Skip to main content
sharethis

ทร.ย้ำ สัญญาซื้อเรือดำน้ำจากจีน ยังไม่เปลี่ยน รอคุย CSOC แก้ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ MTU หลัง 'ประยุทธ์' ให้นโยบาย "หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ต้องทำใหม่"  ด้าน ส.ส.เพื่อไทย กังขากองทัพมีเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์ไว้โชว์วันเด็กหรืออย่างไร อัดรัฐโอ๋ 'แรมโบ้อีสาน' ทำแก้หวยแพงล้มเหลวเชื่อ 'ประยุทธ์' ไม่จริงใจปราบทุจริต

 

8 เม.ย.2565 จากเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เดลินิวส์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือ และจีนหารือเพื่อหาทางออก หลังเยอรมนี ไม่ขายเครื่องยนต์ใส่เรือดำน้ำที่ไทยสั่งต่อจากจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อเรือว่า เรื่องนี้ตนให้นโยบายต้องดำเนินการให้สำเร็จ เพราะอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว แต่หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ต้องทำใหม่

"ถ้ามันไม่ได้จะเอามาทำไม มันไม่มีเครื่อง รัฐบาลจะซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องมาทำไม ในเมื่อสัญญาเซ็นไว้แล้วทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการจะทำอย่างไรต่อไป ทุกอย่างมันต้องแก้อย่างนี้ไม่ใช่หรือ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมระบุว่าระดับรัฐบาลสามารถยกเลิกสัญญาได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะพิจารณาตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมีอยู่ ไม่ใช่นายกฯ ต้องไปสั่งทุกเรื่อง

ทร.ย้ำ สัญญาซื้อเรือดำน้ำจากจีน ยังไม่เปลี่ยน รอคุย CSOC แก้ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ MTU

ขณะที่วันนี้ (8 เม.ย.) ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงกรณีกองทัพเรือส่งหนังสือถึงบริษัท CSOC ของจีน มาหาข้อสรุปเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีนชั้นหยวนคลาส S26T หลังเยอรมนีไม่อนุมัติขายเครื่องยนต์ MTU ให้ทางจีนติดตั้ง ว่า “ก็ให้เจรจากันไป”

ต่อคำถามที่ว่าให้กองทัพเรือกับทางจีน พิจารณากันไปใช่หรือไม่นั้น ผบ.ทร. พยักหน้าตอบรับ และปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีข้อเสนอเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นของบริษัทอื่น แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนสัญญา รอให้เขาเจรจาก่อน
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุถ้าไม่เป็นไปตามสัญญา ก็สามารถยกเลิกได้นั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ พยักหน้ารับ พร้อมกล่าวว่า รอเขามาเจรจาก่อน คาดได้ข้อสรุปปลายเดือนเมษายนนี้

พล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ได้เตรียมแผนการพูดคุยกับ csoc ไว้ในใจแล้ว

'ประวิตร' มั่นใจปัญหาเรือดำน้ำเคลียร์ได้

ต่อกรณีนี้ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ไทยรัฐออนไลน์รายงานด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีหากจะยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ ในฐานะที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงมองว่าจะยกเลิกได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “มีเครื่องยนต์” เมื่อถามต่อไปอีกว่าแต่จะไม่ได้เครื่องยนต์ MTU ของประเทศเยอรมนีตามที่ระบุในสัญญา โดย พล.อ.ประวิตร ให้คำตอบว่า “เดี๋ยวได้หมด”

ส.ส.เพื่อไทย กังขากองทัพมีเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์ไว้โชว์วันเด็กหรืออย่างไร อัดรัฐโอ๋ 'แรมโบ้อีสาน' ทำแก้หวยแพงล้มเหลวเชื่อ 'ประยุทธ' ไม่จริงใจปราบทุจริต

ขณะที่วันนี้ (8 เม.ย.) ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานด้วยว่า วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีที่แข็งขันและเอาจริงเอาจังกับการทุจริต รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าให้การปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เพราะรัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล ในสายตาประชาชนและนักลงทุน แต่ผลที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่พล.อ.ประยุทธ์แถลง การบริหารประเทศของรัฐบาล พบว่ามีหลายหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตหลายอย่าง แต่ไม่มีการดำเนินการเอาผิดอย่างจริงจังและจริงใจในการปราบปรามการทุจริต เห็นได้จากอันดับความโปร่งใสของไทยตกต่ำลงหนักมาก กรณีที่องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ จ่ายเงินจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000  ล้านบาท พฤติกรรมของพลเอกประยุทธ์กลับเพิกเฉย ไม่ติดตามเงินของประชาชนกลับคืนมาเพราะกลัวกระทบสัมพันธ์พรรคร่วมและรัฐบาลจะล่มในที่สุด จึงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปโดยไร้ความ รู้สึกรับผิดชอบต่องบประมาณแผ่นดิน 

