Skip to main content
sharethis

โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ปัด คฝ. ถีบผู้ชุมนุมย่านแฟลตดินแดงร่วงลงมาทะลุหลังคา ไม่เป็นความจริง ส่วนการควบคุมสถานการณ์ที่สามเหลี่ยมดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ก.ย.) จับผู้ร่วมชุมนุมได้ 52 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชน 9 คน


ภาพจากนักข่าวแมวส้ม

12 ก.ย. 2564 สำนักข่าวไทย รายงานว่ากรณีสังคมโซเชียลแชร์ภาพผู้ชุมนุมตกจากหลังคา บริเวณแฟลตดินแดง มีการอ้างเจ้าหน้าที่ถีบร่วงลงมาทะลุหลังคานั้น พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันภาพดังกล่าวไม่เป็นความจริง มีการใช้ภาพเตียงนอนข้างเตียงมีเศษแก้วเศษกระจกสีชา มีการโยนสิ่งของลงมา ไม่ใช่คนตกลงมาตามกล่าวอ้าง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ถีบเด็กลงมา กรณีดังกล่าวจะให้ บช.สอท. ตรวจสอบกรณีนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จ ส่วนมีเด็กตกลงมา 4 คน เจ้าของบ้านยืนยันนั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ยืนยันว่ามีแค่วัตถุตกมาจากหลังคาแค่นั้น


ภาพจากนักข่าวแมวส้ม

ส่วนตำรวจ คฝ. เข้าไปบริเวณแฟลตดินแดงหรือไม่ ชี้แจงว่า ตำรวจ คฝ.ได้เข้าไปชั้นล่าง พี่น้องประชาชนให้ข้อมูลตำรวจเป็นอย่างดี ปิดประตูบ้านเรือนไม่ให้ใช้แฟลตดินแดงก่อเหตุผลักดันผู้กระทำผิดออกมาทำให้จับกุมตัวได้หลายคน ขณะที่สภาพเกิดเหตุ พบร่องรอยแตกของกระเบื้องหลังคา ฝ้าหลังคาอาคารทะลุ คล้ายคราบเลือดบริเวณเศษฝ้าที่ร่วงหล่นมา อีกทั้งคำบอกเล่าของเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุ ระบุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งเข้ามาหลบและตกลงมาจริง

ด้าน เพจ Friends Talk ที่ไลฟ์เหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่าตรวจสอบเหตุการณ์อีกครั้งพบว่าเป็นเหตุเยาวชนหลบซ่อนตำรวจ แล้วพลัดตกลงมาจากหลังคา

สภา นศ.มธ.-ทะลุฟ้า ออกแถลงการณ์ประณามตำรวจสลายชุมนุม #ม็อบ11กันยา
ตร.คุมตัวทีมแพทย์อาสา #ม็อบ11กันยา เพื่อตรวจสอบ ก่อนปล่อยเวลา 01.40 น.
ศูนย์ทนายฯ เผยมีผู้ถูกจับกุมจาก #ม็อบ11กันยา บริเวณแยกดินแดง 51 ราย

จับผู้ร่วมชุมนุมได้ 52 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชน 9 คน

สำนักข่าวไทย รายงานเพิ่มเติมว่าด้านผลปฏิบัติการตำรวจควบคุมฝูงชนควบคุมดูแลสถานการณ์การชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่ามีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 14.50 น. ได้มายื่นหนังสือที่วัดราชบพิธฯ ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนอีกกลุ่มคือ กลุ่มทะลุแก๊ส ที่บริเวณแยกดินแดง เริ่มรวมตัว 17.30 น. มีการขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ที่มีความรุนแรงมากขึ้น บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร มีการนำแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ ใต้ทางด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศเตือนให้ยุติการกระทำและออกจากพื้นที่หลายครั้ง แต่การชุมนุมยังดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง กระทั่งเวลาประมาณ 21.15 น. เจ้าหน้าที่จึงต้องบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังปฏิบัติการสามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้ 52 คน ในจำนวนนี้ มีเยาวชน 9 คน ซึ่งทั้งหมดได้แยกฝากขัง ไว้ที่ สน.พหลโยธิน, สน.บางเขน, สน.ดอนเมือง และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ซึ่งผู้ถูกจับกุมทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิกฯ และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยมีอาวุธฯ หรือความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจจะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรงและก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ถูกจับกุมดำเนินคดีนี้ข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหามั่วสุมก่อความวุ่นวายฯ ในทางปฏิบัติ บุคคลดังกล่าวจะต้องถูกส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเนื่องจากบุคคลนั้นกระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย จะได้พิจารณาออกคำสั่งให้เนรเทศผู้นั้นออกไปนอกราชอาณาจักร

