'We're all voters' ยื่น 15,775 ชื่อ ต่อ กมธ.กระจายอำนาจฯ เรียกร้องให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ 

  • กลุ่มรณรงค์ We're all voter : เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง ยื่น 15,775 รายชื่อ ต่อ กมธ.การกระจายอำนาจฯ สภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ประกาศเดินหน้าร้องพรรคการเมืองสนับสนุน
  • กมธ.กระจายอำนาจฯ เดินหน้าเร่งรัดการบรรจุ-อุดหนุนเงินเยียวยาให้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุข สังกัด อปท.

1 มิ.ย.2565 วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่รัฐสภา สันติสุข กาญจนประกร ผู้ตั้งแคมเปญ รณรงค์ We're all voter : เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง ที่ได้มีการเปิดแคมเปญรวบรวมรายชื่อเพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศผ่านเว็บไซต์ Change.org/WeAllVoters โดยมีผู้ร่วมลงชื่อ 15,775 รายชื่อ เข้ายื่อข้อเรียกร้องต่อ ซูการ์โน มะทา ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกระจายอำนาจ การปกครองท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร 

สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานด้วยว่า ชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านการกระจายอำนาจ ในฐานะผู้ร่วมรณรงค์ฯ กล่าวว่า จากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดกระแสเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั่วทั้งประเทศมีความหวังในการออกเสียงเลือกผู้แทนเองได้ โดยปัญหาการมีผู้ว่าฯจากการแต่งตั้ง อาทิ ไม่รู้ปัญหาพื้นที่จริง รับนโยบายจากส่วนกลางมากกว่าเสียงคนในท้องถิ่น ไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงปัญหาการรวมศูนย์อำนาจของรัฐไทย ซึ่งควรปฏิรูปโครงสร้างทางการปกครอง อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกจังหวัดโดยไม่รวมศูนย์ความเจริญอยู่เพียงเมืองหลวง ซึ่งหลังจากการยื่นรายชื่อครั้งนี้ ทางกลุ่มฯ จะเดินหน้าทำแคมเปญรณรงค์ และทำเรื่องถึงพรรคการเมืองต่างๆ ให้บรรจุข้อเรียกร้องลงในนโยบายพรรคและร่วมผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า คณะกมธ. มีเป้าหมายในการผลักดันการกระจายอำนาจให้เกิดขึ้นสู่ท้องถิ่นและประชาชนให้มากที่สุดทั้งส่วนภูมิภาค และจังหวัด ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการให้จังหวัดได้มีอำนาจจัดการตนเอง โดยตนพร้อมสนับสนุนแคมเปญดังกล่าวเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศต่อไป

ประกาศเดินหน้าเรียกร้องพรรคการเมืองทุกพรรค

นอกจากนี้ เพจ 'We’re all voters: เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง' ระบุด้วยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังรับหนังสือจากกลุ่มด้วย โดยกลุ่มรณรงค์ We're all voterฯ ระบุอีกว่าจะยื่นต่อพรรคการเมืองทุกพรรคที่เห็นค่าประชาชน

สำหรับคำแถลงของทางกลุ่มฯ โดย สันติสุข เป็นผู้อ่าน มีดังนี้

เรียน ราษฎร และพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ผม-นายสันติสุข กาญจนประกร ตัวแทนจากกลุ่ม We’re all voters: เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง ขอรบกวนเวลาอันมีค่าของท่าน เพื่อสื่อสารถึงการมาสภาฯ ในวันนี้

ทางกลุ่มของเรา ได้ร่วมกับ change.org รณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยให้ประชาชนลงชื่อ ซึ่งขณะนี้มียอดมากกว่า 15,000 รายชื่อ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากกระแสคนกรุงเทพฯ เลือกคุณชัชชาติ และเห็นถึงความสามารถของผู้ว่าฯ ที่ได้เลือกกับมือในคูหาเลือกตั้ง

