เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ โพสต์คำสั่งศาลสั่งปิดเฟซบุ๊กหลาย URL รวมทั้งกลุ่ม 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ระบุผิด พ.ร.บ.คอมฯ เนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ขณะที่ป้ายตลาดโผล่ที่ชุมนุมหลายจังหวัด ส่วนสมาชิกทะลุ 8.3 แสน เปิดข้อมูลบางคนถูก 'ฟ้อง-ล่าแม่มด-ถูกโทรขู่'

1 ส.ค.2563 จากเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยมาตรการเชิงรุกเกี่ยวกับเรื่องการกระทำความผิดทางออนไลน์ ที่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ว่า ในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2563 กระทรวงดีอีเอส ได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และประสานงานร่วมกับไอเอสพี จนนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งปิดหรือลบข้อมูลในเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้ว จำนวน 7,164 ยูอาร์แอล (วันที่ 23 ก.ค.63) จากจำนวนที่กระทรวงได้รับแจ้งทั้งสิ้น 8,715 ยูอาร์แอล และมีการส่งศาล 7,164 ยูอาร์แอล สำหรับการกระทำผิดส่วนใหญ่ที่ได้รับข้อมูลจากการแจ้งข้อมูลเข้ามา พบว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ และมีช่องทางอื่นๆ บ้าง ทั้งนี้ ดีอีเอส ได้ดำเนินการส่งข้อมูลให้กับ บก.ปอท. จำนวน 7,164 ยูอาร์แอล พร้อมพยาน หลักฐาน และคำสั่งศาล เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

“กระทรวงได้เตรียมการในการดำเนินการต่อแพลตฟอร์มใดก็ตามในต่างประเทศที่ให้บริการคนไทย ทำธุรกิจในประเทศไทย ต้องเรียนรู้ที่จะเคารพกฎหมายไทย และให้เกียรติ และรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนไทยและสิ่งที่ประเทศไทยยึดมั่นยึดถือด้วย ด้านเรื่องความมั่นคง กระทรวงได้ขอความร่วมมือไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ ซึ่งทาง ยูทูบ ได้ดำเนินการตามที่ขอประมาณ 90% แต่เฟซบุ๊กดำเนินการเพียง 28% ส่งไป 4,676 เรื่อง ทางเฟซบุ๊คดำเนินการไป 1,316 เรื่อง จึงต้องสื่อสารยัง เฟซบุ๊ก ว่าเมื่อดำเนินการในเมืองไทยก็อยากให้ให้ความร่วมมือในการให้ความเคารพ มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทย” พุทธิพงษ์ กล่าว

ที่มา ข่าวสดออนไลน์และสนุกดอทคอม

เป๊ปซี่ เผยคำสั่งศาลปิด 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส'

ล่าสุดวันนี้เฟซบุ๊ก 'Sermsuk Kasitipradit' ของ เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือ เป๊ปซี่ นักข่าวชื่อดัง โพสต์คำสั่งศาลอาญาเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สั่งปิด URL จำนวน 24 URL ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร้อง โดยระบุว่ามีเนื้อหาอันเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2559 และแก้ไขเพิ่มเติม ม.14(3) ประกอบ ม.20 

สมาชิกถูก 'ฟ้อง-ล่าแม่มด-ถูกโทรขู่'

สำหรับเฟซบุ๊กกลุ่ม 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและผู้ลี้ภัยการเมือง ปัจจุบันมีสมาชิก 8.3 แสนบัญชี เนื้อหาส่วนมากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์และการเมือง 

ก่อนหน้านี้เท่าที่เป็นข่าวมีสมาชิกกลุ่มถูกชายที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโทรศัพท์ข่มขู่ หลังไปแสดงความเห็นการเมืองและประเด็นไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์

เมื่อ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เสริมสุข เองในฐานะเป็นพิธีกร ทาง NEW 18 เคยออกมาอ้างว่า มีบุคคลใน ‘เครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันกษัตริย์ (คปส.)’ แจ้งความกับสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้มีการพิจารณาดำเนินคดีในส่วนบุคคลทั้งที่เปิดชื่อและปิดชื่อ หรือใช้อวตาร ที่เป็นสมาชิกกลุ่ม ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส’ จำนวนเกือบ 10 คน ในข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14 ในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 

ขณะที่เมื่อ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยข้อมูลการล่าแม่มดสมาชิกของ กลุ่ม ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลซ’ แล้ว 25 คน จนต่อมา อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบกรณีมีประชาชนที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ถูกล่าแม่มดหรือการคุกคามทางออนไลน์

ป้ายผุดหลายจังหวัด

นอกจากในพื้นที่ออนไลน์แล้ว การชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐหยุดคุกคามประชาชนและแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก็มีผู้นำป้าย 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ไปชูในที่ชุมนุมด้วย ตั้งแต่การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยวันที่ 18 ก.ค.53

ป้าย 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ที่ปรากฏบริเวณที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 18 ก.ค.63

หอชมเมือง จ.สมุทรปราการ ในการชุมนุม #สมุทรปราการจะไม่ทน เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นยังปรากฎในสถานที่ชุมนุมอื่นๆ อีก เช่น ที่ ม.เกษตร ม.ขอนแก่น ม.วลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นครราชศรีมา ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ชับภูมิ นครปฐม นครศรีธรรมราช น่าน แพร่ มหาสารคาม รังสิต ปทุมธานี ราชบุรี ลำปาง สระแก้ว อยุธยา อุดรธานี และอุบลราชธานี เป็นต้น