแทนหรือเพื่อเป็นที่พักพิงจากสภาพภูมิอากาศแย่ๆ ได้

ประเทศจีนที่อ้างสิทธิเหนือพื้นที่ทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดวิจารณ์ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเวียดนามในเรื่องที่พวกเขาก่อสร้างตามเกาะต่างๆ ในพื้นที่ภูมิภาคนี้ จีนมีองค์กรคลังสมองสำหรับเรื่องนี้ที่เรียกว่า "องค์กรริเริ่มการตรวจสอบทะเลจีนใต้" ซึ่งทางองค์กรนี้ได้อ้างว่าพวกเขาได้อ้างสิทธิอาณาเขตเหนือพื้นที่มากกว่า 17,000 ตารางเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะนามยิตแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่แสดงออกถึงการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่เหล่านั้นเลย

จากข้อมูลของ AMTI ระบุว่าในปี 2559 นั้นเวียดนามสร้างสิ่งต่างๆ บนหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ประมาณ 120 เอเคอร์ (ราว 485,623 ตร.ม.) เทียบกับจีนที่สร้างกินพื้นที่ราว 3,200 เอเคอร์ (13 ล้าน ตร.ม.)

แม้ขนาดการใช้พื้นที่จะต่างกัน แต่ มาร์ค วาเลนเซีย นักวิชาการจากสถาบันแห่งชาติจีนเพื่อการศึกษาวิจัยทะเลจีนใต้ก็บอกว่าหลักการในการอ้างสิทธิเหนือเขตแดนของทั้งเวียดนาม, จีน และฟิลิปปินส์ก็เหมือนกัน วึ่งแต่ละประเทศต่างก็ทำการสร้างสิ่งต่างๆ บนพื้นที่ๆ ตัวเองอ้างสิทธิเหนือพื้นที่อาณาเขตนั้นๆด ทำให้ในความคิดเห็นของวาเลนเซียมองว่า "ไม่มีใครดีเลิศเป็นเทวดาสำหรับประเด็นทะเลจีนใต้"

AMTI ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2557 จีนได้ติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารบนพื้นที่หมู่เกาะสแปรตลีย์และหมู่เกาะพาราเซล เช่น สถานีเรดาร์, ลานบิน และระบบขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศและขีปนาวุธต่อต้านเรือ ขณะที่เวียดนามมีลานบินเพียงแห่งเดียวบนเกาะสแปรตลีย์ที่มีคนคอยปฏิบัติการอยู่ตั้งแต่ช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 20

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net