Skip to main content
sharethis

ประชาชนจาก ‘ภาคีสหาย’ ปราศรัยเดือดที่หน้าศาลฎีกา ขอเปิดศักราชสู้กับ ‘เจ้าของหมา’ ลดข้อเรียกร้องเหลือข้อเดียวคือข้อ 3 ปฏิรูปสถาบัน ชี้เป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่าง พร้อมจัดกิจกรรมจุดไฟจิตวิญญาณวีรชนผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตย มี.ค.นี้

 

26 ก.พ. 65 สื่ออิสระหลายเจ้า ได้แก่ Friends Talk Real Live และสำนักข่าวราษฎร ถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ‘เฟซบุ๊ก’ และ ‘ยูทูบ’ พบว่า วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 20.00 น. ที่สนามราษฎร หรือลานอากง (ลานหน้าศาลฎีกา ถ.ราชดำเนินกลาง ตรงข้ามสนามหลวง) มีประชาชนคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนตู้ไฟฟ้าตั้งพื้น และปราศรัยผ่านโทรโข่งแนะนำตัวเองว่า เป็นประชาชนจากกลุ่ม “ภาคีสหาย” ระบุว่า วันนี้เขามาปราศรัยด้วยความอัดอั้นตันใจที่เพื่อนถูกดำเนินคดี และถูกฝากขังยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัวออกมา 

ประชาชนจากภาคีสหาย ปราศรัยที่ลานอากง (ที่มา Live Real)

ตัวแทนจากกลุ่มภาคีสหาย กล่าวด้วยว่า วันนี้เขามาปราศรัยเพื่อประกาศทำกิจกรรมเพื่อเปิดศักราชแห่งการต่อสู้กับเจ้าของหมา พร้อมลดข้อเรียกร้องจาก 3 ข้อ เหลือข้อเดียว หรือปฏิรูปสถาบันฯ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ ไม่ใช่การหักกิ่งก้านสาขา หรือสอยผลของต้น ไม่ใช่การเลื่อยกิ่ง แต่สิ่งที่ควรทำคือถอนรากมัน ไม่ให้ต้นนี้มันอยู่อีกต่อไป

ประชาชนคนเดิม ระบุว่า ที่ตนเองมาปราศรัยที่ใต้ต้นมะขามที่สนามหลวง เพราะว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 และต้นมะขามนี้ในมุมมองของเขาเปรียบเป็นศักดินา ที่ขัดขวางไม่ให้ประชาชนหลุดพ้นจากอำนาจ เพราะรากหยั่งรากลึกในสังคมไทยมานาน 

ผู้ปราศรัยคนดังกล่าว ชี้ว่า การเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ข้อเดียว ก็จะส่งผลต่อข้ออื่น (ไล่พล.อ.ปะยุทธ์ ออกจากนายกฯ และแก้รัฐธรรมนูญ) พร้อมเชิญชวนประชาชนให้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการพิมพ์กระดาษเป็นข้อความอะไรก็ได้ และโปรยหน้าบ้านของตนเอง หรือบนถนน เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเรามีเป้าหมายว่าเราจะต่อสู้กับอะไร ไม่จำเป็นต้องด่า

ตัวแทนภาคีสหาย ประกาศว่า เดือน มี.ค.นี้ จะจัดกิจกรรมจุดไฟวีรชน โดยจะมีการไปจุดไฟในทุกพื้นที่ในประเทศที่มีจิตวิญญาณของวีรชน และประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปไตย เช่น จ.สกลนคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่จิตร ภูมิศักดิ์ ปัญญาชนฝ่ายซ้าย ต้องกระสุนปืนจบชีวิตลง จ.นครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดที่พบศพของสหายกาสะลอง และภูชนะ สมรภูมิรบภูหินร่องกล้า จ.เลย ซึ่งเป็นสมรภูมิการรบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและรัฐบาลเผด็จการ ที่ฝังพระศพพระเจ้ากรุงธนบุรี และอื่นๆ และจะนำไฟเหล่านี้เข้ามาใน ‘จุดศูนย์กลาง’ ของเมืองกรุง เนื่องจากเดือน มี.ค. 65 จะเป็นเดือนที่ดวงเมืองตกต่ำถึงที่สุด 

“ไฟที่เราจะจุดเข้ามาไม่ใช่แค่เชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นไฟแห่งจิตวิญญาณของรุ่นพี่เรา ที่เขาเคยฝากไว้ มันจะถูกจุดให้ติดขึ้นอีกครั้งโดยคนรุ่นเรา และเอาเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ในวันที่ดวงเมืองตกต่ำที่สุดในรอบ 240 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์… เพื่อให้มันสั่นคลอน” ตัวแทนภาคีสหาย กล่าว

ตัวแทนภาคีสหายคนเดิม ทิ้งท้ายว่า ถ้า 3 ข้อไม่ให้ ก็เหลือข้อเดียวละกัน มันจะได้จบเกม พร้อมกับขอให้ประชาชนที่ยืนฟังปราศรัยชู 1 นิ้วขึ้นฟ้า และจบการปราศรัย  

ทั้งนี้ ก่อนการปราศรัยของตัวแทนภาคีสหาย มีการแจกกระดาษเป็นคำประกาศของกลุ่มความว่า “เราจะสืบสานรักษาต่อยอดภารกิจของคณะราษฎร ปฏิวัติประชาชน รอบนี้ต้องไม่ให้เสียของ ด้วยความระลึกถึงคณะราษฎร 2475” และนอกจากนี้ มีการโปรยกระดาษบนถนนราชดำเนินกลาง ปรากฏข้อความเช่น “ขอ 3 ข้อก็ไม่ให้ ก็เหลือข้อเดียวแล้วกัน” และอื่นๆ

กระดาษที่ภาคีสหายนำมาโปรยบนถนนราชดำเนินกลาง (ที่มา Live Real)

 

ไฟดวงแรกที่สกลฯ 

ในวันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 21.34 น. เพจเฟซบุ๊กกลุ่มสาธารณะ "ภาคีสหาย" โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์กิจกรรมระบุว่า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อจุดไฟแห่งจิตวิญญาณและอุดมการณ์ไปกับพวกเรา สหายชาวสกลนครและภาคอีสานที่สะดวกเข้าร่วมกิจกรรม สามารถพบกันได้ที่อนุสรณ์สถานจิตร ภูมิศักดิ์ บ้านหนองกุง จังหวัดสกลนคร วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2565 จุดไฟเวลา 11:20 น. และนำไฟที่จุดเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net