Skip to main content
sharethis

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 26,840 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ ATK 20,495 ราย รักษาหาย 23,412 ราย เสียชีวิต 97 ราย - สปสช.เตรียมระบบสายด่วน 1330 ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รองรับหลังสงกรานต์-ดูแลกลุ่ม 608

3 เม.ย. 2565 ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทย ผู้ป่วยใหม่ 26,840 ราย ติดเชื้อเข้าข่าย/ ATK 20,495 ราย รักษาหาย 23,412 ราย เสียชีวิต 97 ราย

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565

ผู้ป่วยรายใหม่ 26,840 ราย
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,488,160 ราย
หายป่วยแล้ว 1,258,560 ราย
เสียชีวิตสะสม 3,717 ราย

ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,711,595 ราย
หายป่วยแล้ว 3,427,054 ราย
เสียชีวิตสะสม 25,415 ราย

มีผู้รับ "วัคซีนโควิด" ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. 2564 - 2 เม.ย. 2565
สะสมทั้งหมด จำนวน 130,054,244 โดส วันที่ 2 เม.ย. 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน

เข็มที่ 1 จำนวน 47,350 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 22,204 ราย
เข็มที่ 3 จำนวน 106,898 ราย

ด้าน 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงสูงต่อเนื่องโดยวันนี้พบติดเชื้อเพิ่ม 3,095 ราย ป่วยสะสะสมแล้ว ราย 204,908 นอกจากนี้ยังมียังพบว่า จ.ชลบุรี มีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงสูงเกินพันราย ติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่วนนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดที่เคยมีผู้ติดเชื้อทะลุพันราย วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 965 ราย

โดย 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยวันที่ 3 เม.ย. 2565 มีดังนี้

1. กรุงเทพมหานคร 3,095 ราย 
2. ชลบุรี 1,300 ราย 
3. นครศรีธรรมราช 965 ราย
4. สมุทรปราการ 922 ราย    
5. สมุทรสาคร 893 ราย 
6. ขอนแก่น 804 ราย 
7. ระยอง 783 ราย 
8. นครปฐม 742 ราย 
9. นนทบุรี 712 ราย 
10. สงขลา 684 ราย  

สปสช.เตรียมระบบสายด่วน 1330 ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รองรับหลังสงกรานต์-ดูแลกลุ่ม 608

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดปรับระบบการคัดแยกผู้ป่วยโควิด-19 เน้นการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่ม 608 รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในระดับสูงคงตัวและคาดการณ์ว่าช่วงหลังสงกรานต์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและจัดระบบดูแล ในส่วนของ สปสช.นั้น ได้จัดเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้เช่นกัน โดยได้เปิดสายด่วน 1330 กด 18 เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาโดยเฉพาะ ทั้งกลุ่ม 608, เด็ก 0-5 ปี, คนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง สปสช.จะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ให้ก่อน พร้อมประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงนั้น ให้โทรเข้าที่สายด่วน 1330 กด 14 ทางเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการรักษาตามอาการ กรณีเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือเจอ แจก จบ หรือจะเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ก็ได้ ซึ่ง สปสช.จะลงทะเบียนให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มนี้ และจับคู่กับสถานพยาบาลเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป กรณี โทร.สายด่วนไม่ติดเนื่องจากอาจมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ให้ลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ สปสช. https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือทางไลน์ สปสช. @nhso ได้เช่นกัน

สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มสีเหลือง-แดงนั้น ท่านเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือโทร. 1669 โดยจะมีการประเมินอาการก่อนว่าเข้าเกณฑ์ผู้ป่วยโควิด-19 สีเหลือง-แดง หรือไม่

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ปัจจุบันสายด่วน 1330 ได้เพิ่มคู่สายเป็น 3,000 คู่สายแล้ว โดยเป็นเจ้าหน้าที่ของ สปสช. และอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์ ซึ่งจำนวนสถิติที่ โทร.เข้ามาที่สายด่วน 1330 ในขณะนี้เฉลี่ยวันละประมาณ 30,000 สาย ถือว่าเป็นปริมาณที่มาก แต่ระบบยังสามารถรับได้ จำนวนสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้หรือ abandon เป็น 0% นอกจากนี้ สปสช.ยังมีในส่วนของช่องทาง Non Voice เพื่อให้บริการผู้ป่วยผ่านระบบแชททางไลน์ สปสช. @nhso และเฟสบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีประชาชนติดต่อเข้ามาวันละ 10,000-20,000 รายเช่นกัน

ทั้งนี้ นอกจากสายด่วน สปสช. 1330 แล้ว ท่านยังสามารถติดต่อสายด่วนของแต่ละจังหวัดที่ท่านพักอาศัยอยู่เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาตามแนวทางที่กำหนดได้เช่นกัน โดยเข้าไปดูได้ที่เฟสบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีรายละเอียด ขั้นตอน และเบอร์โทรศัพท์ในการประสานงานระบุไว้ ในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร (https://main.bangkok.go.th/) และเฟสบุ๊กกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ (https://www.facebook.com/prbangkok) รวมถึงเพิ่มเพื่อนทาง Line @BKKCOVID19CONNECT หรือคลิก https://bit.ly/3Iuw7Si ได้เช่นกัน

นอกจากนั้นยังมีระบบของกรมการแพทย์และภาคีเครือข่าย สำหรับลงทะเบียนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย สามารถลงทะเบียนได้เวลาทำการ 08.30-16.30 น. https://onestopcovid.dms.go.th/oss/index.jsp ด้วยเช่นกัน รวมถึงแอดไลน์ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในสถานการณ์โควิด สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อขอคำแนะนำการดูแลเด็กที่ติดเชื้อโควิดได้ แอดไลน์ที่ https://lin.ee/Dw9Nx3d

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net