Skip to main content
sharethis

บล็อกเกอร์ 'พูติกาล ศายษีมา' สืบค้นข้อมูลประวัติย่อของวลีที่ปูตินไม่ได้พูดว่า "ทั่วโลกยอมแพ้ได้มีแค่คนเดียวคือ คิงภูมิพล" หลังถูกนำมาโพสต์และแชร์จำนวนมากช่วงกระแสที่กองทัพรัสเซียบุกยูเครน

18 มี.ค.2565 หลังจากเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'คุยทุกเรื่องกับสนธิ' ของ สนธิ ลิ้มทองกุล โพสต์ คำพูดพร้อมภาพโดยอ้างว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวถึง ร.9 ว่า "มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ไม่เคยรบกับใคร แต่สามารถทำให้ทุกคนยกย่องสรรเสริญได้ ทั่วโลกยอมแพ้ได้มีแค่คนเดียวคือ คิงภูมิพล" จนมีผู้กดถูกใจ 6.8 หมื่นและกดหัวใจ 1.4 หมื่น แชร์อีก 4.2 พัน นั้น

ต่อมามีการตรวจสอบในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะวันที่ 12 มี.ค. พูติกาล ศายษีมา บล็อกเกอร์ผู้นำเสนอและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองและสถาบันฯ โดยเขาระบุว่า

วลีที่อ้างว่าปูตินสรรเสริญ ร.9 ที่ถูกนำกลับมาแชร์อีกรอบในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังปูตินส่งกองทัพเข้าไปบุกยูเครน โดยเฉพาะในกลุ่มฝ่ายกษัตริย์นิยม ประยุทธ์นิยม ซึ่งจำนวนมากกลายมาเป็นปูตินนิยม เช่น สนธิ ลิ้มทองกุล ได้นำวลีดังกล่าวมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กดังกล่าว ทำให้หลายคนเห็นแล้วสงสัยว่าวลีดังกล่าว ปูตินพูดจริงไหม และ พูดตอนไหน? โดย Teeranai Charuvastra (ธีรนัย จารุวัสตร์) นักข่าวจาก Prachatai English ได้ทำการสืบค้นหลักฐานคำพูดของปูตินเกี่ยวกับ ร.9 ตั้งแต่ตอนปี 2546 ที่ปูตินเข้าเฝ้า ร.9 สมัยมาประชุมเอเปคที่ไทยในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จนถึงปัจจุบันก็ไม่พบว่ามีการพูดอย่างวลีที่กล่าวอ้าง

จนทำให้นักประวัติศาสตร์อย่าง Somsak Jeamteerasakul (สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล) ที่ขนาดเห็นข่าวรัสเซียทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กในสื่อตะวันตก ยังไม่ปักใจเชื่อถ้าไม่เห็นหลักฐานยืนยันชัดเจน พอเห็นข้อมูลที่ Teeranai ไปสืบค้นมา ยังเห็นด้วยว่าเรื่องนี้ปูตินไม่เคยพูด "‘มหาราชผู้ยิ่งใหญ่’ ที่ไม่เคยสู้รบกับใคร แต่สามารถทำให้ทุกคนยกย่องสรรเสริญได้ ทั่วโลกยอมแพ้ได้ มีแค่คนเดียว คือ ‘คิงภูมิพล’"

ก่อนหน้านี้ Sopon Pornchokchai ก็เคยตั้งข้อสงสัยตั้งแต่ 19 ตค 2563 ว่าวลีดังกล่าวไม่ใช่ของปูติน เพราะไม่ตรงกับเนื้อหาในแถลงการณ์จากเครมลิน และการใช้คำว่า ‘ทั่วโลกยอมแพ้’ มันเป็นการไปก้าวล่วงประเทศอื่น ซึ่งผิดธรรมเนียมการทูต

วลี ‘มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่เคยสู้รบกับใครฯ’ นี้มันมีที่มาจากไหน? ดร.โสภณ อ้างอิงไปที่บทความใน ผู้จัดการ วันที่ 19 ตค 2560 ซึ่งเป็นบทความเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีแห่งการสวรรคตของ ร.9 (19 ต.ค. 2560, MGR Online)

แต่ผู้จัดการไม่ใช่ต้นตอของวลีนี้แน่ เพราะก่อนหน้านั้น วันที่ 10 ตค 2560 ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ช่อง SpringNews19 “หมาแก่” ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ก็ยกวลีนี้มาอ่าน ซึ่งคลิปรายการตอนนี้เป็นหนึ่งใน “หลักฐาน” ที่ฝ่ายนิยมเจ้าชอบยกมาใช้อ้างอิง เพื่อยืนยันว่าวลีดังกล่าวเป็นของปูตินจริงๆ ทั้งๆที่ในรายการ ดนัย พูดขึ้นมาลอยๆโดยไม่ได้ให้แหล่งอ้างอิงใดๆ 

“หมาแก่” ดนัย ก็ไม่ใช่ต้นตอแรกที่เผยแพร่ วลีที่ปูตินไม่ได้พูด อันนี้เพราะพบว่า วลีดังกล่าวมันปรากฎในสื่อไทยตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2559 ช่วงสัปดาห์หลังจากที่ ร.9 สวรรคต นั่นเอง เช่นข่าววันที่ 21 ต.ค. 2559 ใน Sanook ที่นำข่าวมาจาก INNNews แต่ก็ไม่มีแหล่งอ้างอิงแน่ชัด แค่บอกว่ามาจากสำนักข่าวต่างประเทศ

ช่วงเวลาดังกล่าวที่พบว่ามีการเผยแพร่วลีนี้ทางทีวีไทยเช่นกัน เช่นในรายการ TNN Good Morning ของช่อง TNN News วันที่ 20 ต.ค. 2559 ซึ่งก็รายงานวลีนี้โดยไม่ได้ระบุแหล่งอ้างอิง โดยเพียงแต่บอกว่าเป็นคำพูดของปูตินหลังจากที่ทราบข่าวการสวรรคตของ ร.9

ก่อนหน้านั้นแค่ 3 วัน ในช่อง TNN ก็พึ่งเผยแพร่สกู๊ปเรื่อง สารแสดงความอาลัยจากผู้นำโลก ซึ่งก็มีสารของปูตินด้วย โดยเนื้อหาตรงกับเอกสารที่เผยแพร่จากเคลมลิน ไม่ได้การเยินยอว่าเป็นมหาราชที่ไม่เคยรบกับใครแต่ทั่วโลกยอมแพ้แต่อย่างใด

เข้าใจว่า วลีที่ปูตินไม่ได้พูด นี้ถูกเผยแพร่บนทีวีไทยครั้งแรกในช่วงวันที่ 19 ต.ค. 2559 เช่นในคลิปรายการ “ครบข่าวเทียง” ทางช่อง NBT (กรมประชาสัมพันธ์) ซึ่งก็เหมือนกับการรายงานในสื่ออื่นๆที่ผ่านมา คือเป็นการเผยแพร่โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา

แม้วลีดังกล่าวจะเริ่มเผยแพร่ในสื่อไทยในช่วงวันที่ 19 ต.ค. 2559 แต่เหมือนว่า วลีที่ปูตินไม่ได้พูด นี้จะแพร่หลายในโซเซียลอยู่ก่อนแล้ว เช่นในทวิตเตอร์ของค่ายละคร โพลีพลัส ได้ทวิตถึง วลีที่อ้างว่าเป็นของปูติน ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค 2559

 

 

เมื่อค้นในทวิตเตอร์พบว่าจริงๆ มีการทวิตวลีนี้จำนวนมากตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2559 โดยหลายทวิตมีการอ้างอิงไปถึงโพสท์ใน Facebook หรือ Instagram ซึ่งส่วนใหญ่โพสท์เหล่านั้นจะถูกลบไปแล้ว จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการอ้างอิงแหล่งที่มาจากไหน โดยในวันที่ 14 ต.ค. 2559 (1 วันหลัง ร.9 สวรรคต) เป็นวันแรกที่มีทวิต วลีที่ปูตินไม่ได้พูด ซึ่งยังเหลืออยู่แค่ 2 ทวิต โดยมีหนึ่งในนั้นเป็นทวิตจาก แทนคุณ จิตต์อิสระ ซึ่งได้มีการอ้างอิงไปยัง Instagram ของแทนคุณ ที่โพสท์วันที่ 14 ต.ค. 59 เช่นกัน แต่ในวันนั้นแม้แต่ในโซเซียล วลีนี้ก็ยังไม่เป็นกระแสอะไร เพราะอย่างในทวิตของ แทนคุณ อันนี้ ก็มีคนรีทวิตแค่ 20 คนเท่านั้น

