8 ก.ย. 2564 วันนี้ (8 ก.ย. 2564) เวลาประมาณ 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เครือข่ายคนรุ่นใหม่ทนนบุรี ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้า, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก แถลงข่าวการจัดกิจกรรม "ยื่น หยุด ขัง" เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้แก่นักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยจะเริ่มกิจกรรมวันที่ 10 ก.ย. นี้ เวลา 11.30 น. ในรูปแบบคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก

เจษฎา ศรีปลั่ง ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่ทนนบุรี กล่าวว่า เมื่อเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบไปถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แล้วจะมีการยื่นหนังสือ เพราะกลุ่มผู้จัดกิจกรรมเชื่อว่าศาลอาญาคือสถานที่ที่เราสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเพื่อนนักกิจกรรมได้ พวกเขายังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิดใดๆ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ศาลอาญา ผู้จัดกิจกรรมจะเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบต่อไปที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถ.งามวงศ์วาน โดยเจษฎาให้เหตุผลว่าแม้นักกิจกรรมบางคนจะถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่ก็มีเพื่อนนักกิจกรรมบางส่วนยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน

เจษฎากล่าวว่าที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมีกิจกรรมปราศรัย และกิจกรรมอื่นๆ ขอให้ติดตามการเคลื่อนไหวได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของทั้ง 4 กลุ่ม โดยการปราศรัยจะถ่ายทอดเสียงผ่านคลับเฮาส์เป็นหลัก ไม่มีการยืนปราศรัยระหว่างแห่ขบวนรถ ทั้งนี้ เจษฎาบอกว่ายื่นหนังสือไปแล้วยังไม่มีการปล่อยตัวเพื่อนนักนักกิจกรรม กลุ่มผู้จัดจะไปปรึกษากันว่าจะมีกิจกรรมต่อเนื่องทุกวันหรือไม่ แต่ทางผู้จัดได้เตรียมกิจกรรม 'ยกเลิก 112' เอาไว้แล้ว หากเจ้าหน้าที่ยังไม่ปล่อยตัวนักกิจกรรมก็จะเริ่มดำเนินกิจกรรม 'ยกเลิก 112' ต่อจากคาร์ม็อบวันที่ 10 ก.ย. นี้

ด้าน ชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวว่า การทำกิจกรรมครั้งนี้คือการเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา เพื่อยืนยันว่าเพื่อนเราไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแค่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น และต้องได้รับการปล่อยตัว พร้อมขอเชิญทุกคนให้ออกมาร่วมสู้ เพื่อยืนยันว่าข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาต้องลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยต้องมาจากประชาชน และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ หากเพื่อนเราพูด 3 ข้อเรียกร้องนี้ได้ เราทุกคนก็พูดได้

ขณะที่ ธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า กล่าวว่า ขอทุกคนจงไม่ลืมว่านักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ตอนนี้เป็นคนเปิดเพดานข้อเรียกร้องให้กับทุกคน และศาลเองก็ยังไม่ได้ตัดสินว่ามีความผิด แต่พวกเขากลับถูกฝากขัง พร้อมเรียกร้องให้ “ตุลาการควรเป็นตุลาการของประชาชน ตุลาการควรอยู่ข้างประชาชน” ไม่ใช่อยู่เคียงข้างรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ส่วนตัวแทนของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกระบุว่าทางกลุ่มได้เตรียมกิจกรรมเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไว้แล้ว พร้อมขอให้ตำรวจอย่าจับนักกิจกรรมของกลุ่มขึ้นรถคุมขังไปแบบครั้งก่อนอีก

เจษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนอย่ากังวลเรื่องรถติด หากเกิดรถติดประมาณ 3-4 ชม. พวกท่านก็ยังได้รับไปหาลูก พ่อแม่ หรือคนที่รักได้ แต่เพื่อนเราติดคุกมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ไม่มีโอกาสได้พบพ่อแม่หรือคนที่เขารัก อยากให้เข้าใจ และเห็นแก่หลักมนุษยธรรม