Skip to main content
sharethis

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์สำนักงานตำรวจของออสเตรเลียในเรื่องที่พวกเขายังคงประสานความร่วมมือกับตำรวจพม่าถึงแม้ว่าพม่าจะมีการรัฐประหารยึดอำนาจกลายเป็นเผด็จการ นักวิเคราะห์มองว่าการประสานงานระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในเรื่องยาเสพติดยังจำเป็น แต่นักกิจกรรมก็มองว่ากองทัพเผด็จการพม่าเป็นต้นตอที่แท้จริงของปัญหายาเสพติดจึงเรียกร้องให้ยกเลิกความร่วมมือ

 

11 พ.ย. 2565 สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียเปิดเผยว่าพวกเขายังคงให้ความร่วมมือกับกองกำลังตำรวจของพม่าอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องยาเสพติด ถึงแม้ว่าการก่อรัฐประหารโดยกองทัพพม่าจะทำให้ประเทศอยู่ในสภาวะโกลาหลก็ตาม

มีการเปิดเผยในเรื่องนี้ในช่วงที่กำลังมีการพิจารณางบประมาณรายปีโดยวุฒิสภาออสเตรเลีย ส.ว. พรรคกรีนส์ จอร์ดอน สตีล-จอห์น ได้วิพากษ์วิจารณ์สำนักงานตำรวจฯ ในเรื่องที่พวกเขายังคงให้ความร่วมมือกับตำรวจพม่าหลังการรัฐประหารที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564

รอง ผบ.ตร. เอียน แมคคาร์ตนีย์ ของออสเตรเลียกล่าวว่า "ยังคงมีการติดต่อประสานงานกันกับหน่วยงานตำรวจของพม่า ... ซึ่งไม่ใช่ในแง่ของการฝึกอบรมหรือการเสริมสร้างสมรรถภาพ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นผลประโยชน์กับสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย โดยเฉพาะในเรื่องปฏิบัติการเกี่ยวกับการลักลอบค้ายาเสพติด"

 

ตัวแทนสำนักงานตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยถึงบริบทในเรื่องนี้ว่า จากจำนวนยาบ้าทั้งหมดที่มีขายในออสเตรเลีย มีอยู่ร้อยละ 70 ที่มาจากพม่า ทำให้จำเป็นต้องมีการติดต่อประสานความร่วมมือกันโดยมีการดำเนินการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเเละการค้าของออสเตรเลียเพื่อให้แน่ใจว่าการติดต่อประสานความร่วมมือเป็นไปเพื่อประเด็นเรื่องยาเสพติดเท่านั้น

รีซ เคอร์ชอว์ ผบ.ตร. ออสเตรเลียกล่าวว่าเรื่องยาเสพติดสำหรับพวกเขาเป็นประเด็นความมั่นคงของชาติและ "การข่าวในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ"

ออสเตรเลียได้ลดระดับการติดต่อกับหน่วยงานความมั่นคงของพม่าในด้านอื่นๆ นับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหาร เช่นการยกเลิกความร่วมมือกับกองทัพพม่าเมื่อเดือน มี.ค. 2564 หนึ่งเดือนหลังกองทัพก่อรัฐประหาร และมีการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับพม่าเมื่อเดือน พ.ค. 2565 โดยการแต่งตั้งอุปทูตประจำพม่าแทนเอกอัครราชทูต

การรัฐประหารในพม่าส่งผลให้มีประชาชนถูกสังหารแล้วมากกว่า 2,400 ราย และมีมากกว่า 16,000 รายถูกจับกุม รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ฌอน เทอร์เนลล์ ผู้ที่เป็นอดีตที่ปรึกษาให้กับอองซานซูจี เขาถูกตัดสินจำคุก 3 ปี

ส.ว. พรรคกรีนส์ สตีล-จอห์น กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อวิจารณ์สำนักงานตำรวจออสเตรเลียว่า กองกำลังตำรวจของพม่าถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงรวมถึงก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การดำเนินความสัมพันธ์ใดๆ ก็ตามระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียกับกองกำลังตำรวจของพม่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ สตีล-จอห์น ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียคว่ำบาตรกองทัพพม่าและกลุ่มที่เกี่ยวข้องแทนที่จะทำงานร่วมกับกองกำลังความมั่นคงของพม่า

ถึงแม้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะกล่าวย้ำว่าการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเผด็จการทหารพม่านั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรใดๆ เลยนับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารเป็นต้นมาจนถึงตอนนี้

สื่อเอบีซีระบุว่าพื้นที่ชายแดนของสามประเทศ ไทย, ลาว, พม่าที่เรียกว่า "สามเหลี่ยมทองคำ" นั้น เป็นที่รู้จักดีในฐานะพื้นที่ลักลอบขนยาเสพติด

จอห์น คอยน์ ประธานโครงการยุทธศาสตร์การบังคับใช้กฎหมายของสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลียกล่าวว่า การขอให้ตัดความสัมพันธ์กับหน่วยงานตำรวจของพม่านั้นถือเป็น "การละเลยความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและละเลยกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่ก่ออาชญากรรมรุนแรง"

คอยน์บอกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องให้รัฐแบบพม่าและอิหร่านเป็นช่องทางการสื่อสารลับหรือช่องทางทางเลือกในการสื่อสารเพื่อให้ยังคงสมรรถภาพในการสื่อสารเอาไว้ได้แม้แต่ในช่วงที่ยากลำบาก

คอยน์บอกอีกว่าในบางกรณีตำรวจที่ปฏิสัมพันธ์ด้วยนั้นมีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างหนักในระดับที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมด้วย

คอยน์มองว่าเรื่องนี้เป็น "การติดต่อประสานความร่วมมือในแบบที่มีความละเอียดอ่อนมาก มันไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินถูกผิดแบบเป็นขาวเป็นดำได้"

คอยน์เปิดเผยว่าในช่วงหลังๆ นี้มีการผลิตยาบ้าเพิ่มขึ้นมากถึงแม้จะมีกรณีการจับกุมจำนวนมาก ดังนั้นแล้ว การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของแต่ละประเทศจึงมีความสำคัญในแง่การแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลปฏิบัติการของอาชญากร คอยน์มองว่าถ้าหากไม่มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารในเรื่องนี้ก็อาจจะทำให้มียาเสพติดทะลักเข้ามาในออสเตรเลียได้มากขึ้น อีกทั้งการปฏิบัติการประสานความร่วมมือจากออสเตรเลียกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทำให้ช่วยหยุดยั้งการขนยาเสพติดเข้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ด้วย

แต่กลุ่มนักกิจกรรมที่ชื่อ "จัสติสฟอร์เมียนมา" ก็เรียกร้องให้ออสเตรเลีย "ยกเลิกความร่วมมือกับเผด็จการทหารและตำรวจของพม่าโดยทันที"

Yadanar Maung โฆษกของกลุ่มจัสติสฟอร์เมียนมา กล่าวว่า ตำรวจของพม่าเป็นส่วนหนึ่งของ "กองทัพแก็งค์อาชญากร" ที่ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และสั่งสมความร่ำรวยด้วยการฟอกเงิน, การค้ายาเสพติด และการค้ามนุษย์

Maung กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลออสเตรเลียแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับ "แก๊งอาชญากรรม" เช่นนี้จะยิ่งกลายเป็นการส่งเสริมการใช้ความรุนแรงแบบสุดขั้วต่อประชาชนชาวพม่าผู้ที่ปกป้องประชาธิปไตย และนับเป็นการที่พวกเขาไม่สามารถจัดการกับต้นตอที่แท้จริงของปัญหาการค้ายาเสพติดในพม่าได้ ซึ่งต้นตอที่ว่านี้มาจากการที่กองทัพพม่ามีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเป็นระบบและลอยนวลไม่ต้องรับผิด

โฆษกจัสติสฟอร์เมียนมา เสนอว่า ออสเตรเลียจะสามารถแก้ไขปัญหายาบ้าได้ถ้าหากพวกเขายอมรับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านเผด็จการทหารที่ตั้งรัฐบาลคู่ขนานของตัวเองขึ้นมา อีกทั้งออสเตรเลียยังควรจะสนับสนุนความพยายามของประชาชนชาวพม่าในการโค่นล้ม "แก็งค์อาชญากกรมเผด็จการทหาร" แล้วก็ร่วมกันสร้างสหพันธรัฐประชาธิปไตย

นอกจากนี้จัสติสฟอร์เมียนมายังได้กล่าววิจารณ์การตัดสินใจแต่งตั้งพม่าให้เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน (ASEAN Air Chiefs Conference) โดยระบุว่า "อาเซียนรู้ดีและคอยสนับสนุนส่งเสริมเผด็จการทหารพม่าในการก่ออาชญากรรมสงคราม" ในช่วงเดียวกับที่มีการโจมตีทางอากาศต่อพลเรือน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เมื่อไม่นานนี้หลังจากที่พวกเขาเปิดเผยว่าพวกเขาจะร่วมเป็นเจ้าภาพกับเผด็จการทหารพม่าในการจัดประชุมระดับสูงด้านการแพทย์ทหารอาเซียนที่บรูไน

 

 

เรียบเรียงจาก

AFP sharing intelligence with Myanmar police over drug trafficking after coup, ABC News, 09-11-2022
https://www.abc.net.au/news/2022-11-08/afp-engagement-with-myanmar-police-force-post-coup-drugs/101629396

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net