เราเดินทางมายื่นหนังสือขอเรียกร้องต่อ ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักเข้าสู่กลไกลรัฐสภา ให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย รวมถึงเกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ประเทศเรารวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง ซึ่งหากผมเข้าใจไม่ผิด มันหมายถึงความเจริญกระจุกตัวอยู่แค่กรุงเทพฯ ไม่ต้องไปถึงต่างจังหวัดที่ไหนไกล เพียงเราขับรถออกย่านชานเมือง เราก็จะเห็นได้ถึงความทรุดโทรม และคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่

ประชาชนในต่างจังหวัด ต่างมี 1 สิทธิ์ 1 เสียง เหมือนๆ กัน นี่คือหลักการพื้นฐานของคนเท่ากัน คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เราพึงมี ผู้ว่าฯ จากการแต่งตั้งไม่รู้ปัญหาพื้นที่จริง ส่วนผู้ว่าฯ จากการเลือกตั้ง ต่างต้องเเข่งกันเสนอนโยบายให้เราเลือก

ในห้วงที่เราต่างตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพที่ผลิบาน คงไม่มีช่วงเวลาไหนเหมาะสมเท่าปัจจุบันอีกแล้ว ประชาชนทุกคนต่างต้องการอำนาจทางการเมืองของตน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดียิ่งขึ้น

หลังจากนี้ ทางกลุ่มของเรา จะเดินหน้าผลักข้อเรียกร้องสู่พรรคการเมืองต่างๆ ที่เห็นค่าของประชาชน และจะนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆ ในเพจเฟซบุ๊ค อีกทั้งจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การเสวนา จนกว่าความฝันของประชาชนจะเป็นจริง การกระจายอำนาจจะเป็นจริง การแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นจริง

กมธ.กระจายอำนาจฯ เดินหน้าเร่งรัดการบรรจุ-อุดหนุนเงินเยียวยาให้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุข สังกัด อปท.

วันเดียวกัน (1 มิ.ย.) สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานด้วยว่า ซูการ์โน และพรรณสิริ กุลนาถศิริ รองประธานกรรมาธิการคนที่สาม และกรรมาธิการ เปิดเผย ความคืบหน้าการพิจารณากรณีการของบประมาณเพื่อบรรจุข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นกรณีพิเศษ โดยประธานกรรมาธิการระบุว่าได้เชิญผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำนักงบประมาณ ประธานเครือข่ายลูกจ้างสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายลูกจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมหารือในที่ประชุม ประเด็นการพิจารณาเยียวยาและช่วยเหลือบุคลากรด้านสาธารณสุขสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับการบรรจุเท่าเทียมกับบุคลากรสาธารณสุขสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

พรรณสิริ กล่าวว่ากรรมาธิการได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงต้นการระบาดของโควิด-19 ซึ่งกรรมาธิการได้ศึกษากรณีการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกจ้างสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับการพิจารณาช่วยเหลือใน 2 ประเด็น คือการจ่ายเงินเยียวยาในช่วงระยะเวลา 7 เดือนเป็นเงินจำนวนคนละ 1,500 บาท ซึ่งมีบุคลากรทั้งสิ้น 1,400 คน ในขณะที่ลูกจ้างสังกัดสาธารณสุขได้รับการบรรจุและรับเงินเยียวยาไปแล้วจำนวน 38,000 อัตรา ประเด็นต่อมาคือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณ ดูแลบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความเท่าเทียมกับบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกรรมาธิการจะเชิญคณะกรรมการการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เข้าหารือแนวทางการดำเนินการบรรจุและจัดสรรเงินเยียวยา แก่บุคลากรดังกล่าวในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ได้รับการบรรจุและจัดสรรเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด 

อย่างไรก็ตามด้าน เอกชัย ทองคำ ประธานเครือข่ายลูกจ้างสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่ปี 2563 บุคลากรสาธารณสุขสังกัด อปท. ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ทั้งการดูแลช่วยเหลือประชาชน และการลงพื้นที่ตรวจคัดกรอง โดยในส่วนของภารกิจนั้นเท่าเทียมกับลูกจ้างสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จึงขอความเป็นธรรมมายังกรรมาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้เกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องดังกล่าวด้วย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท