Skip to main content
sharethis

'อนุสรณ์ ธรรมใจ' ชี้ปีงบฯ 2564 จะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 30-40% และยังต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายสวัสดิการและดูแลผลกระทบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 35% ทางออกคือรัฐต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ-ประชาชนมีวินัย เตรียมทำโครงการ 'หมู่บ้านชุมชนประชาธิปไตยสมบูรณ์และเศรษฐกิจดุลยธรรม'


อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (แฟ้มภาพ)

3 พ.ค. 2563 นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ได้กล่าวแสดงความห่วงใยถึงวิกฤตฐานะทางการคลังและปัญหาการแพร่ระบาดของโรคคอร์รัปชัน ว่าขณะนี้โลกกำลังอยู่ในภาวะสงครามกับเชื้อโรคและน่าจะยืดเยื้อไม่ต่ำกว่า 2 ปี หลายประเทศทั่วโลกมีการใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อแก้ปัญหาและเยียวยาความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ บางประเทศเกิดโรคระบาดใหม่ คือ โรคระบาดคอร์รัปชันงบประมาณและเงินช่วยเหลือของรัฐ ซึ่งประเทศเหล่านี้จะเผชิญกับปัญหาวิกฤติฐานะทางการคลังแน่นอน 

ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้รัฐบาลจะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 30-40% ในปีงบประมาณ 2564 ขณะเดียวกันต้องเพิ่มงบค่าใช้จ่ายทางด้านสวัสดิการและดูแลผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 35% ความเสี่ยงเรื่องวิกฤติฐานะทางการคลังเพิ่มขึ้นตามลำดับ ทางออก คือ ต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและไม่รั่วไหล จึงต้องหาระบบ กลไกและการดำเนินการที่ป้องกันการรั่วไหลและป้องปรามการทุจริตเพื่อให้ความช่วยเหลือตกถึงประชาชนและกิจการรายเล็กรายย่อย สงครามกับเชื้อโรค COVID-19 และ โรคระบาดใหม่การทุจริตคอร์รัปชันครั้งนี้ต้องอาศัยพลเมืองผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและมีความรักในเพื่อนมนุษย์ เพื่อนร่วมชาติต้องร่วมกันเสียสละ 

ศึกนี้ไม่ต้องอาศัยปืนและกระสุน รถถังหรือเรือดำน้ำ สงครามนี้ไม่ต้องใช้กองทัพสู้รบ แต่อาศัยบุคลากรทางการแพทย์ผู้อุทิศตัวและประชาชนผู้มีวินัย เป็นสงครามไร้พรมแดน ฉะนั้นกรุณาอย่าใช้แนวคิดชาตินิยมแบบคับแคบมาแก้ปัญหา สงครามที่ไม่มีข้อตกลงหยุดยิง แต่ต้องเร่งลงทุนวิจัยหาวัคซีนและยารักษาโรคให้ได้และกระจายให้เร็วที่สุดโดยเลิกคิดในกรอบความคิดทรัพย์สินทางปัญญาแบบทุนนิยมสุดโต่ง มาตรการ นโยบาย และโครงการของรัฐควรต้องมุ่งไปที่การบรรเทาความยากลำบากทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ ขยายการลงทุน และปฏิรูปเศรษฐกิจให้เกิดความเป็นธรรมและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ดีขึ้น ตาม แนวทาง Relief, Recovery and Reform

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า เชื้อโรค COVID-19 และโรคระบาดคอร์รัปชันไม่มีความปราณี มันเป็นสิ่งที่ปราศจากความเมตตาพอกัน มันไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กหรือผู้หญิงหรือศาสนสถาน กองทัพนี้ไม่สนใจผลพวงความเสียหายจากการแพร่ระบาด มันไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแต่มันจะทำให้เกิดภาวะความไม่สงบเรียบร้อยในสังคมอันนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงแบบอนาธิปไตยที่คาดการณ์อะไรไม่ได้เลย ขอให้ทุกท่านมีวินัยในการใช้ชีวิต เราทุกคนต้องยอมสละ “สิทธิเสรีภาพ” บางส่วนเพื่อ “ความปลอดภัยของสาธารณชน” ขอให้ผู้มีอำนาจรัฐจำนวนหนึ่งหยุดฉ้อฉล หยุดโลภ ขอให้นักธุรกิจและเศรษฐีใหญ่ที่มีรายได้จากการค้าอบายมุขเสียสละรายได้บางส่วนที่ต้องสูญเสียไปบ้าง การจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มสร้างความมึนเมาควรจะเป็นกิจการสุดท้ายที่ผ่อนคลาย ตนยังไม่สามารถหาเหตุผลได้ว่าทำไมจึงผ่อนคลายก่อน คงต้องจินตนาการว่า มีการตัดสินใจแบบเอื้อประโยชน์กันโดยไม่เป็นไปตามหลักการสาธารณสุขอย่างแท้จริง

โครงการชุมชนหมู่บ้านประชาธิปไตยสมบูรณ์และเศรษฐกิจดุลยธรรมเพื่อสังคมภราดรภาพนิยม

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่าตนจะเริ่มต้นทำโครงการ หมู่บ้านชุมชนประชาธิปไตยสมบูรณ์และเศรษฐกิจดุลยธรรม (รายละเอียดแนวคิดตามลิงค์นี้) เพื่อช่วยเหลือคนว่างงาน ผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายจากความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจและเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยโครงการต้นแบบจะเริ่มต้นที่ จ.แพร่ ในเดือน มิ.ย. และ โครงการภราดรภาพนิยม ร่วมกับ วัดและศาสนสถานต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยโครงการต้นแบบจะเริ่มต้นที่เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ และอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม ภายในเดือน ก.ค. โครงการเหล่านี้ตนจะใช้ทรัพยากรทางการเงินส่วนตัวและเงินออมที่สะสมมาเริ่มต้นดำเนินการก่อน หากหน่วยงานที่ตนเองทำหน้าที่อยู่จะร่วมสนับสนุนก็จะทำให้สามารถขยายความช่วยเหลือได้เพิ่มขึ้น 

อีกด้านหนึ่งก็จะไปร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทำแผนการฟื้นฟูและบรรเทาความยากลำบากทางเศรษฐกิจจังหวัดต่างๆ เช่นของ แพร่ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ เป็นต้น โดยโครงการเหล่านี้จะทำร่วมกับ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร. โอฬาร ไชยประวัติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ หอการค้าและนักธุรกิจ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ส่วนการทำโครงการปรับทักษะเพื่อการจ้างงานใหม่ ๆ ก็จะของบประมาณจากกระทรวง อว. (ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่) เช่น หลักสูตรธุรกิจกัญชง หลักสูตร eCommerce หลักสูตร Modern Practical Nurses หลักสูตร Modern Tourism Business หลักสูตร Modern Construction Business ฯลฯ ส่วนการทำกสิกรรมแบบไร้สารพิษ และการทำหลักสูตร การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด จะขอร่วมมือไปยัง มูลนิธิโรงเรียนผู้นำ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง และชุมชนสันติอโศก โดยกิจกรรมและโครงการบางอย่างจะทำในนาม มูลนิธิ กิจกรรมและโครงการบางอย่างจะทำให้รูปแบบ วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ 
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net