Skip to main content
sharethis

คณะกรรมาธิการยุโรปส่งจดหมายเตือนบริษัทยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV สัญชาติจีนคือ BYD, SAIC และ Geely ว่าการไม่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของอียู เป็นการเปิดทางให้สหภาพยุโรปใช้บทลงโทษต่อพวกเขามากขึ้นด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้า

แท่นชาร์จรถยนต์ EV ที่เบอร์ลิน เยอรนี (ที่มา:  Avda/Wikipedia)

คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานฝ่ายบริหารที่ออกข้อบังคับต่างๆ ของสหภาพยุโรป บอกกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV สัญชาติจีน 3 แห่งว่า พวกเขาไม่ได้ให้ข้อมูลมากพอในการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าบริษัทสัญชาติจีนเหล่านี้ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน โดยที่ในจดหมายเปิดผนึกของอียูระบุเตือนว่าการที่บริษัททำเช่นนี้อาจจะเป็นการเปิดทางให้อียูตั้งมาตรการภาษีนำเข้ารถเหล่านี้มากขึ้น

ในจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวลงวันที่ 23 เม.ย. 2567 ระบุถึงข้อสรุปแบบเดียวกันต่อผู้ผลิตรถ EV ทั้ง 3 บริษัท คือ BYD, SAIC และ Geely คือสรุปว่าทั้งสามบริษัทนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลมากพอในเรื่องเงินอุดหนุนจากรัฐบาล, การปฏิบัติงาน และห่วงโซ่อุปทาน

คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าการดำเนินธุรกิจโดยไม่มีข้อมูลเหล่านี้หมายความว่าพวกเขาจะต้องย้อนกลับไปใช้แนวทางแบบ "ข้อเท็จจริงเท่าที่มีให้ใช้พิจารณา" ซึ่งมักจะหมายความว่า ในเชิงปฏิบัติแล้วคณะกรรมาธิการสามารถสั่งให้เก็บภาษีนำเข้าของสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นได้

จดหมายระบุอีกว่า การสืบสวนเรื่องการค้ารถ EV ของจีนในยุโรป ที่มีการเปิดการสืบสวนโดย อูร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อปี 2566 อาจจะนำไปสู่การที่อียูเพิ่มมาตรการในการจำกัดการเติบโตของผู้ผลิตเทคโนโลยีสีเขียวจากจีนซึ่งกำลังครองตลาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีรถ EV หรือพลังงานสะอาดอย่างแผงโซลาร์เซลล์ ไปจนถึงกังหันลม

วัลดิส โดมโบรฟสกิส คณะกรรมาธิการด้านการค้าของยุโรป กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า การตรวจสอบของอียูนั้น "กำลังคืบหน้า" และเขายังคาดหวังว่าจะหาข้อสรุปได้ "ก่อนวันหยุดฤดูร้อน" (ราวเดือนกรกฎาคมสำหรับโซนยุโรป)

ข้อคิดเห็นเหล่านี้ปรากฏออกมาไม่กี่วันก่อนหน้าที่ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน จะมีแผนการเดินทางเยือนฝรั่งเศสในฐานะเป็นสถานที่แรกของการทัวร์พบปะผู้นำในยุโรป ทางการจีนเคยดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อต้านการทุ่มตลาดจากฝั่งของตัวเองในเรื่องการนำเข้าบรั่นดียุโรปสู่จีน เป็นการส่งสัญญาณถึงความไม่พอใจต่อทางการฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่ทำการล็อบบี้อยู่เบื้องหลังเพื่อให้มีการสืบสวนในเรื่องรถ EV จีน

ก่อนหน้านี้ยังมีการคาดเดาจากหลายแห่งเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับผลการสืบสวนเรื่องรถ EV จีน เช่น กลุ่มนักวิเคราะห์ โรเดียมกรุ๊ป ระบุในรายงานของตัวเองเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ผู้ผลิตรถ EV จีนมีศักยภาพในการแข่งขันสูงมากในระดับที่พวกเขาจะยังคงทำกำไรได้อยู่ถึงแม้ว่าอียูจะขึ้นภาษีนำเข้าร้อยละ 15-30 ก็ตาม ถ้าหากจะต้องการให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมรถ EV จีนจริงๆ ก็จะต้องขึ้นภาษีนำเข้าถึงร้อยละ 50

