Skip to main content
sharethis

กลุ่มพรรคเล็กเชื่อสัปดาห์หน้าสภาล่มอีก ชี้เจตนาของ ส.ส.บางกลุ่ม ที่ต้องการผลักดันให้ยุบสภา วิปไม่สามารถประสานงานแก้ไขปัญหาได้ แนะ 'ประยุทธ์' ยุบสภารักษาครรลองประชาธิปไตย 'ชาติไทยพัฒนา' ห่วงองค์ประชุม ชี้ยุบสภาไม่ได้อยู่ที่ 'ประยุทธ์' คนเดียว หากเป็นเสียงข้างน้อยไม่อยากยุบก็ต้องยุบ

11 ธ.ค. 2565 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ในฐานะกลุ่มพรรคเล็ก เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์การประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มซ้ำซาก ว่าประเมินจากภาพรวม และการพูดคุยกับเพื่อนสมาชิก เชื่อว่าในสัปดาห์หน้าก็จะล่มอีก เพราะประธานวิปไม่สามารถประสาน คุมเสียงของฝ่ายรัฐบาลได้เลย อีกมั้งยังมองว่าเป็นเจตนาของส.ส.บางส่วนที่ต้องการให้สภาล่ม ผลักดันให้การยุบสภาเกิดขึ้น เพราะส.ส.นั่งอยู่ในสภา บางคนอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่กดบัตรแสดงตัว บางคนก็อยู่นอกห้องประชุม แต่ไม่ยอมเข้ามาแสดงตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ปกติ และมองว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ที่สภาล่มซ้ำซาก รวมๆ แล้วถึง 25 ครั้ง

ทั้งนี้เมื่อถามว่าหากมีการเลื่อน กฎหมายกัญชา ขึ้นมาพิจารณาก่อน จะสามารถผลักดันให้ผ่านได้หรือไม่ นายสุรทิน กล่าวว่า คงยากอีกเหมือนกัน เพราะหากฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม ฝ่ายรัฐบาลก็อยู่ไม่ครบ รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเองก็คิดต่าง มีจุดยืนต่างกันในกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย ก็คงล่มอีกเหมือนเดิม ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิปไร้ทางแก้ไข ทางออกเดียวคือ นายกรัฐมนตรี คงต้องยุบสภา แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอีกครั้ง ตามครรลองประชาธิปไตย

'ชาติไทยพัฒนา' ห่วงองค์ประชุมสภาฯ ชี้ยุบสภาไม่ได้อยู่ที่ 'ประยุทธ์' คนเดียว 

สำนักข่าวไทย รายงานว่านายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ห่วงบรรยากาศสภาฯ ไม่แน่นอน เกรงอุบัติเหตุยุบสภา ให้ ส.ส.เร่งทำงาน ว่า ตนเห็นตรงกัน ซึ่งนายชวน เป็นประธานสภาฯ ก็ต้องห่วงงานของสภาฯ เป็นสภาวะที่น่าห่วงจริง ในขณะที่ ส.ส.เองก็ห่วงเรื่องการเมือง เพราะการเมืองคือการเมือง สภาคือสภา และเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว ดังนั้น ในตัวสภาจึงจะมีปัญหา ซึ่งเราก็โทษ ส.ส.ไม่ได้ เพราะเขาก็ต้องเตรียมการเพื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ จึงต้องรักษาสถานะความเป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

นายนิกร ยังกล่าวด้วยว่า ส่วน ส.ส.ที่กำลังคิดจะมีการเปลี่ยนแปลงในการย้ายพรรค ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้จะเกิดขึ้นมาก เพราะครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง จึงมีแรงส่งทำให้เกิดการเคลื่อนไหวย้ายพรรคกันมาก และมากกว่าปกติ ขนาดคนที่อยู่ในพรรคเดิมยังต้องออกไปหาเสียง แล้วนับประสาอะไรกับคนที่จะต้องเปลี่ยนพรรค ที่ต้องทำงานเป็นสองเท่า

นายนิกร กล่าวว่า การที่จะมี ส.ส. ลาออกกันเป็นจำนวนมาก จึงอาจเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งจะทำให้สภาฯ มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม เมื่อทราบว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการลาออกเพื่อไปเตรียมการในการเลือกตั้งในนามพรรคใหม่ จำนวน ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในสภาฯ จะลดลง ถ้ากึ่งหนึ่งก็พอประคองได้ แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลลดไปมากจะมีปัญหาเสียงของรัฐบาลจะไม่พอสู้กับฝ่ายค้าน จะลำบาก ปริ่มน้ำ ทำให้มีปัญหามากในสภาฯ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเองโดยที่คอนโทรลไม่ได้” นายนิกร กล่าว

นายนิกร กล่าวว่า ถ้าสภาฯ ยังล่มอยู่แบบนี้ การพูดถึงการยุบสภามันก็มี เพราะสภาฯ ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น แต่จะมีปัญหาที่สาหัสอยู่มาก คือ กฎหมายลูก 2 ฉบับ ยังไม่ประกาศใช้ หากยุบสภาตอนนี้จะเกิดปัญหาตามมามาก เพราะฉะนั้นอาจจำเป็นต้องทำใจ ตอนนี้จึงต้องทนๆ กันไป ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เท่าที่โอกาสและปัจจัยเป็นแบบนี้ เราระงับปัญหาไม่ได้ จึงต้องรอกฎหมายลูก 2 ฉบับก่อน

“ผมเป็นห่วงมาก ว่าสถานการณ์มันพร้อมจะยุบสภา แต่จะยุบเมื่อไหร่อาจจะไม่ได้อยู่ที่นายกฯ คนเดียวแล้ว อยู่ที่สถานการณ์ในสภาฯ ด้วย แม้ไม่อยากยุบก็ต้องยุบ ถ้าย้ายพรรค 2 ข้างพอๆ กัน เสียงของ ส.ส.ที่เอามานับก็ลดลงทั้งคู่ อันนี้เสมอกัน แต่กลัวว่าถ้าฝ่ายรัฐบาลย้ายมากกว่า เสียงฝ่ายค้านที่เคยอยู่แต่จะย้ายออกเหมือนพวกงูเห่า เมื่อไม่อยู่แล้วแกนเสียงก็จะเปลี่ยนไปทันที ถ้าฝ่ายรัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อยแล้ว สภาฯ จะไปต่ออย่างไร สถานการณ์จึงคับขัน น่าห่วง อยากให้ทนๆ กันไป” นายนิกร กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net