Skip to main content
sharethis

15.00 น. ที่หน้า สภ.คลองหลวง มีรายงานว่า 'ครูใหญ่ อรรถพล' เดินทางออกจากสภ.คลองหลวงแล้ว ทั้งนี้หลังการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่เข้ารายงานตัวทั้งหมดแล้วตำรวจได้ปล่อยกลับเลยโดยไม่ได้ส่งตัวไปขออำนาจศาลฝากขังระหว่างสอบสวน หลังจากนี้ผู้ต้องหาบางส่วนจะถูกนำตัวไปส่งหน้าแนวกั้นของตำรวจ

จากนั้นอีกราว 30 นาทีต่อมา ผู้ต้องหาที่เหลือทยอยถูกนำตัวส่งออกจากสภ.ไปที่ด้านหน้าแนวกั้น โดยภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ พริษฐ์ ปนัสยาพร้อมคนอื่นๆ ออกมาแถลงข่าวหลังจากทางตำรวจแจ้งข้อาหาแล้วปล่อยตัวพวกเขาโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไข

ตำรวจปล่อยทั้ง 21 คนที่เข้ารับทราบข้อหาวันนี้

ตำรวจปล่อยทั้ง 21 คนที่เข้ารับทราบข้อหาวันนี้ ภาพจาก iLaw

ปนัสยาแจ้งว่าวันนี้ได้มีการเจรจากันกับทางตำรวจว่าพวกเขาเดินทางมารายงานตัวเองด้วยความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากไม่เคยหลบหนีมาก่อนแล้วก็เป็นคดีที่มีโทษต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้แล้วก็เคยมีบรรทัดฐานจากศาลอาญากรุงเทพใต้ในคดีมาตรา 116 ที่มีโทษสูงกว่าให้ปล่อยตัวได้ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่วันนี้ทางตำรวจจะนำตัวพวกเขาไปฝากขังที่ศาล หลังการเจรจาทางตำรวจก็ไม่มีการนำตัวไปฝากขัง

พริษฐ์กล่าวต่อว่า ถ้าตำรวจใช้มาตรการที่เกินความสมเหตุสมผลก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของประชาชนได้ อีกทั้งคดีนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็มีให้ใช้มาตรการที่แรงที่สุดกับประชาชนและมีการบอกว่าทำสงครามกับประชาชนอยู่

พริษฐ์กล่าวอีกว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังสร้างพยายามความกลัว โดยการไปจับคนนั้นคนนี้บ้างแล้วก็ดำเนินคดีให้เยอะเข้าไว้แล้วก็มาเข้มงวดในการใช้กฎหมายเพื่อปิดกั้นเสรีภาพประชาชน ตอนนี้พวกเขาและประชาชนก็ไม่หวาดกลัว สังคมไทยและพี่น้องก็พร้อมที่จะต่อสู้กับเผด็จการแล้ว โดยหลังจากนี้

พริษฐ์กล่าวถึงปฏิบัติการของตำรวจวันนี้ว่า ตำรวจอ้างว่าเพื่อป้องกันความไม่สงบและรักษาความปลอดภัย จากการที่ก่อนหน้านี้ทางเอาอาหารหมาให้ตำรวจ ขึ้นป้ายต่างๆ ตำรวจก็มองว่าเป็นภัยต่อประชาชน แล้วก็น่าจะเห็นสื่อเป็นสิ่งอันตรายด้วยเช่นกันเพราะไม่ให้เข้าไปในบริเวณสภ.คลองหลวงด้วยเช่นกัน แต่ก็ขอขอบคุณที่ช่วยกันมาติดตามการเข้ารายงานตัวของพวกเขาในวันนี้

ศูนย์ทนายความฯ ทวีตรายงานว่าพวกเขาทั้ง 21 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนทางด้านเยาวชน 2 คนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วแต่ยังไม่ได้ถามคำให้การเนื่องจากไม่มีนักสังคมสงเคราะห์หรือนักจิตวิทยาร่วมในการสอบสวนตามกฎหมายทำให้ไม่มีการส่งตัวเยาวชนทั้งสองคนไปศาลและนัดทั้ง 2 คนให้มาสอบคำให้การอีกครั้งที่สำนักงานอัยการธัญบุรีวันที่ 10 ก.พ.2564

