Skip to main content
sharethis

ข่าวใหญ่แห่งปี 2565 คือข่าวดราม่า “ใครฆ่าแตงโม” เป็นข่าวใหญ่ทุกสำนัก นี่ไม่ใช่ข่าวบันเทิง ไม่ใช่ข่าวอาชญากรรม แต่สะท้อนสังคมไทยในหลากมิติ นิสิตนักศึกษาหยิบไปทำวิทยานิพนธ์ได้หลายแง่มุม ทั้งจิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา นิเทศศาสตร์ การตลาด การสื่อสารกับโลกโซเชี่ยล ฯลฯ

จากคดีที่โดยพยานหลักฐาน เหตุแวดล้อม แรงจูงใจ ฯลฯ มันน่าจะเป็นแค่ขับเรือประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้โดยสารตกน้ำตาย ง่ายๆ แค่นี้เอง แต่บานปลายไปได้ไง

คนไทยนับสิบๆ ล้าน อดหลับอดนอน ใจจดจ่อ ติดตามทีวี ยูทูบ เฟซบุ๊กไลฟ์ โหนแสงหิวกระแส เอาทนายความ กูรู ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ หมอดู หมอผี (ขาดไลฟ์โค้ชไปอย่าง) มาวิเคราะห์วิแคะทุกแง่มุม ตั้งแต่นิติวิทยาศาสตร์ไปจนข่าวลือ

กระทั่งกลายเป็นมหรสพ Circus “ทวงความยุติธรรมให้แตงโม” โดยมวลมหาลูกขุนออนไลน์ ตัดสินไว้ก่อนแล้วจากการจับพิรุธหน้าจอ อีนี่ถูกซักแล้วตอบไม่ได้ อีนี่พูดสับสน เพื่อนตายทั้งคนไม่เสียใจ ฯลฯ ซ้ำร้าย อีนี่เป็นลูกคนรวย ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม เงินทองซื้อความยุติธรรมได้ ถ้าเป็นลูกคนจนติดคุกไปแล้ว บลาๆๆ

มันบานปลายไปขนาดนี้ได้ไง ถึงบอกให้ทำวิทยานิพนธ์ อารมณ์สังคม จิตวิทยาหมู่ เริ่มตั้งแต่ทำไมคนไทยติดตามเพจ IG ดาราอย่างจดจ่อผูกพัน รู้สึก Reality ยังกะญาติ ลุ้นให้คนนั้นคนนี้เป็นแฟนกัน โพสต์โน่นนี่นิดหน่อยสื่อก็ลงข่าว (เพราะขายได้ คนคลิกเข้าไปดูเพียบ) มันน่าสงสัยว่าสังคมเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า

ใช่เลย กระบวนการยุติธรรมล้มเหลว ประชาชนหมดความเชื่อถือ ประชาชนต้องการมีส่วนร่วม ต้องการตรวจสอบอำนาจ แต่การแสดงออกแบบ “ลูกขุนออนไลน์” (วันหนึ่งเชียร์ลุงพล อีกวันลุงพลแม่-ฆ่าน้องชมพู่แหงๆ) มันใช่หรือ

ในมุมหนึ่ง กระแสสังคมก็มีแง่ดีในการกดดัน ไขลานรัฐเจ้าหน้าที่ เช่นคดีตำรวจพุ่งชนหมอกระต่าย แต่ถ้าสังคมปักใจ พิพากษาแต่ต้น ไม่ฟังความรอบข้าง ก็อาจบิดเบนกระบวนการยุติธรรมให้หันมาเอาใจกระแส

จะบอกว่ากระแสสังคมใส่ใจความยุติธรรม ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เช่นม็อบเอเปกโดนตำรวจยิงกระสุนยาง “พายุ ทะลุฟ้า” ตาบอด คนไทยไม่สนใจเท่าข่าวผัวถูกลอตเตอรี่แล้วเมียเชิดหนีไปกับชู้

เราอยู่ในโลกยุค New Normal ซึ่งแปลได้ว่า “ผิดปกติเสียจนเป็นปกติ” ข่าวสารท่วมท้นรวดเร็ว ปลุกเร้าอารมณ์ (เพื่อให้คนสนใจ เรียกไลก์เรียกแชร์) คนก็จะสนใจแต่โลกของตัวเองขณะที่สังคมโซเชี่ยลเหินห่าง มนุษย์ไม่ต่างจาก AI

