ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยกกรณี ‘พลทหารประจักษ์’ ทหารเกณฑ์พิการระหว่างประจำการ ครอบครัวผู้เสียหายถูกลอยแพ ต้องวิ่งหาการชดเชยเยียวยาเอง จี้กองทัพต้องใส่ใจกำลังพล ย้ำถึงเวลาต้องปฏิรูปกองทัพและยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร

21 เม.ย. 2565 ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนคนพิการ พรรคก้าวไกล ยกเคส ‘พลทหารประจักษ์’ พิการระหว่างประจำการเป็นบทเรียน ครอบครัวผู้เสียหายถูกลอยแพต้องวิ่งเต้นหาการชดเชยเยียวยาเอง ล่าสุด ชวดค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เนื่องจากยื่นขอเกินกรอบเวลา จี้กองทัพต้องใส่ใจกำลังพล ย้ำถึงเวลาต้องปฏิรูปกองทัพและยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร

ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 

ปริญญาแสดงความเห็น หลังช่วงเวลาเกณฑ์ทหารเพิ่งจบลงเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้ระบบกองทัพเช่นปัจจุบัน การเป็นทหารอาจไม่ได้อะไรอย่างที่คิด ในฐานะ ส.ส.สัดส่วนผู้พิการ ได้ติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับพลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม มาตลอด และเคยไปเยี่ยมครอบครัวพลทหารประจักษ์หลังเกิดเหตุ รวมถึงช่วยประสานงานทางคดีให้แก่ครอบครัว โดยพลทหารประจักษ์เคยเป็นนักกีฬา สุขภาพแข็งแรง และมุ่งมั่นเข้าเป็นทหาร แต่กลับพิการระหว่างประจำการ มีรายงานว่าเป็นการถูกซ้อมในระหว่างประจำการอยู่ในสังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กระทั่งปลดประจำการแล้วยังคงมีอาการสมองเสื่อม จำคนรอบข้างไม่ได้ กลายเป็นคนพิการถาวร และต้องเข้ารับการรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง

มารดาของพลทหารประจักษ์

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบกับครอบครัวอย่างมากตั้งแต่พ.ศ.2560 จนถึงปัจจุบัน มารดาของพลทหารประจักษ์ต้องรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนลูกชาย โดยไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาจากกองทัพ ต้องยื่นเรื่องต่อกรมสืบสวนคดีพิเศษเพื่อสืบเสาะหาข้อเท็จจริง

“ล่าสุด ทางครอบครัวเพิ่งได้รับหนังสือตอบจากคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งทางคุณแม่ของพลทหารประจักษ์ได้เคยยื่นคำขอไว้ โดยหนังสือตอบกลับมาว่าเป็นการยื่นคำขอเกินระยะเวลาภายในหนึ่งปีตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายได้รู้ถึงการกระทำผิด จึงได้ยกคำขอไป ระเบียบของฝ่ายยุติธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การที่กองทัพปล่อยให้ผู้เสียหายต้องดิ้นรนเรียกร้องการชดเชยเยียวยาความยุติธรรมด้วยตัวเองเช่นนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ได้เลย” ปริญญา กล่าว

ปริญญาเสริมว่า ตนเองได้ยื่นเรื่องเข้าสู่ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อถามหาความคืบหน้าในกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนคดีที่ทีมงานพรรคก้าวไกลร่วมกับทนายความสิทธิมนุษยชนยื่นเรื่องสอบสวนเป็นคดีพิเศษ (DSI) ขณะนี้ DSI ได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว และยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

หากกองทัพยังคงเพิกเฉยปล่อยให้มีวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดเช่นนี้ การละเมิดสิทธิมนุษยชนในค่ายทหารจะคงอยู่ต่อไป พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการปฏิรูปกองทัพและการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร เพื่อให้ทหารกลายเป็นอาชีพที่มีสวัสดิการและสวัสดิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการมาทำหน้าที่ โดยพรรคก้าวเคยเสนอแนวทางรูปธรรมด้วยการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เข้าสู่สภา แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปัดตก โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน