Skip to main content
sharethis

ทนายความของปู่คออี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมให้การเพิ่มเติมยืนยันไม่เป็นการแจ้งความเท็จ หลังถูกชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ฟ้องกลับข้อหานี้ ปมแจ้งความ จนท.อุทยานฯเผาบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน

8 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Rising Sun Law' ของบริษัท กฎหมาย ไรซิ่ง ซัน จำกัด รายงานว่า วานนี้ (7 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความประจำ บริษัท กฎหมาย ไรซิ่ง ซัน จำกัด ผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมกับทนายความ เดินทางมายื่นคำให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ในคดีที่ถูก ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งความในข้อหา แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายฯ จากกรณี วราภรณ์ ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแทนปู่คออี้ หรือ โคอิ มีมิ ผู้นำทางจิตวิญญาณกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงผืนป่าแก่งกระจาน แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผาไล่รื้อหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เมื่อปี 2558

วราภรณ์ ให้การยืนยันปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และได้ทำคำให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าที่พาปู่คออี้มาแจ้งความที่ สภ.แก่งกระจานเมื่อปี 2558 ไม่เป็นการแจ้งความเท็จ และขอให้พนักงานสอบสวนสอบพยานในฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม 3 คน เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงในคดี ได้แก่ คณะทำงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ที่แต่งตั้งโดยสภาทนายความ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2554 ทั้งหมด 2 คน และอดีดกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 1 คน โดยพนักงานสอบสวนจะนัดวันที่ให้พยานทั้ง 3 คนเข้ามาให้การต่อไป

ภูมิหลังคดี

เพจ 'Rising Sun Law' ให้ข้อมูลภูมิหลังคดีด้วยว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 (https://www.nationtv.tv/news/378830518) ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ และให้ดำเนินคดีกับ วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความของปู่คออี้ มีมิ ในคดีเผาไล่รื้อหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน และทนายความในคดีอุ้มหายบิลลี่ (พอละจี รักจงเจริญ) ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด , แจ้งข้อความตามมาตรา 172 หรือมาตรา 173 เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น และกระทำความผิดตามมาตรา 174 ในกรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 , 172 , 173 , 174 วรรค 2 และ 181 และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ชัยวัฒน์อ้างว่า มูลเหตุในการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้เกิดจาก เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2558 ปู่คออี้ และ วราภรณ์ ผู้รับมอบอำนาจจากปู่คออี้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ และให้ดำเนินคดีอาญากับชัยวัฒน์ อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวก ในกรณีเผาไล่รื้อหมู่บ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจานเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค. 2554 เวลากลางวัน วันที่เท่าใดไม่ทราบแน่ชัด ทำให้ที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง และทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยอ้างว่าในความจริงนั้น เพิงพักที่ได้มีการจุดไฟเผา เป็นเพิงพักร้างไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว อีกทั้งยังมีพยานหลักฐานว่า การเผาเพิงพักเหล่านั้น ไม่ได้กระทำในวันที่ 5-9 พ.ค. 2554 ตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง การแจ้งความร้องทุกข์ของปู่คออี้ และวราภรณ์ ผู้รับมอบอำนาจ จึงเป็นการแจ้งความเท็จ

อนึ่ง บริษัท กฎหมาย ไรซิ่ง ซัน จำกัด หรือ Rising Sun Law ระบุว่า ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักกฎหมาย ทนายความ ที่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านการต่อสู้เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนมายาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในปัญหาที่ประชาชนและชุมชนต่าง ๆ ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการใช้กฎหมายของรัฐและกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และเรามีการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเราเห็นว่ากระบวนการของการสถาปนาหลักสิทธิมนุษยชนให้มั่นคงในสังคมไทย จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัวตระหนักถึงพลังสร้างสรรค์ของตนเองของกลุ่มบุคคล ชุมชน กลุ่มธุรกิจ สถาบันการศึกษา สถาบันทางวิชาการ และกลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ ร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้สังคมเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีโดยต้องอาศัยหลักกฎหมายที่เป็นธรรม

Rising Sun Law เห็นว่า การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในสังคมจึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเป็นกระบวนการพิเศษแปลกแยกออกไปจากวิถีชีวิตและกิจกรรมทางสังคมตามปกติของกลุ่มชนต่าง ๆ ในสังคม ดังนั้น เราจึงมีความตั้งใจที่จะทำงานโดยใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อให้กลุ่มต่าง ๆ ในสังคมได้มีพื้นที่ในการเรียกร้องสิทธิของตน และสร้างกระบวนการต่อรองเพื่อผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างอำนาจทางสังคม ไม่ว่าจะในด้านของกฎหมาย นโยบาย รวมทั้งวัฒนธรรมและจิตสำนึกของผู้คนในสังคม โดย Rising Sun Law ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานด้วยการใช้วิชาชีพทางด้านกฎหมายทำงานร่วมกับกลุ่มต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจ ชุมชน สถาบันการศึกษา สถาบันทางวิชาการ และกลุ่มวิชาชีพต่างๆ ตามแนวทางการสร้างสังคมที่ดีตามที่พวกเรายึดถือ เพื่อให้ผู้คนทุกกลุ่มในสังคมได้รับความเป็นธรรมโดยเสมอกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net