Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดพัทยาพิพากษาจำคุก "พนิดา" คดีม.112 พ่นสีฐานรูป ร.10 6 ปี ลดเหลือ 2 ปี 12 เดือนแล้วให้รอลงอาญา หลังเจ้าตัวสารภาพและศาลถามจะชดเชยการเสื่อมพระเกียรติอย่างไร แล้วพนิดาเสนอขอขมาที่รูปพร้อมส่งรูปหลักฐานการขอขมา  

14 ธ.ค.2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าวันนี้ที่ศาลจังหวัดพัทยาอ่านคำพิพากษาคดีของ “พนิดา” (สงวนนามสกุล) ที่ถูกกล่าวหาว่าพ่นสีสเปรย์ใต้ฐานรูปกษัตริย์รัชกาลที่ 10 จำนวน 2 แห่งในเมืองพัทยาและถูกดำเนินคดีข้อหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 360

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าคดีนี้หลังจากพนิดาเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพในนัดสืบพยานครั้งแรกศาลเคยนัดพิพากษาไปก่อนแล้ว 1 ครั้งเมื่อ 8 พ.ย.2565 แต่ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลได้ถามพนิดาและทนายความว่าจะมีวิธีชดเชยอย่างไรกับการทำให้ชื่อเสียงและพระเกียรติของรัชกาลที่ 10 ต้องเสื่อมเสีย

พนิดาและทนายความเสนอว่าจะขอใช้วิธีไปขอขมาต่อหน้าป้ายพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 ที่บริเวณแยกพัทยาใต้ แล้วจะโพสต์ภาพถ่ายขณะทำการขอขมาลงบัญชีเฟซบุ๊กของตัวเอง ศาลจึงให้พนิดาทำตามข้อเสนอดังกล่าวและสั่งให้พิมพ์ภาพถ่ายการขอขมาส่งศาลด้วยเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาทำคำพิพากษาใหม่จึงเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันนี้แทน

ศูนย์ทนายความฯ รายงานถึงการอ่านคำพิพากษาวันนี้วัน เมื่อพนิดาและพี่สาวถึงห้องพิจารณาคดีตำรวจศาลอ้างว่าศาลมีคำสั่งกำชับให้ต้องใส่กุญแจมือพนิดาระหว่างรอฟังคำพิพากษาด้วย แม้ว่าทนายความจะค้านแล้วว่าศาลยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาก็ตาม อีกทั้งเมื่อศาลเข้าห้องพิจารณามาไม่ได้อ่านคำพิพากษาคดีของพนิดาทันทีแต่พิจารณาคดีอื่นก่อนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเศษ

ทั้งนี้ศูนย์ทนายความฯ ได้สรุปคำพิพากษาของศาลว่าการพ่นสีใต้ฐานรูปรัชกาลที่ 10 ทั้ง 2 แห่งนั้น เป็นความผิด 2กระทงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 360 โดยให้ลงโทษตามมาตรา 112 ที่เป็นบทหนักที่สุดโดยให้จำคุกกระทงละ 3 ปีรวม 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษเหลือจำคุกกระทงละ 1 ปี 6 เดือน รวมเป็น 2 ปี 12 เดือน

“แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน และจากการพินิจและสืบเสาะของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติได้ความว่า จำเลยติดตามข่าวสารเพียงด้านเดียวตลอดมา จึงเกิดความเข้าใจผิดว่าพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 เป็นผู้ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบัน จำเลยซึ่งไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว จึงได้ลงมือกระทำความผิดในคดีนี้

อีกทั้ง จำเลยได้ไปขอขมาต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ได้ก่อเหตุเป็นคดีนี้แล้ว เชื่อว่าจำเลยสำนึกผิดจริงและจะไม่กระทำความผิดซ้ำอีก จำเลยยังได้ชดใช้เงินค่าเสียหายแก่เมืองพัทยาแล้วด้วยเป็นเงิน 12,480 บาท

ศาลจึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้เป็นเวลา 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี พร้อมทั้งให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง และสั่งให้ริบของกลางในคดีนี้เป็นสีสเปรย์สีดำไว้ด้วย” ศูนย์ทนายความฯ ระบุ และคำพิพากษานี้ลงนามโดย รภัสชล ยุติวิชญ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net