Skip to main content
sharethis

เสียงแห่งการสู้รบริมฝั่งสาละวินยังกึกก้อง กองทัพพม่ายังส่งทัพอากาศทิ้งระเบิด ยิงจรวด และปืนกล โจมตีทหาร KNLA/KNU ที่ปิดล้อมฐานพม่า ‘ดากวิน’ อย่างต่อเนื่อง ด้านรายงานจากเครือข่ายภาคประชาชน มีผู้อพยพมาฝั่งไทยแล้วกว่า 3,000 คน ขณะที่รัฐไทยยังสกัดกั้น ไม่ให้ภาคประชาสังคมเข้าถึงพื้นที่และช่วยเหลือผู้อพยพ  

ภาพผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64
 

1 พ.ค.64 สำนักข่าวชายขอบ รายงานถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า แนวปะทะด้านตะวันออกของเมียนมายังไม่สงบ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา กองทัพพม่าส่งเครื่องบินโจมตีทหารกะเหรี่ยงที่กระจายตัวปิดล้อมฐาน ‘ดากวิน’ (ดา-กวิน) ของกองทัพพม่า ซึ่งฐานดากวินนี้ ตั้งอยู่ตรงข้ามหมู่บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางวันจนถึงตลอดกลางคืน ซึ่งเป็นคืนที่สี่ติดต่อกันนับตั้งแต่ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง กองพลน้อยที่ 5 บุกยึดฐานซอแลท่า ของพม่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านท่าตาฝั่งได้ยินเสียงการสู้รบ และเสียงปืนจากอากาศยานดังมาจากทิศทางรอบๆ ฐานดากวิน จำนวน 2 รอบ จากนั้น มีเสียงปืนใหญ่ และปืนกลดังสนั่น จนถึงเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 1 พ.ค.64 จึงสงบลงชั่วคราว 

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มว่ามีเฮลิคอปเตอร์ นำอาวุธยุทโธปกรณ์มาเสริมให้กองทัพพม่าเพิ่มเติม และยังไม่ได้ถอนกำลังกลับไป 

ขณะเดียวกัน ในส่วนทหารฐานทหารพม่าตรงข้ามบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ฐานยุทธศาสตร์ ปรากฏว่าชาวบ้านสบเมยได้ยินเสียงปืนดังเป็นระยะๆ แต่ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์ใดๆ

ทั้งนี้ ในส่วนของคณะทำงานองค์กรภาคประชาสังคมบรรเทาทุกข์กะเหรี่ยง แจ้งตัวเลขจำนวนผู้หนีภัยจากการสู้รบล่าสุด มีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่กองพลน้อยที่ 5 เขตมือตรอ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เขตผาปูน รัฐกะเหรี่ยง อย่างน้อย 1,193 ครัวเรือน เป็นจำนวน 7,389 คน ในจำนวนนี้มีที่หนีภัยมายังฝั่งไทย จำนวน 3,112 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และผู้หญิง ในขณะที่ชาวบ้านกะเหรี่ยงส่วนใหญ่พยายามซ่อนตัวอยู่ตามป่า และลำห้วย ภายในรัฐกะเหรี่ยง

ภาพผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64
 

รายงานจำนวนผู้ลี้ภัยมีความใกล้เคียงกับ กลุ่มเครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยง (KPSN) รายงานสถานการณ์ผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเหรี่ยง ประจำวันที่ 1 พ.ค.64 โดยโพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก ‘Karen Peace Support Network’ ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยสงครามจากรัฐกะเหรี่ยงข้ามฝั่งริมชายแดนไทยแล้ว มากกว่า 3,000 คน และคาดว่าจะมีมากยิ่งขึ้นถ้าการโจมตีทางอากาศยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่การลำเลียงความช่วยเหลือจากประชาชน และองค์กรบรรเทาทุกข์ ยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ผู้ลี้ภัยได้ เนื่องจากถูกสกัดกั้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐไทย ทั้งนี้ KPSN ระบุว่า ผู้ลี้ภัยจากรัฐกะเหรี่ยงมีความขาดแคลนสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ อุปกรณ์ทำเพิงหลบภัย อาหาร และเวชภัณฑ์ 

อากาศยานพม่ารุกล้ำฝั่งไทยหรือไม่

ด้านศูนย์สั่งการชายแดนไทย-พม่าด้าน จ.แม่ฮ่องสอน ออกเอกสารข่าวประจำวันที่ 1 พ.ค.64 ระบุว่า สถานการณ์สู้รบเมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลา 20.20 น. กองกำลัง KNLA/KNU และทหารพม่าฐานดากวินได้ปะทะกัน และทหารพม่าได้ใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดด้านตะวันตกห่างจากฐานราว 1 กิโลเมตร แต่ไม่ทราบการสูญเสีย

ในเอกสารข่าวของศูนย์สั่งการฯ ระบุด้วยว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 00.48 น. ทหารพม่าได้ใช้เครื่องบินรบปฎิบัติการโจมตีทางอากาศโดยการยิงจรวดจำนวน 2 ลูก และยิงปืนจากอากาศสู่พื้นที่ 1 ชุดบริเวณทิศใต้ของฐานดากวินและมีการปะทะด้วยอาวุธปืนเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา มีชาวบ้านท่าตาฝั่งสามารถถ่ายวิดีโอจับภาพของเครื่องบินไม่ทราบรูปแบบ และสังกัด บินเฉียดเหนือหัวของชาวบ้านได้ หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเครื่องบินรบจากทางฝั่งพม่าที่มาโจมตีทหาร KNLA/KNU รอบฐานดากวิน ซึ่งเอกสารจากทางศูนย์ฯ ระบุว่า 'อากาศยานพม่ายังไม่ได้รุกล้ำฝั่งไทย'

คลิปวิดีโอจับภาพเครื่องบินไม่ทราบฝ่าย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 เวลา 14.40 น.
 

“ในห้วงที่ผ่านมา อากาศยานพม่ามิได้บินรุกล้ำน่านฟ้าไทย และการโจมตีของทหารพม่าต่อกะเหรี่ยงยังไม่สงผลกระทบต่อไทยและยังไม่ถือว่าเป็นการละเมิดหรือรุกล้ำอธิปไตยของไทยเนื่องจากไม่มีการปฎิบัติการทางอาการที่รุกล้ำเข้ามา”

ในแถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน มีราษฎรชาวพม่าเดินทางข้ามมายังฝั่งไทยต่อเนื่องจากเหตุความไม่สงบรวมทั้งสิ้น 2,318 คน ส่วนราษฏรไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบใน 2 พื้นที่รวมทั้งสิ้น 268 คน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net