#พูดหยุดโกง ส่องเอกสาร 82 โครงการ มูลค่า 78.8 ล้าน ที่ได้เงินจากกองทุน ป.ป.ช. ตามที่ ป.ป.ช.ประกาศ แต่ไม่พบว่าใครเป็นผู้รับ ขณะที่ 'แป้งโกะ' ขอให้คำถามถึงการโกงของรัฐบาลด้วย ส่วน 'โฟกัส' วิจารณ์ 'พูดหยุดโกงพอกูพูดก็หยุดกู'

20 ส.ค.2564 จากกรณีมีแคมเปญ "คนไทยไม่ทนคนโกง" ที่มีเหล่าคนดัง ดารา ศิลปิน หลายคนโพสต์ภาพติดแฮสแท็ก #พูดหยุดโกง ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยกองทุน ป.ป.ช. นั้น แต่ก็มีกระแสวิจารณ์แคมเปญดังกล่าวจากดาราด้วยกัน เช่น แป้งโกะ-จินตนัดดา ลัมะกานนท์  โพสต์ทวิตเตอว่าอยากให้ประชาชนตั้งคำถามถึงการโกงของรัฐบาลด้วย

รวมทั้ง โฟกัส จีระกุล ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Focus Jeerakul ว่า "#พูดหยุดโกง ตอนนี้มันเกินกว่าคำว่า "โกง" ไปเยอะแล้ว มันคือการสูบเลือดสูบเนื้อ สูบชีวิตประชาชน ขนาดมีการชุมนุมเรียกร้องอะไรต่างๆ มาเป็นปีๆ เค้ายังไม่หยุดโกงกันเลยค่ะ ขุ่นพี่ #พูดหยุดโกงพอกูพูดก็หยุดกู เป็นงง" 

สำหรับ กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (กองทุน ป.ป.ช.) นั้น ข้อมูลจากเว็บไซต์ ป.ป.ช. ระบุว่า จัดตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 162 หมวด 10 กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (มาตรา 162 - มาตรา 166) เพื่อเป็นทุนสำหรับใช้จ่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยบริหารงานกองทุน ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการกองทุน ป.ป.ช.)

โดยที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ ป.ป.ช. ประกาศรายชื่อโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 แต่ไม่ระบุผู้ได้รับเงินสนับสนุนว่าเป็นใคร แบ่งเป็น 

รอบการเปิดรับข้อเสนอโครงการฯ ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2
รวมทั้งสิ้น 64 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น  60,209,039  บาท แบ่งเป็น
- วัตถุประสงค์ที่ 1       จำนวน 58 โครงการ      เป็นเงิน  49,738,439  บาท
- วัตถุประสงค์ที่ 4       จำนวน   6 โครงการ      เป็นเงิน  10,470,600  บาท

รอบการเปิดรับข้อเสนอโครงการฯ ครั้งที่ 3
รวมทั้งสิ้น 18 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น  18,608,460  บาท แบ่งเป็น
- วัตถุประสงค์ที่ 1       จำนวน 16 โครงการ      เป็นเงิน  18,167,960  บาท
- วัตถุประสงค์ที่ 4       จำนวน   2 โครงการ      เป็นเงิน       440,500  บาท

รวม 82 โครงการ มูลค่า 78,817,499 บาท