Skip to main content
sharethis

กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เปิดตลาดชุมชนของดีของเด็ดดงมะไฟ พร้อมจัดทัวร์ถ้ำที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองหิน ดีเดย์ 4 ก.ย. นี้ยึดพื้นที่เหมืองคืน เตรียมบวชป่าเพื่อฟื้นฟูเป็นป่าชุมชน ติดป้ายรณรงค์ #ให้เหมืองจบที่รุ่นเรา พร้อมอ่านคำประกาศปลดแอกดงมะไฟคืนความยุติธรรมให้ 4 นักปกป้องสิทธิที่ถูกลอบสังหาร 

ภาพวันที่ 3 ก.ย. 63 ชาวบ้านร่วมกันจัดเตรียมของดีเดย์ยึดเหมืองหินดงมะไฟ จ.หนองบัวลำภูในวันศุกร์นี้ (4 ก.ย.)

ตัวแทนชาวบ้านกำลังชี้ให้ดูจุดที่ถ้ำได้รับผลกระทบจากเหมือง

บรรยากาศการชุมนุมต่อต้านเหมืองของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดที่ปากทางเข้าเหมืองหินดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 63) ซึ่งเป็นวันที่อายุใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป่าเก่ากลอย และป่านากลางเพื่อทำเหมืองแร่หินปูนสิ้นสุดลง

โดยในช่วงเช้าตัวแทนไกด์พ่อๆ แม่ๆ ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมถ้ำและโบราณสถานรอบๆ ตำบลดงมะไฟที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองหิน อาทิวัดถ้ำศรีธน วัดป่าภูผายา และถ้ำเสือที่เป็นสถานที่สำคัญที่มีภาพเขียนอายุ 3,000 ปีอยู่ในถ้ำและได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร

บรรรยากาศการเปิดตลาดของดีของเด็ดดงมะไฟ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 63

ผ้าที่แม่ๆ นำมาขายในตลาดนัดของดีของเด็ดดงมะไฟ

ชาวบ้านดงมะไฟจัดเตรียมพานบายศรีสู่ขวัญเตรียมไว้ใช้วันยึดเหมือง

และในช่วงเย็นที่ผ่านมา ชุมชนร่วมกันเปิดตลาดนัดของดีของเด็ดของชาวบ้านดงมะไฟในราคาย่อมเยา โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายอาทิ ผ้าทอ หมอนทำมือ ตะกร้าใส่ของ ขนมท้องถิ่น สมุนไพรพื้นบ้าน รวมทั้งเห็ด และหน่อไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจของชาวบ้านชุมชนดงมะไฟ ซึ่งการเปิดตลาดในครั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันบอกเล่าความรู้สึกถึงผลกระทบที่แต่ละคนได้รับการเหมืองหิน

นางสุก รัตนสุทธิ หนึ่งในชาวบ้านที่นำตะกร้ามาขายเปิดเผยว่า อุปกรณ์ตะกร้านี้เขาใช้ไปเก็บเห็ดเป็นประจำเมื่อเข้าป่า ซึ่งจะได้เห็ดเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ป่ารอบเหมืองจะมีเห็นถอบ เห็นโคน และเห็ดพื้นบ้านหลายชนิด แต่พอมีเหมืองเข้ามาก็ทำให้เก็บเห็ดได้น้อยลงหรือต้องไปหาเพิ่มในพื้นที่อื่นซึ่งทำให้ตนได้รับผลกระทบมากจึงอยากให้เหมืองหินยุติการดำเนินกิจการไปและฟื้นฟูบริเวณนี้ให้เป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านจะใช้หาของป่าเพื่อยังชีพได้

ขณะที่นางหลง ชินแสง หนึ่งในชาวบ้านดงมะไฟที่นำหมอนทำมือมาจำหน่ายกล่าวว่า หมอนที่นำมาขาย เป็นลายดอกแก้ว ขายใบละ 100 บาท ใช้เวลาทำ 2-3 วัน ต่อหมอน 1 ใบ หมอนที่ทำเอามาใช้ประโยชน์หลากหลาย ใช้หนุนนอนเวลาอยู่ม็อบตลอด แถมพกพาสะดวก เวลาพักผ่อนหายห่วงเพราะมีหมอนหนุนนอนได้แบบสบาย วันพรุ่งนี้ก็จะนำหมอนเข้าไปยึดเหมืองเพื่อฟื้นฟูกลับมาเป็นป่าชุมชนกับเพื่อนๆ ด้วย

ด้านคุณลุงวันที กองปวน ชาวบ้านดงมะไฟซึ่งเป็นหมอยาสมุนไพรประจำหมู่บ้านได้นำยาสมุนไพรมาจำหน่าย โดยระบุว่าสมุนไพรเหล่านี้ได้ขึ้นไปเก็บแถบเทือกเขาบริเวณโดยรอบป่าผาซาง ซึ่งเป็นป่าที่เหมืองเข้ามาตั้งกิจการใกล้ๆและมีการระเบิดเหมืองตลอดเวลา ซึ่งทำให้ตนได้รับผลกระทบมาก ทั้งมลภาวะทางเสียงและฝุ่นลอง และตั้งแต่ที่มีเหมืองเข้ามาทำให้สมุนไพรหลายตัวหายากขึ้นและมีจำนวนลดน้อยลงด้วย

ขณะที่ช่วงเย็นชาวบ้านได้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “ดงมะไฟในฝันหลังปิดเหมือง” โดยชาวบ้านที่เข้าร่วมเวทีเสวนา ต่างมีความฝันร่วมกันหลังปิดเหมืองคือต้องการพัฒนาตำบลดงมะไฟให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งอยากให้มีการเปิดตลาดนัดชุมชนให้ชาวบ้านนำสินค้าของชุมชนมาจำหน่าย และอยากจะปลูกทุ่งทานตะวันและขุดสระน้ำบริเวณที่มีการทำเหมืองและสร้างช่องทางจักรยาน ให้ประชาชนในจังหวัดอื่นๆ เข้ามาท่องเที่ยวที่ดงมะไฟได้ด้วย

ด้านนางสาวปรานม สมวงศ์ จากองค์กร Protection International กล่าวว่าการต่อสู้ของนักปกป้องสิทธิฯจากกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดเกือบสามทศวรรษนั้นเป็นการต่อสู้ที่ชาวบ้านต้องออกมาสู้อย่างเด็ดเดี่ยวและปราศจากกลไกสาธารณะของรัฐในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนมาจากเครือข่ายประชาชนด้วยกันเองเช่นจากเครือข่ายประชาชนเจ้าของแร่และสหพันธ์เกษตรภาคใต้และขบวนการเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนรวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ภาคประชาสังคมและประชาธิปไตยที่เข้มแข็งสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

ขณะที่ในวันนี้ (4 ก.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 9.00 น. ชาวบ้านจะทำการยึดเหมืองอย่างเป็นอย่างทางการภายใต้ชื่อ “ยึดเขตเหมืองหินคืนเป็นป่าชุมชน”  โดยจะตั้งขบวนจากจุดปักหลักชุมนุมแล้วเดินเท้าเข้าไปยึดเหมืองและเริ่มกิจกรรมปักป้ายชื่อหมู่บ้าน พร้อมทั้งแขวนป้ายรณรงค์ “ให้เหมืองจบที่รุ่นเรา” และทำพิธีบวชต้นไม้เปลี่ยนเขตเหมืองหินให้เป็นเขตป่าชุมชน จากนั้นจะร่วมกันกล่าวคำปลดแอกดงมะไฟคืนความยุติธรรมให้กับ 4 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนดงมะไฟที่ถูกลอบสังหารจากการคัดค้านเหมืองรวมถึงจะมีการประกาศยึดคืนพื้นที่เหมืองแร่เป็นเขตป่าชุมชนพร้อมทั้งแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ก้าวเข้าสู่วาระการฟื้นฟูภูผาป่าไม้และปิดท้ายด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญภูผาป่าไม้และการเสวนาในหัวข้อ “ 26 ปีการต่อสู้สู่การปิดเหมืองหินฟื้นฟูภูผาป่าไม้”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net