วันนิวัติ กล่าวด้วยว่า เมื่อก้าวสู่อำนาจพล.อ.ประยุทธ์ ใช้กฎหมายพิเศษ สั่งพักงาน โยกย้ายตำแหน่ง ทั้งข้าราชการและส่วนราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก อ้างมีการร้องเรียนเรื่องทุจริต จึงต้องสอบสวนก่อน หากไม่ผิดก็จะคืนตำแหน่งให้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานแก้ไขสลากเกินราคาฯ ที่มีคลิปเสียงยืมเงิน 15 ล้านเพื่อใช้หาเสียง จากโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล สิ่งที่พล.อ. ประยุทธ์ดำเนินการคือ การออกมาปกป้องนายเสกสกล ที่อาจจะกระทำการทุจริตตามคลิปเสียงที่ออกมา ท่านไม่อายหรือ ที่ผ่านมาชี้หน้าคนอื่นว่าทุจริตแต่พวกตัวเองเรียกมาโอ๋ ออกมาปกป้องเช่นนี้ ช่างน่าละอายนัก

“นอกจากนี้การจัดซื้ออาวุธของกองทัพมีปัญหามาตลอด ล่าสุดการซื้อเรือดำน้ำ มีปัญหา กองทัพเรือจ่ายเงินหลายหมื่นล้านซื้อเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์มาจอดให้เด็กดูวันเด็กหรืออย่างไร ทั้งนี้กองทัพไทยยังคงซื้ออาวุธที่ล้าสมัยมาประจำการ ไม่ว่าจะเป็นรถถัง รถหุ้มเกราะล้อยาง ซื้อแพงกว่าหลายประเทศมาตลอด กองทัพทั่วโลกเขาพัฒนาอาวุธไปไกลมากแล้วแต่กองทัพไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง น่าประหลาดใจกองทัพซื้ออาวุธเป็นเงินสด โดยไม่จ่ายเป็นสินค้าเกษตรแต่อย่างใด ปัจจัยอะไรที่ต้องจ่ายด้วยเงินสด ประชาชนมองว่าการจัดซื้อของกองทัพมีอะไรเคลือบแคลงในการซื้ออาวุธหรือไม่" วันนิวัติ กล่าว

ทั้งนี้ บทบรรณาธิการของข่าวสดออนไลน์ ชี้ว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 3 ลำ เฉลี่ยลำละกว่า 1 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับท่าจอดเรือ และส่วนอื่นๆ อีก รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 4 หมื่นล้านบาทตามกำหนดปี 2566 จีนจะต้องส่งเรือดำน้ำ ลำแรกให้ไทย แต่ติดขัดเรื่องเครื่องยนต์ เนื่องจากเยอรมนีระงับส่งออกเครื่องยนต์ดีเซลเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม การส่งออกต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเยอรมนี

"เรือดำน้ำจีนเป็นโครงการมูลค่ามหาศาล มีข้อถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงความจำเป็นเหมาะสมในท่ามกลางโรคระบาด และเศรษฐกิจดิ่งทรุด ซ้ำกว่านั้นในเมื่อตกลงทำสัญญาซื้อกันแล้ว กลับประสบปัญหาการติดตั้งเครื่องยนต์ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ หากขัดข้องหรือมีปัญหาขณะดำใต้น้ำ จะเกิดอันตรายต่อกำลังพลในเรือ
จึงเกิดข้อสงสัยที่ผ่านมาได้ศึกษาละเอียดรอบคอบ–ดีพอหรือไม่ต่อโครงการนี้ แล้วไม่รู้หรือเครื่องยนต์เรือดำน้ำเยอรมนีเป็นสินค้าควบคุม ไม่ใช่ซื้อขายกันง่ายๆ แม้รัฐบาลย้ำต้องซื้อให้ได้ ถึงขั้นยกเลิกสัญญาแล้วจัดหาใหม่ก็ต้องทำ แต่ปัญหาคือ เวลาโอกาสที่สูญเสียไปจะรับผิดชอบอย่างไร และจะกระทบงบประมาณ ภาษีประชาชนอีกหรือไม่" บทบรรณาธิการของข่าวสดออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net