ไม่ได้บอกว่าโลกออนไลน์มีแต่เลวร้าย มันมีด้านก้าวหน้ามากกว่า มันให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ไม่จำกัด ทำให้เกิดความเท่าเทียม สถานะ อาวุโส ไม่สำคัญเท่าการแสดงเหตุผล เด็กบางคนจึงมีผู้ติดตามหลายสิบหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบผู้สูงวัยในกลุ่มไลน์สวัสดีวันจันทร์ (เฟกนิวส์เพียบ)

แต่สื่อสังคมออนไลน์ก็ซ้ำเติมสังคมพิการ อย่าว่าแต่เมืองไทย ทรัมป์สามารถปลุกพวกสุดโต่งให้เชื่อว่าถูกโกงเลือกตั้ง กระทั่งบุกรัฐสภา โลกออนไลน์ทำให้พวกสุดโต่ง พวกเชื่อเรื่องเหลวไหล หรือเชื่อทฤษฎีสมคบคิด Conspiracy ไหลมารวมกัน เต้าเป็นตุเป็นตะ เช่นหาสาเหตุอันซับซ้อนพันลึก ที่ต้องฆ่าแตงโม (อาจจะ CIA อยู่เบื้องหลัง)

ความพิการของสังคมไทยคือถูกปิดกั้นเสรีภาพ ทั้งด้วยอำนาจและวัฒนธรรม การครอบงำทางความคิด ระบบการศึกษาที่ทำไม่สามารถคิดวิเคราะห์ อย่างเป็นระบบ ชั่งน้ำหนักอย่างมีเหตุผล

คนจบปริญญาโทปริญญาเอกจำนวนมากจึงเชื่อฟอร์เวิร์ดไลน์ ตั้งแต่สมัยไล่ทักษิณ “จาบจ้วง” ชี้แจงไงก็ไม่ฟัง แต่ช่วงหลังๆ ก็ย้อนกลับ ด้วยคำนินทาและ “ข่าวลือ“ เพราะคนเชื่อว่าประเทศนี้ปิดกั้น ข่าวจริง

ขนาดเรือล่ม ยังส่งไลน์กัน “นายสั่งไม่ให้เรือจม” มันเป็นไปได้ไง เรือจะจมสั่งไม่ให้จม

ยกเรื่องนี้มาถกส่งท้ายปีเก่า เพื่อชวนคิดว่าอนาคตสังคมไทยจะเป็นอย่างไร เรากำลังจะพูดกันเรื่องสร้างเศรษฐกิจใหม่ ใช้ความรู้ เทคโนโลยี ไม่สามารถพึ่งการลงทุนค่าแรงต่ำอีกต่อไป

แล้วสังคมดราม่าเชื่อหมอดู คุณไสย Conspiracy มากกว่าการคิดวิเคราะห์ จะสู้กับโลกได้อย่างไร

อย่าฝากความหวังแค่การเลือกตั้ง มีรัฐบาลใหม่ โลกในปี 2566 แม้อาจไม่ถึงขั้น “เผาจริง แต่ก็ยังมีวิกฤตค้างคา เช่นจะต้องขึ้นดอกเบี้ย สงครามรัสเซียบุกยูเครน วิกฤตอาหาร วิกฤตพลังงาน จีนติด โควิด ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องรับภาระหนักที่ประยุทธ์ทิ้งไว้

“ข่าวแห่งปี” ปีนี้ไม่ต้องจัดอันดับ ทั้งข่าวโลกข่าวไทย ล้วนสะท้อนภัยวิบัติ ใครจะคิดว่าหลังทหารกราดยิง ยังเกิดเหตุสะเทือนใจ อดีตตำรวจสังหารหมู่ทั้งเด็กทั้งครู แต่ก็พากันโทษแค่ยาเสพติด ไม่มองพิษภัยจากปัญหาทางจิต ความกดดันที่เพิ่มขึ้นในสังคมปัจจุบัน

ในแง่การเมือง เป็นปีที่สามนับจากการลุกฮือคนรุ่นใหม่ แต่ยังเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจไม่ได้ ไล่ประยุทธ์ไม่ได้ ศาลชี้ไม่ครบ 8 ปี สถานการณ์ทรงๆ เซ็งๆ คนจึงสนใจข่าวดาราดราม่ามากขึ้น ทั้งที่วิบัติภัยใกล้ตัวเข้ามาทุกที

ปีหน้าจะไม่เป็นอย่างนี้แน่ แต่อย่าฝากความหวังมากนักกับสังคมไทย คนไทย ถ้าความเดือดร้อนไม่มาถึงตัว เอาตัวรอดได้ก็อยู่ไป

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7428865

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net