ส่วนประชาชนทั้ง 22 คนที่ถูกดำเนินคดีนี้ ได้แก่

  1. พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน
  2. พิมชนก ใจหงษ์
  3. เบนจา อะปัญ
  4. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง
  5. ณัฐชนน ไพโรจน์
  6. ชลทิศ โชติสวัสดิ์
  7. ชนินทร์ วงษ์ศรี
  8. ปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้
  9. สิริชัย นาถึง หรือ นิว
  10. ณัฐพงศ์ คำจันทร์
  11. อัรฟาน ดอเลาะ
  12. กิตติศักดิ์ กองเงินงาม
  13. ประนอม พูลทวี
  14. ไพศาล จันปาน
  15. ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา
  16. ภาณุพงศ์ จาดนอก
  17. ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์
  18. อรรถพล บัวพัฒน์
  19. พรหมศร วีระธรรมจารี
  20. ศศลักษณ์ สงวนนามสกุล เยาวชนอายุ 17 ปี
  21. สายชล (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 17 ปี
  22. สุวรรณา ตาลเหล็ก(ยังไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อหาเนื่องจากติดนัดฟังคำสั่งฟ้องที่ศาลแขวงดอนเมือง)

14.10 น. ทางด้านหน้า สภ.คลองหลวงมีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SWAT) เดินทางเข้ามาในพื้นที่ในขณะที่ผู้ต้องหายังอยู่ในระหว่างการรับทราบข้อกล่าวหาภายในสถานี

SWAT เดินทางเข้าพื้นที่ สภ.คลองหลวง

12.22 ศูนย์ทนายความฯ ทวีตว่า พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้กำกับการตำรวจ จ.ปทุมธานี ได้แจ้งกับทนายความและผู้ถูกกล่าวหาว่าให้งดใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด

12.16 น. ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่มากับรถตำรวจเข้าสภ.คลองหลวงเพื่อรายงานตัว

ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ที่หน้าสภ.คลองหลวง

ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ที่หน้าสภ.คลองหลวง

12.00 น. หลังจากผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านหลังแนวตำรวจชุดคุมฝูงชนได้ รายงานว่ามีการตั้งโต๊ะจุดรับแจ้งความด้านหน้าสถานีตำรวจ และตำรวจมีการปิดประตูกั้นไม่ให้เข้าไปด้านหน้าสถานีตำรวจได้นอกจากผู้ที่ต้องเข้าไปรายงานตัวตามหมายเรียกเท่านั้น

ตำรวจปิดประตูกันทางเข้าบริเวณด้านหน้า สภ.คลองหลวง พร้อมติดป้ายแจ้งว่ามีตั้งโต๊ะรับแจ้งความด้านนอกสถานี

ตำรวจปิดประตูกันทางเข้าบริเวณด้านหน้า สภ.คลองหลวง พร้อมติดป้ายแจ้งว่ามีตั้งโต๊ะรับแจ้งความด้านนอกสถานี

โต๊ะรับแจ้งความด้านนอกสภ.คลองหลวง

โต๊ะรับแจ้งความด้านนอกสภ.คลองหลวง

11.23 น. ศูนย์ทนายความฯ ทวีตรายงานว่าตร.จะแจ้งข้อหาป.อาญา ม.215 วรรคสาม ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ต่อผู้ถูกออกหมายเรียก 14 คน และจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง หลังแจ้งข้อหา โดยที่ข้อหานี้ไม่ได้มีการระบุไว้ในหมายเรียกแต่อย่างใด ส่วนเยาวชนอีก 2 ราย ก็จะถูกนำตัวไปขออำนาจควบคุมตัวที่ศาลเยาวชนด้วย

11.00 น. พริษฐ์ ชิวารักษ์หรือเพนกวิน ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้งเดินทางถึงบริเวณ สภ.คลองหลวง ได้พยายามเจรจาให้ตำรวจเปิดทางให้ประชาชนและผู้สื่อข่าวเข้าไปถึงสภ.คลองหลวง แต่ตำรวจยืนยันให้เข้าไปทีละคน

พริษฐ์ ชิวารักษ์และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เดินทางถึงสภ.คลองหลวง

พริษฐ์ ชิวารักษ์และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เดินทางถึงสภ.คลองหลวง

5 ก.พ.2564 เวลา 10.00 น. ที่สภ.คลองหลวง ประชาชน 21 คนเดินทางเข้ารายงานตัวหลังถูกออกหมายเรียกรับทราบข้อหาจากการไปชุมนุมที่ ติดตามตัว สิริชัย นาถึง หรือ นิว และชยพล ดโนทัย หรือ เดฟ ที่สภ.คลองหลวง เมื่อ แต่ทางตำรวจได้วางกำลังปิดกั้นทางเข้าไปไป สภ.คลองหลวง ตั้งช่วงเช้าวันนี้