อีกทั้งจะมีรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งหมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถขออนุญาตกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ยังมีการนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นข่าวบิดเบือน หรือปลอม ในลักษณะที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดจนอาจนำไปสู่ความวุ่นวาย ซึ่งผู้ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อความนั้นอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกันผลการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 203 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 754 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 509 คน
 
พลตำรวจตรีปิยะ ยังได้ระบุถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวชุมนุมทำกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ด้วยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้วและจะบังคับใช้กฎหมายตามยุทธวิธีเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมเตือนประชาชนที่จะร่วมกิตกรรมชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆ เข้าข่ายมีความผิดหลายข้อหา ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ

อาการ คฝ.ถูกไปป์บอมบ์หลังผ่าตัด ยังหายใจเองไม่ได้

ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าพ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยอาการของ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร หรือ หมู่เบส ผู้บังคับหมู่กองร้อยที่ 1 กองกำกับการควบคุมฝูงชน 2 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.คฝ.2 บก.อคฝ.) ช่วยรายการกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา โดย ส.ต.ต.ธนาวุฒิ ถูกปาไปป์บอมบ์ใส่บริเวณใบหน้าด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ

แพทย์ทำการวินิจฉัยโรคว่า มีเลือดออกในสมอง กระดูกเบ้าตาด้านขวาแตก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าและตาขวา ขนาดประมาณ 15×15 เซนติเมตร ได้เข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน โดยระดมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาร่วมดำเนินการผ่าตัด อาทิ แพทย์ศัลยกรรมประสาท จักษุแพทย์ ทันตแพทย์ และแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ใช้เวลาในการผ่าตัดกว่า 8 ชั่วโมง ผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ และหลังผ่าตัดต้องได้รับการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดที่หอผู้ป่วยวิกฤต

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างยิ่ง จึงได้ประสานให้ทางโรงพยาบาลตำรวจดูแลข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

เหยื่อวัยรุ่นแยกดินแดง เข้าแจ้งความ หลังถูกรุมทำร้ายจนตกสะพานข้ามแยกพระราม 9

มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเวลา 19.15 น.วันที่ 12 ก.ย. 2564 นายภูวดล (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี พร้อม นายวรชาติ อหันทริก ที่ปรึกษากฎหมายชุมชนชาวดินแดง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สหัสชัย มณฑา รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ดินแดง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อความวุ่นวายแยกสามเหลี่ยมดินแดง และรุมทำร้ายตนเองจนได้รับบาดเจ็บ

โดยนาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.ย. เวลาประมาณ 23.00 น. ตนและนายชนชิต (สงวนนามสกุล) เพิ่งเลิกงาน และกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก โดยระหว่างขับออกจากซอยสุทธิพร 2 หน้าตลาดขวัญพัฒนา มีนายชนชิตเป็นผู้ขับ และตนเป็นคนนั่งซ้อนท้าย มาพบกับกลุ่มวัยรุ่นที่มารวมตัวกันที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง ประมาณ 10 คน ที่จอดรถขวางเส้นทางดังกล่าว ทางนายชนชิต จึงบีบแตร เพื่อขอทาง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ไม่พอใจ ได้นำไม้และมีดเข้ามารุมทำร้าย หนำซ้ำยังได้ยินเสียงปืนดังขึ้น คาดว่าเป็นการยิงเพื่อข่มขู่ทำให้ นายชนชิต จึงรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9 แต่รถเกิดเสียกระทันหัน ซึ่งทางกลุ่มวัยรุ่นยังตามมาทำร้ายต่ออีก ทำให้ต้องทิ้งรถ แล้ววิ่งหลบหนี โดยระหว่างที่นายชนชิต วิ่งหนีจากถูกการรุมทำร้าย ได้พลัดตกจากสะพานดังกล่าวจนบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนตนเองโชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะแตก และมีบาดแผลที่แขน รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย

ขณะที่ ร.ต.อ.สหัสชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องร้องทุกข์ไว้ นำเรียนผู้บังคับบัญชา จากนั้นจะประสาน ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตลอดจนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net