เงินอุดหนุนจากรัฐบาลในแบบบิดเบือนตลาด

บริษัทรถ EV จีน 3 แห่งตกอยู่ภายใต้การสืบสวนจากอียูเพราะพวกเขาถูกกล่าวหาว่ารับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจนอาจจะทำให้กลายเป็นการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตรถยุโรปในตลาดของอียู

เวลาที่มีกรณีต่อต้านการที่ธุรกิจรับเงินอุดหนุนจากรัฐเช่นนี้ มักจะส่งผลให้เกิดการขึ้นภาษีนำเข้าสู่ประเทศอียู พวกเขาเคยระบุว่าจะมีการประกาศในเรื่องบทเฉพาะกาลว่าด้วยภาษีนำเข้าเกี่ยวกรณีนี้ภายในช่วงต้นเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นการขึ้นภาษีครอบคลุมรถ EV ทุกคันที่นำเข้าจากจีน โดยที่ทางอียูจะพิจารณาจำนวนที่ปรับขึ้นจากผู้ผลิตเป็นรายๆ ไป

ทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้ขอข้อมูลจากบริษัทรถ EV เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของบริษัท, การตั้งเป้ายอดขาย และการจัดาหาวัตถุดิบของพวกเขา สิ่งที่กลายเป็นข้อร้องเรียนซ้ำๆ คือทั้ง 3 บริษัทนี้อ้างอยู่เสมอว่าบริษัทที่จัดหาวัตถุดิบหรืออุปทานให้กับพวกเขานั้นไม่จำเป็นต้องกรอกแบบสอบถามเรื่องเงินอุดหนุน

กรณีของบริษัท SAIC นั้น ทางอียูเคยส่งจดหมายร้องเรียนไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ขาดความร่วมมือในการสืบสวนจากการปฏฺิเสธไม่ยอมให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญบางอย่างที่ทางอียูเคยแจ้งขอ

SAIC เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ พวกเขาเคยทำงานร่วมกับบริษัทโฟล์คสวาเกนมาก่อนตั้งแต่ปี 2527 และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับยุโรป แต่ก็มีโรงงานร่วมทุนแห่งหนึ่งของพวกเขาที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงเพราะไปตั้งอยู่ในเขตปกครองซินเจียงที่ๆ รัฐบาลจีนถูกกล่าวหาว่ามีค่ายกักกันชาวอุยกูร์มากกว่า 1 ล้านราย

จากข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรป SAIC ได้อ้างว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมผู้จัดหาวัตถุดิบของพวกเขาได้ ทำให้ไม่สามารถสั่งให้กรอกแบบสอบถามในเรื่องรายละเอียดทางการเงินต่างๆ ของบริษัทได้ อียูปฏิเสธว่าการสำรวจในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการละเมืดสิทธิขั้นพื้นฐานใดๆ ของ SAIC

ทาง SAIC กล่าวโต้ตอบในช่วงที่มีการสืบสวนสอบสวนเกิดขึ้นว่า ข้อมูลที่พวกเขาให้นั้น "มีมากพอ" ที่จะนำไปคำนวณปริมาณเงินอุดหนุน มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นที่อียูจะอ้างใช้กฎมาตรา 28 ซึ่งอนุญาตให้ใช้มาตรการแบบ "ข้อเท็จจริงเท่าที่มีให้ใช้พิจารณา" ซึ่งอียูจะนำมาอ้างใช้ในการขึ้นภาษีนำเข้ารถของพวกเขา

ในกรณีของ Geely ที่เป็นเจ้าของวอลโวในยุโรปนั้น ทางคณะกรรมาธิการอียูระบุว่าในหมู่บริษัททางการเงินของ Geely ไม่มีบริษัทใดเลยที่ตอบกลับแบบสอบถามของคณะกรรมาธิการ

เรียบเรียงจาก

Chinese EV makers risk tougher duties over failure to cooperate with EU probe, Politico, 02-05-2024

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

Fact Available meaning, Lawinsider


Tags : ข่าว, ต่างประเทศ, เศรษฐกิจ, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, รถยนต์ไฟฟ้า, รถ EV, บริษัทจีน, สหภาพยุโรป, การบิดเบือนตลาด, เงินอุดหนุนจากรัฐบาล, คณะกรรมาธิการยุโรป, จีน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net