Skip to main content
sharethis

ปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว หนุ่มอุบลฯ เผยสวรรค์สั่งทำลายภาพ ร.10 แม่ระบุป่วยทางจิต จากความรุนแรงในค่ายทหาร ตำรวจระบุไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ศูนย์ทนายฯ รายงานความคืบหน้าอีกคดี ฟ้อง 2 นศ. ม.ขอนแก่น คดีวางเพลิงเผาซุ้ม ร.10 อัยการระบุค่าเสียหายเฉียด 1.5 แสน

ภาพป้ายรัชกาลที่ 10

8 พ.ย.2564 จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ  11:00 น  มีผู้ทำลายป้ายรัชกาลที่ 10 (ร.10) ที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี จำนวน 4 จุด  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม แต้ม หนุ่มอุบล ประชาชนในพื้นที่ผู้ก่อเหตุ  และควบคุมตัวไว้ สภ.ตระการพืชผล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้า วันนี้ (8 พ.ย.64)  ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กองทุนราษฎรประสงค์ และมารดาของแต้ม เดินทางไปติดตามติดตามการดำเนินคดีและเตรียมหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว

เดอะอีสานเรคคอร์ด รายงานว่า เมื่อผู้ต้องหาเดินทางถึงศาลแล้ว ศาลพิจารณาไม่รับฝากขัง โดยศาลให้อัยการแจ้งข้อหาจากการทำลายทรัพย์สินเป็นความผิดตาม มาตรา 112 โดยเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมาทีมทนายความอยู่ระหว่างการรอว่า ผู้ต้องหาจะได้รับประกันตัวหรือไม่ 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว "แต้ม" หนุ่มอุบล จากศาลจังหวัดอุบลฯ เพื่อมาทำเรื่องปล่อยตัวชั่วคราวที่ สภ.ตระการพืชผล เนื่องจากบันทึกการจับกุมระบุว่า แต้มไม่มีพฤติกรรมจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน จึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว 

สุ่น มารดาของแต้มได้เล่าว่า อาการป่วยของแต้มเกิดขึ้นจากการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เมื่ออายุประมาณ 21 ปี แต้มถูกกดน้ำ ทำร้ายร่างกายปัจจุบันยังมีรอยยุบที่บริเวณศีรษะส่วนท้ายทอย เมื่อปลดประจำการ แต้มต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ และต้องรับยามากินตลอดจนถึงปัจจุบัน 

สุน เล่าออีกว่า ถ้าแต้มได้ทานยาตลอดก็จะเป็นคนสุภาพ พูดจาโต้ตอบดี ช่วยทำงานในไร่ได้ แต่หากได้ดื่มเหล้าและไม่ได้ทานยา จะมีอาการหงุดหงิด ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ในวันก่อเหตุแต่ไม่ได้กินยา

ในวันเกิดเหตุแต้มใดเล่าให้ผู้เป็นมารดาฟังว่า แต้มมีอาการหูแว่ว มีคำสั่งจากสวรรค์ให้ทำ

ตัวอย่างยาที่ต้องรับประทาน

ฟ้อง 2 นศ. ม.ขอนแก่น คดีวางเพลิงเผาซุ้ม ร.10 อัยการระบุค่าเสียหายเฉียด 1.5 แสน

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา “เจมส์” (นามสมมติ) และ “บอส” (นามสมมติ) 2 นักศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินทางไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่น หลังได้รับแจ้งว่า อัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ จากเหตุการณ์เพลิงไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ทั้งสองถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวจากหอพักหลังมหาวิทยาลัย ควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนพนักงานสอบสวนแยกห้องสอบคนละห้อง โดยไม่ได้เแจ้งทนายความและเพื่อนนักศึกษาที่ติดตามบอสไปที่สถานีตำรวจว่า เจมส์ถูกจับมาด้วย และให้เจมส์ใช้ทนายความที่ตำรวจจัดเตรียมไว้ให้ในระหว่างสอบสวน ทั้งสองให้การปฏิเสธ ก่อนศาลให้ประกันตัวในชั้นฝากขัง โดยต้องเข้ารายงานตัวตามนัดกับรองคณบดีซึ่งศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับดูแล

เจมส์และบอสเดินทางไปถึงศาลตั้งแต่เวลา 8.00 น. กระทั่ง 9.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์รับฟ้องคดีประจำศาล จึงมาแจ้งว่าอัยการยื่นฟ้องคดีแล้ว ตำรวจจะควบคุมตัวทั้งสองไปที่ห้องขังใต้ถุนศาล และให้ติดต่อทนายความมาทำเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป

