'นูร์ ซายัต' หญิงข้ามเพศชาวมาเลเซียที่ถูกจับในไทย ได้ลี้ภัยในออสเตรเลีย

นูร์ ซายัต หญิงข้ามเพศชาวมาเลเซีย ยืนยันว่าเธอได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในประเทศออสเตรเลียแล้ว หลังถูกจับกุมที่ประเทศไทยขณะรอกระบวนการทำเรื่องขอลี้ภัยไปประเทศปลายทาง โดยเปิดเผยว่า เธอรู้สึก "ปลอดภัย, มีความสุข และเป็นอิสระ" ในออสเตรเลียและจะไม่กลับไปมาเลเซียอีก

21 ต.ค. 2564 นูร์ ซายัต หญิงข้ามเพศเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางชาวมาเลเซีย ยืนยันว่าเธอได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียแล้ว หลังถูกตามล่าจากทางการมาเลเซียที่ต้องการเล่นงานเธอในข้อหาหมิ่นศาสนาอิสลาม จากการแต่งกายเป็นหญิงในงานพิธีอิสลามที่โรงเรียนในมาเลเซีย

นูร์ บอกว่าเธอรู้สึก "ปลอดภัย มีความสุข และเป็นอิสระ" ในออสเตรเลีย และเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียช่วยเหลือให้เธอสามารถตั้งรกรากในออสเตรเลียได้

นูร์ยังกล่าวไว้ในวิดีโอก่อนหน้านี้ที่ถ่ายทำจากสถานที่ที่ไม่เปิดเผยว่า "ออสเตรเลียเลือกฉัน ... เพราะกรณีของฉัน ฉันจึงไม่ได้ขอลี้ภัยในประเทศอื่น" นูร์เล่าอีกว่า "ฉันถูกข่มขู่และละเมิด (ในมาเลเซีย) และรัฐบาลออสเตรเลียมีความตระหนักในเรื่องนี้"

กรณีของนูร์ เป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นบรรยากาศการที่เลวร้ายขึ้นสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศในมาเลเซีย โดยเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มการปราบปรามชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ และพยายามออกกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น

นูร์ถูกดำเนินคดีในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากกรณีที่เธอเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอิสลามเมื่อปี 2561 โดยสวมชุดผู้หญิง ข้อหาดังกล่าวมีดทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับ หากถูกตัดสินว่ามีความผิด นอกจากนี้ นูร์ยังถูกกล่าวหาว่าขัดขืนและข่มขู่เจ้าพนักงาน ซึ่งเธอให้การปฏิเสธ

เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางชาวมาเลเซียรายนี้เปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียติดต่อกับเธออย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเธอเดินทางจากประเทศไทยไปออสเตรเลียได้อย่างไร ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลียปฏิเสธให้ความเห็นเป็นกรณีเฉพาะ เนื่องจากกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

นูร์เดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อต้นปี 2564 เนื่องจากเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายศาสนาของมาเลเซีย ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมเมื่อเดือน ก.ย. 2564 ในข้อหาใช้หนังสือเดินทางไม่ถูกต้อง แต่ได้รับการประกันตัว

นูร์เชื่อว่าในออสเตรเลียนั้นมี "เสรีภาพและความเท่าเทียมทางเพศ" ทำให้เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะหนีออกมาจากมาเลเซีย ที่ที่เธอไม่มีความสุขและไม่มีอิสระ นูร์ไม่ได้เปิดเผยที่อยู่ของเธอในออสเตรเลียแต่ก็ยืนยันว่าขณะนี้เธอกำลังอยู่ในขั้นตอนการกักตัวตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 นูร์กล่าวอีกว่าเธอจะทำธุรกิจต่อไป โดยเน้นที่ทองและเครื่องสำอาง รวมถึงมีความฝันจะสร้างอาณาจักรทางธุรกิจขึ้นมาอีกครั้งที่นี่

ทิลากา สุลาทิเรห์ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อคนข้ามเพศมาเลเซีย "จัสติสฟอร์ซิสเตอร์ส" กล่าวว่ากรณีของนูร์ ซายัต ไม่ใช่แค่กรณีเดียวที่เกิดขึ้นในมาเลเซีย ผู้มีความหลากหลายทางเพศจำนวนมากอพยพและย้ายถิ่นฐานออกจากมาเลเซียไปตั้งรกรากที่อื่น เพราะบรรยากาศการลิดรอนสิทธิเสรีภาพเพิ่มขึ้นมากในมาเลเซีย

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยใช้ระบบกฎหมายร่วมกันสองระบบ คือ กฎหมายอาญาและกฎหมายครอบครัวตามหลักอิสลาม ควบคู่ไปกับระบบกฎหมายแพ่ง

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท