‘เพื่อไทย’ อัดปมรัฐเยียวยาโควิด 3,500 คนละ 2 เดือน ชี้ ไม่เพียงพอ-เยียวยาไม่ได้จริง เสนอ 5 มาตรการ ก.คลังเผยกลุ่มอาชีพที่หมดสิทธิรับเงินเยียวยา 7 พันบ. สปสช.นำร่องจ่ายค่าบริการ Telemedicine เฟสแรกรับมือโควิด-19 รอบใหม่
‘เพื่อไทย’ อัดปมรัฐเยียวยาโควิด 3,500 คนละ 2 เดือน ชี้ ไม่เพียงพอ-เยียวยาไม่ได้จริง เสนอ 5 มาตรการ
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สืบเนื่องจากการเปิดเผยของรัฐบาลถึงมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดวงเงิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน และมาตรการอื่นๆ นั้น พรรค พท.โดยคณะกรรมการนโยบายและวิชาการเห็นว่า มาตรการเยียวยา 3,500 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น ไม่เพียงพอและไม่สามารถเยียวยาผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งพรรค พท.ได้เสนอชุดมาตรการรองรับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อย่างครอบคลุมทั้งสิ้น 17 มาตรการ ไปเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564
ทั้งนี้ พรรค พท.เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการสำคัญเร่งด่วน 5 เรื่อง ดังต่อไปนี้ทันที คือ 1.กลุ่มแรงงานนอกระบบที่ไม่มีประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอิสระ ลูกจ้าง กลุ่มเปราะบาง และเกษตรกร ให้แบ่งจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ และ แบ่งจ่ายเดือนละ 6,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน สำหรับในพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ
แถลงการณ์ระบุอีกว่า 2.ตั้งกองทุนสินเชื่อเพื่อ SMEs ผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 1 ล้านล้านบาท โดยไม่ผ่านกลไกของสถาบันการเงินพาณิชย์ 3.มาตรการคงการจ้างงาน สำหรับแรงงานในระบบประกันสังคม ภาครัฐสนับสนุนเป็นระบบขั้นบันได 50-60% ตามโซนความรุนแรง เป็นระยะเวลา 6 เดือน ภาครัฐสนับสนุนค่าจ้างผ่านผู้ประกอบการไปที่ลูกจ้าง เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน โดยไม่ใช่แบบที่รัฐบาลเยียวยาผ่านระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ 4.พักหนี้ผู้ประกอบการรวมถึงเกษตรกร ไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย และธนาคารหยุดคิดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน และ 5.ลดภาระของประชาชน อุดหนุนภาระดอกเบี้ย สำหรับผู้ที่ผ่อนยานพาหนะ ที่อยู่อาศัย ที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะเวลา 6 เดือน
ก.คลังเผยกลุ่มอาชีพใด หมดสิทธิรับเงินเยียวยา 7 พันบ.
หลังอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังจะเร่งพิจารณามาตรการบรรเทาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม โดยกำหนดวงเงินช่วยเหลือ เดือนละ 3,500 บาท นาน 2 เดือน รวมรับเงินคนละ 7,000 บาท โดยจะเสนอหลักการจ่ายเงินบรรเทาความเดือดร้อนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ในวันที่ 19 มกราคม โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะต้องมาลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่กระทรวงการคลังเปิดไว้ กำหนดระยะเวลาลงทะเบียนเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนมกราคม และผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิจะสามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในเดือนแรกได้อย่างช้าสุดไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ครอบคลุม 2 เดือน
ทั้งนี้ การคัดกรองผู้ที่ได้รับเงินบรรเทาทุกข์ 3,500 บาท นาน 2 เดือน จากมาตรการเราชนะ จะแตกต่างจากมาตรการเราไม่ทิ้งกัน ซึ่งกระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกคนแน่นอน เพราะเป็นการคิดจากฐานข้อมูลประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน และมาคัดกรองออกจนเหลือกลุ่มที่ต้องช่วยเหลือจริงๆ ไม่ใช่เป็นการเปิดลงทะเบียนว่าใครได้รับผลกระทบ ซึ่งวิธีการนั้นส่งผลให้มีจำนวนผู้ที่ต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับกลุ่มที่จะได้รับเงินบรรเทาทุกข์ แบ่งเป็น กลุ่มที่ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น “เราชนะ” เช่น กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน ซึ่งมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว และกลุ่มผู้เข้าร่วมมาตรการคนละครึ่ง ที่มีการยืนยันใช้สิทธิแล้วกว่า 13.8 ล้านราย หรือไม่เกิน 15 ล้านราย แต่ต้องพิจารณาคุณสมบัติว่าจะผ่านเกณฑ์ได้รับเงินบรรเทาทุกข์ด้วยหรือไม่อีกครั้ง และกลุ่มต้องลงทะเบียนใหม่ เป็นกลุ่มที่ไม่เคยอยู่ในฐานข้อมูลเดิมอยู่เลย
โดยกลุ่มที่จะได้รับเงินเยียวยา ต้องเป็นกลุ่มอาชีพอิสระ เกษตรกร ที่เคยลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร อาจจะต้องมาลงทะเบียนใหม่ และจะช่วยเหลือพร้อมกันในรอบเดียว ในหลักการก็จะช่วยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเหมือนมาตรการเราไม่ทิ้งกันก่อน เช่น กลุ่มแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และมัคคุเทศก์ เป็นต้น
กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มที่จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ 3,500 บาท นาน 2 เดือน เบื้องต้นจะเป็นกลุ่มที่ได้รับการดูแลอยู่แล้ว เช่น กลุ่มข้าราชการกว่า 3 ล้านคน พนักงาน และลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ กลุ่มที่อยู่ในฐานระบบกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 33 อีก 11 ล้านคน รวมทั้ง ผู้ที่มีรายได้สูง ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีเกณฑ์มาวัดว่ารายได้เท่าใด จึงจะไม่ได้รับเงิน 3,500 บาท โดยพิจารณาบัญชีเงินฝาก รายได้เข้าออกเดือนต่อเดือน ฐานข้อมูลผู้เสียเงินภาษี เป็นต้น
สปสช.นำร่องจ่ายค่าบริการ Telemedicine เฟสแรกรับมือโควิด-19 รอบใหม่
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกั
นพ.จักรกริช กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 นี้ หนึ่งในรูปแบบบริการที่ สปสช.ได้พัฒนาการจ่ายเงิ
"ในส่วนของการบริการสาธารณสุ
นพ.จักรกริช กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของขั้นตอนการรับบริการผ่
นพ.จักรกริช กล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงพยาบาลที่ยังไม่ได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)