เมื่อเสฐียรพงศ์ ล้อศิริรัตน์ ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางถึงศาล เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งให้ขึ้นไปที่ห้องคุ้มครองสิทธิ โดยเจมส์และบอสก็ถูกเบิกตัวมาจากห้องขัง ผู้พิพากษาถามนักศึกษาทั้งสองว่ายืนยันให้การปฏิเสธหรือไม่ ทั้งสองคนยืนยันให้การปฏิเสธ ผู้พิพากษาจึงถามต่อว่า จะให้การเพิ่มเติมหรือไม่ ทนายความแถลงว่า จำเลยทั้งสองจะให้การเพิ่มเติมในนัดสอบคำให้การ

หลังจากศาลกำหนดนัดสอบคำให้การในวันที่ 7 ธ.ค. 2564 ตำรวจได้ควบคุมตัวเจมส์และบอสกลับไปที่ห้องขังใต้ถุนศาล ขณะรอทนายจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในชั้นพิจารณาคดี

ต่อมาราว 11.30 น. ผศ.กฤษฎา วงศ์คำจันทร์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินทางมาเป็นผู้ขอประกันนักศึกษาทั้งสอง จนเมื่อราว 13.45 น. ศาลจังหวัดขอนแก่นจึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวเจมส์และบอส โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน และตั้งให้ ผศ.กฤษฎา เป็นผู้กำกับดูแลระหว่างพิจารณาคดีเช่นเดียวกับในชั้นสอบสวน

สำหรับคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2564 พ.ต.ท.วัฒนพงษ์ จันทระ พนักงานอัยการบรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2564 เจมส์และบอสได้ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ซุ้มเฉลิมพระเกียรติซึ่งประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ฐานกว้าง 4 เมตร สูง 8.3 เมตร ราคา 149,800 บาท ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น นิติบุคคลผู้เสียหาย ด้วยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเทราด แล้วจุดไฟเผา จนได้รับความเสียหาย

คำฟ้องระบุว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองถือเป็นความผิดฐาน ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 คำฟ้องยังระบุว่า บุญเสริม ศรีจันทร์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ท้ายคำฟ้อง นอกจากขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองแล้ว อัยการไม่ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งริบของกลางที่ตำรวจยึดไปจากทั้งสองในวันที่เข้าจับกุม ได้แก่ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์

ทั้งนี้ ความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นตามฟ้อง มีอัตราต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 - 140,000 บาท

สำหรับเจมส์และบอส ขณะนี้เรียนอยู่ชั้นปี 3 สาขาวิชาดนตรีพื้นเมือง โดยเจมส์เรียนเอกพิณควบคู่กับตีกลอง และบอสเรียนเอกเป่าแคนและร้องหมอลำ โดยทั้งคู่นอกจากเรียนและซ้อมดนตรีในคณะ ยังรับจ้างเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมควบคู่กันไปด้วยตามวาระโอกาส

สำหรับในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นปัจจุบันเท่าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนติดตามยังมีผู้ถูกดำเนินที่เกิดจากการวางเพลิงเผาทรัพย์อันเกี่ยวเนื่องกับซุ้มเฉลิมพระเกียรติและพระบรมฉายาลักษณ์ของ ร.10 อีก 2 คดี

‘เทพ’ นักศึกษาวิทยาเทคนิคขอนแก่น เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2564 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และไม่มีเจตนาหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นในข้อหาวางเพลิงรูป ร. 10 เทพให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังตำรวจขอฝากขัง ศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 35,000 บาท โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ คดีของเทพอยู่ระหว่างชั้นสอบสวน

และคดีของ บอส อิศเรษฐ์ เจริญคง นักกิจกรรมและพ่อค้าขายดอกไม้ธูปเทียนวัย 23 ปี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 บอสเข้าแสดงตัวตามหมายจับจากเหตุวางเพลิงเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ร.10 เมื่อเดือนมีนาคม 2564 บริเวณถนนบายพาส ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น ก่อนพนักงานสอบสวนขออำนาจศาจฝากขัง และได้ประกันตัวใช้หลักทรัพย์ วงเงิน 35,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ คดีอยู่ในชั้นสอบสวนเช่นเดียวกัน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net