FIDH และศูนย์ทนายฯ แถลงยอดคดีม.112 แค่ปีครึ่ง 200 คนแล้ว ชี้ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ

ศูนย์ทนายความฯ ร่วมกับ FIDH แถลงข่าวรัฐไทยใช้ ม.112 อย่างไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศแค่ปีครึ่งมีคนโดนคดีแล้ว 201 คน พร้อมเรียกร้องให้หยุดการจับกุมดำเนินคดีรวมถึงแก้ไขกฎหมาย ถ้ายังดำเนินต่อไทยจะมีนักโทษการเมืองมากที่สุดในภูมิภาค

20 มิ.ย.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ทางศูนย์ทนายฯ ร่วมกับสหพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (FIDH) แถลงข่าวรายงานสถานการณ์ใช้ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีผู้ถูกดำเนินคดีมากถึง 201 คนในช่วง 1 ปีครึ่ง(18 เดือน) ที่ผ่านมานับตั้งแต่ 24 พ.ย.2563 ถึง 16 มิ.ย.2565 ในจำนวน 201 คนนี้เป็นเยาวชนถึง 16 คน

นอกจากนั้น ณ ปัจจุบันยังมีผู้ที่ยังถูกคุมขังระหว่างพิจารณาโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวอยู่ 4 คน คือ ณัฐนิช (สงวนนามสกุล) หรือใบปอ, เนติพร (สงวนนามสกุล) หรือ บุ้ง, เวหา แสนชนชนะศึก และพลทหารเมธิน (นามสมมติ) อีกทั้งในขณะนี้ ณัฐนิชและเนติพรกำลังอดอาหารเพื่อประท้วงต่อการลิดรอนสิทธิ และยังมีกณีที่ศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว 2 คน คือ อัญชัญ ปรีเลิศ และ สมบัติ ทองย้อย ยังถูกจองจำหลังจากถูกตัดสินจำคุก 87 และ 6 ปี ตามลำดับ

“ด้วยอัตราการดำเนินคดีในปัจจุบัน และด้วยอัตราการตัดสินลงโทษในคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ที่สูงเป็นปกตินั้น ในไม่ช้าประเทศไทยอาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักโทษการเมืองจำนวนมากที่สุดในภูมิภาค รัฐบาลไทยต้องยุติการแพร่ระบาดของการดำเนินคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์โดยทันที และปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” Adilur Raman Khan เลขาธิการ FIDH

รายงานยังระบุว่าที่ผ่านกลไกติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ (UN) จำนวนมากได้แสดงความกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับการใช้มาตรา 112 ที่เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและความเข้มงวดในการใช้มากขึ้นและเรียกร้องให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายมาตรานี้ และยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับที่รัฐไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย

นอกจากนั้น ตั้งแต่สิงหาคม 2555 คณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ (WGAD) ยังเคยประกาศให้การลิดรอนเสรีภาพของผู้ต้องขังในคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ 9 คนเป็น “การกระทำโดยพลการ” เนื่องจากฝ่าฝืนบทบัญญัติหลายประการของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคีอยู่

อีกทั้งการจับกุมและดำเนินคดีเยาวชนด้วยมาตรา 112 ยังไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วนสิทธิเด็ก (CRC) มาตรา 13(1) กำหนดว่าเด็กมีสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก รวมทั้งเสรีภาพในการแสวงหา ได้รับ ถ่ายทอดข้อมูลและความคิดในทุกรูปแบบ และมาตรา 37(b) ที่ระบุว่าเด็กไม่ควรถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพโดยพลการและควรใช้การจับกุม การกักขัง หรือการจำคุกเด็กเป็นมาตรการสุดท้าย

“FIDH และศูนย์ทนายฯ ย้ำถึงการเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยให้ยุติการจับกุม ดำเนินคดี และคุมขังประชาชนที่ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกอย่างสันติและชอบด้วยกฎหมาย FIDH และศูนย์ทนายฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของไทยภายใต้ ICCPR”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท