Skip to main content
sharethis

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รอง ผบ.ตร. ส่งสำนวนคดีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) 116 นายเอื้อประโยชน์ออกวีซ่าทุนจีนให้ ป.ป.ช. ด้วยตนเอง ในจำนวนนี้ มี 3 นายพลเป็นเพื่อนร่วมรุ่น จ่อขยายผลทุนจีนกว้านซื้ออสังหาฯ ในภาคเหนือ

10 มี.ค. 66 วานนี้ (9 มี.ค.) ไทยพีบีเอสรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รอง ผบ.ตร. เข้าตรวจรับสำนวนคดีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเอื้อประโยชน์ออกวีซ่าทุนจีนด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่า สำนวนคดีมีผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 116 นาย แบ่งออกเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำนวน 107 นาย ในจำนวนนี้มี นายพล อยู่ด้วย 3 นาย โดยมีพฤติกรรมคดีกระทำต่างกรรมต่างวาระ รวม 8,000 กรรม ด้วยกัน

ส่วนอีก 9 นาย ฟ้องในฐานความผิดเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความเชื่อมโยงเอาผิดได้ 9 นาย ในขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 400 ปาก แต่ในสวนของผู้ต้องหาที่ไม่ได้มีการสอบปากคำ เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่สามารถทำได้ หากเห็นว่าหลักฐานและพยานมีน้ำหนักเพียงพอที่จะดำเนินคดีในความผิด ไปผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. ได้ โดยพยานหลักฐานต่าง ๆ ในคดีทั้งหมดที่จะส่งมอบให้ ป.ป.ช. ในวันนี้ มีมากกว่า 40 ลัง สำนวนคดีมากกกว่า 100,000 แผ่น

ขณะที่ข่าวช่องวันรายงานคำพูดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพิ่มเติมที่ระบุถึง 3 นายพลที่ถูกดำเนินคดีและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนในร้อยตำรวจด้วยว่า “แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่หากทำผิดก็ต้องดำเนินคดี รวมทั้งนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน”

โดยยืนยันไม่หนักใจ กรณีที่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตัวเองปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวน ถือว่าเป็นสิทธิที่ผู้ร้องเรียนสามารถกระทำการได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบในทุกมิติของกระบวนการทำงาน ยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสกับทุกฝ่าย และถึงเวลาแล้วที่จะต้องปฏิรูปการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพราะเป็นด่านหน้าของประเทศ ที่มีหน้าที่คัดกรองผู้คนเข้าสู่ประเทศ หากทำงานดีมีประสิทธิภาพก็จะสามารถลดปัญหาอาชญากรรมลงได้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุว่าการสืบสวนขยายผลหลังจากนี้ จะต้องเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนและเจ้าของโรงเรียนสมาคมต่างๆ ที่พบอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ พบมีกลุ่มคนจีนเข้ากว้านซื้อหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่ง อย่างน้อย 4-5 โครงการ โดยเป็นการซื้อเหมาทั้งโครงการไปจนถึงการพยายามที่จะซื้อโรงเรียนเอกชน และว่าจ้างคนไทยในกลุ่มอาชีพหัตถการ งานฝีมือด้านต่างๆ ไป ว่าจ้างทำผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งออกจำหน่ายไปยังประเทศจีน โดยสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินการลงพื้นที่ จับกุมเอาผิดกลุ่มผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net