ตำรวจชุดคุมฝูงชนพร้อมรถฉีดน้ำปิดกั้นทางเข้าพื้นที่บริเวณ สภ.คลองหลวง

ตำรวจชุดคุมฝูงชนพร้อมรถฉีดน้ำปิดกั้นทางเข้าพื้นที่บริเวณ สภ.คลองหลวง

ทางตำรวจได้นำกำลังชุดควบคุมฝูงชน พร้อมวางแนวแบริเออร์ปูนปิดกั้นทางพร้อมนำรถฉีดน้ำมารับมือกับมวลชนที่มาให้กำลังใจและนักกิจกรรมที่กำลังเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา โดยไอลอว์รายงานว่าจากการปิดกั้นของทางตำรวจทำให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้สภ.คลองหลวงต้องมีการแสดงเอกสารยืนยันว่าพักอาศัยในบริเวณดังกล่าวจริงก่อนถึงเข้าพื้นที่ได้

นอกจากนั้นศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานด้วยว่าระหว่างที่ทนายความกำลังปฏิบัติหน้าที่ให้คำปรึกษากับลูกความตำรวจชุดคุมฝูงชนพร้อมอุปกรณ์ เช่น โล่ปราบจลาจลไปยืนอยู่ใกล้กับที่ทนายความยืนคุยกับลูกความ

ตำรวจชุดคุมฝูงชนยืนคุมขณะที่ทนายความและผู้ที่ถูกดำเนินคดีกำลังปรึกษาแนวทางคดี

ตำรวจชุดคุมฝูงชนยืนคุมขณะที่ทนายความและผู้ที่ถูกดำเนินคดีกำลังปรึกษาแนวทางคดี ภาพจากไลฟ์ของ The Reporter

การเข้ารายงานตัวครั้งนี้ของทั้ง 21 คน ถูกแบ่งเป็นสองคดี โดยคดีแรกเป็นการชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัว สิริชัย นาถึง หรือนิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งถูกจับกุมด้วยข้อหาตามมาตรา 112 และถูกค้นห้องในช่วงกลางดึกของวันที่ 13 ม.ค.2564 และมีการย้ายสถานที่ควบคุมตัวไปมาระหว่างสภ.คลองหลวงและกองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดนภาค 1 (ตชด.ภาค 1) ทำให้เพื่อนและทนายความติดตามตัวไม่ได้ สำหรับคดีนี้มีผู้ที่ถูกดำเนิน 12 คน จากการไปติดตามสิริชัยที่สภ.คลองหลวง

ส่วนคดีที่สองเกิดจากการไปให้กำลังใจ ชยพล ดโนทัย หรือเดฟ ที่ไปรายงานตัวที่สภ.คลองหลวงในวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ของสิริชัยเนื่องจากชยพลพบว่ามีชื่อว่าตัวเองถูกออกหมายจับอยู่ในหมายค้นห้องของสิริชัยด้วย แต่พนักงานสอบสวนกลับแจ้งว่าไม่ได้มีการออกหมายจับและจะให้เป็นเพียงพยานเท่านั้น แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวนต้องไปดำเนินการถอนหมายจับที่ศาลธัญบุรี สำหรับคดีนี้มีประชาชนที่ไปให้กำลังใจถูกดำเนินคดี 16 คน

ทั้งนี้ในทั้งสองคดีนี้มีคนที่ถูกดำเนินคดีซ้ำกัน 6 คน โดยมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีโดยที่ยังเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี 2 คนที่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อนแล้วคือ สายชล (นามสมมติ) คดีแฟชั่นโชว์ และศศลักษณ์คดีชุมนุม 14ต.ค.2563

ผู้ที่เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันนี้มีเพียง 21 คน เนื่องจาก สุวรรณา ตาลเหล็ก ซึ่งเป็น 1 ในผู้ถูกดำเนินคดีต้องเดินทางไปรายงานตัวตามนัดฟังคำสั่งอัยการฟ้องคดีที่ศาลแขวงดอนเมืองพร้อมกับผู้ต้องหาอีก 5 คนในคดีให้กำลังใจ ทนายอานนท์- ไมค์ ภานุพงษ์ถูกจับไปที่สน.บางเขน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net