Skip to main content
sharethis

ตำรวจเรียกชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดเข้าให้ข้อมูลเพิ่มกรณีที่บริษัทเหมืองหินปูนถูกหน่วยงานรัฐในท้องที่ดำเนินคดีจากการไม่ส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 61 แต่บริษัทอ้างว่าส่งรายงานไม่ได้เพราะมีชุมนุมปิดทาง ชาวบ้านยืนยันชุมนุมบนเส้นทางเดียวตอนปี 63

 

23 ก.พ.2566 กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดเผยแพร่รายงานว่า ตัวแทนของกลุ่มเดินทางไปพบตำรวจที่ สภ.สุวรรณคูหา เพื่อสอบถามรายละเอียดกรณีที่พวกตนได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่า บริษัทธ.ศิลาสิทธิ จำกัดซึ่งเป็นบริษัททำเหมืองแร่หินปูนเข้าแจ้งความดำเนิคดีกับ และทางตำรวจต้องการสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ทางบริษัทถูกสำนังานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูและอำเภอสุวรรณคูหาแจ้งความดำเนินคดีกับธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้เป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าว

เมื่อตัวแทนของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้พบตำรวจได้รับชี้แจงกรณีเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมกรณีบริษัทถูกดำเนินคดีว่ามีสองคดี โดยคดีแรกเป็นคดีที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูแจ้งความต่อ สภ.สุวรรณคูหา ว่าธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ไม่ทำตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรข้อที่ 17 ที่ต้องส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทุกวันที่ 1 ก.พ. และ 1 ส.ค. ของทุกปีตั้งแต่ปี 2561

ตำรวจระบุว่าเบื้องต้น ธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ยอมรับว่าไม่ได้จัดทำรายงานดังกล่าวส่งอุตสาหกรรมฯจริง แต่เป็นเพราะถูกชาวบ้านขัดขวางทำให้เข้าไปประกอบกิจการไม่ได้จึงไม่ได้ส่งรายงาน ทำให้ตำรวจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ในฐานะที่ถูกให้การพาดพิงก่อนที่จะส่งสำนวนคดีไปยังอัยการ

ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จึงยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ว่าต้องทำหนังสือหรือออกหมายเรียกกลุ่มฯ พร้อมนัดวันและเวลาในการเข้าให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ โดยทางกลุ่มฯยินดีที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายเรียกพยานเพื่อนัดกลุ่มฯเข้าให้ปากคำในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 66 เวลา 09.00 น. ณ สภ.สุวรรณคูหา

สำหรับคดีที่สอง ตำรวจแจ้งอีกว่าอำเภอสุวรรณคูหาได้แจ้งความบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด กรณีไม่ทำบัญชียุทธภัณฑ์ปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทที่เป็นสารตั้งต้นในการทำระเบิดที่นำไปทำลายภูเขาเพื่อทำเหมืองแร่ ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ เคยแจ้งความไว้เมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 ว่ามีการขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งปัจจุบันทาง สภ.สุวรรณคูหา ได้ทำหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากอำเภอสุวรรณคูหาแล้ว แต่ทางอำเภอยังไม่ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้

ทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ชี้แจงถึงกรณีเจ้าของบริษัทอ้างว่ามีการชุมนุมขัดขวางทำให้เข้าไปประกอบกิจการจนทำให้ส่งรายงานไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2561 นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ได้ทำการปักหลักชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 โดยตั้งหมู่บ้านผาฮวกพัฒนาชาวประชาสามัคคี บริเวณถนนสาธารณะประโยชน์เพื่อการเกษตรที่เป็นหนึ่งในหลายเส้นทางที่สามารถเดินทางเข้าไปยังภูผาฮวกได้เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ใบอนุญาตในการใช้พื้นป่าสงวนฯ ของบริษัทเหลืออายุเพียงเดือนเดียวเท่านั้น

นอกจากนั้นศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทเพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (หมดอายุวันที่ 3 กันยายน 2563) และประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (หมดอายุ 24 กันยายน 2563) ของบริษัทไปแล้วเมื่อ 17 ก.พ.2566

ตัวแทนกลุ่มระบุว่า การทำเหมืองที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ ที่ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ อีกทั้งชาวบ้านยังต้องเสียสละเวลาออกมาเพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม สูญเสียโอกาสในการทำมาหากินจากแหล่งทรัพยากรในพื้นที่ สูญเสียทั้งสุขภาพและสุขภาพจิต โดยทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จะดำเนินการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายจากผลกระทบเหล่านี้ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net