เมื่อเข้าไปดูใน Instagram ของแทนคุณที่อ้างถึงซึ่งโพสท์ในวันเดียวกันที่ก็ไม่ได้มีการอ้างอิงแหล่งที่มา ก็พบว่าไม่ได้เป็นที่สนใจเท่าไหร่มีคนไลค์แค่ 68 คน

จริงๆ แล้วแทนคุณก็คงไม่ใช่คนแรกที่เผยแพร่วลีนี้ เพราะจากข้อมูลทวิตในทวิตเตอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็พบว่าก่อนที่แทนคุณจะทวิต มีคนทวิตวลีดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว 1 คนในเวลา 2 ทุ่มของวันที่ 14 ต.ค. 2559 แต่ในวันนั้น วลีนี้ยังไม่เป็นกระแส ยังไม่มีคนสนใจเท่าไหร่ ต้องรออีก 2–3 วัน วลีที่ปูตินไม่ได้พูด ที่มีต้นกำเนิดจากโซเซียลถึงจะเริ่มเป็นกระแสไปเข้าตาสื่อ แล้วถูกหยิบไปนำเสนอเป็นข่าวในทีวีโดยไม่ตรวจสอบแหล่งอ้างอิงให้ดีพอ จนสร้างความสับคนทำให้คนเข้าใจผิดจำนวนมาก

ข้อความจริงๆ จากปูตินในสาสน์แสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของ ร.9 มีดังต่อไปนี้ (มีการแปลเป็นอังกฤษหลายเวอร์ชั่น อันนี้คือเวอร์ชั่นแบบเป็นทางการจากเว็บทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย)

"Mr Putin said that King Bhumibol Adulyadej’s name is associated with an important period in Thailand’s recent history that saw great economic development and a stronger position on the international stage. “Over the decades of his rule, he earned his people’s sincere love and earned great authority abroad. He will be remembered in Russia as a principled supporter of developing friendship and cooperation between our countries,” the President said in his message of condolences.

Mr Putin expressed words of sympathy and support to the entire royal family and to Thailand’s government and people." (ที่มา : en.kremlin.ru)

ถ้าเอา วลีที่ปูตินไม่ได้พูด ไปเทียบกับแถลงการณ์จริงจากทำเนียบ ประธานาธิบดีรัสเซีย จะพบว่ามันมีแค่ มีแค่ 3 กลุ่มคำที่อาจจะกล้อมแกล้มได้ว่าปูตินพูดได้แก่ 1. ยิ่งใหญ่=Great 2. สามารถทำให้คนยกย่องสรรเสริญได้ทั่วโลก = earned great authority aboard (อันนี้ไม่ตรงเท่าไหร่ แต่หยวนๆให้) 3. คิงภูมิพล = King Bhumibol แค่นี้เท่านั้น ที่เหลือไม่ได้ตรงกับแถลงการณ์เลย

แล้ววลีทำนองว่า เป็นมหาราชผู้ไม่เคยสู้รบกับใคร แต่สามารถทำให้ทั่วโลกต้องยอมแพ้ได้ มันมาจากไหน? มิตรสหายบางคนตั้งข้อสังเกตุว่าวลีนี้ มันคุ้นๆ คล้ายๆ กับบทพูดในละครอินเดีย เรื่อง พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ตอนที่ 54 ซึ่งมีตัวละครหนึ่งสรรเสริญพระพุทธเจ้าหลังปรินิพพานว่า (มิตรสหายเม้นบอกว่าคือ พระเจ้าอชาติศัตรู)

“คนที่ไม่เคยจับดาบในมือ คนที่ไม่เคยใช้อาวุธกับใคร แต่กลายเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ และกล้าหาญที่สุด ที่ครอบครองโลกนี้ (นาที 19:09)” 

ซึ่งละครเรื่องนี้ ฉายในไทยครั้งแรกทางช่องเวิร์คพอยท์ ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2558 ก่อนที่ ร.9 จะสวรรคตปีกว่าๆ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net