Skip to main content
sharethis

กสม.ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐไทยไม่ส่งกลับนักเคลื่อนไหวชาวมอนตานญาด ชี้มีเหตุควรเชื่อว่าจะเผชิญอันตรายที่เวียดนาม พร้อมเน้นย้ำให้รัฐไทยปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย มาตรา 13 อนุสัญญาระหว่างประเทศ และใช้ระบบคัดกรองแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองสิทธิ

 

สืบเนื่องจากวานนี้ (12 มิ.ย. 2567) สื่อวอยซ์ออฟอเมริกา ประเทศเวียดนาม หรือ VOA รายงานเมื่อ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว อี ควิน เบอดั้บ (Y Quynh BDAP) นักเคลื่อนไหวด้านเสรีภาพในการนับถือศาสนาชาวเวียดนาม หลังจากที่เขาสัมภาษณ์เพื่อขอลี้ภัยกับรัฐบาลแคนาดาเพียง 1 วัน

ทั้งนี้ อี ควิน เบอดั้บ ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และได้เดินทางไปสัมภาษณ์กับเอกอัครราชทูตแคนาดาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมในวันที่ 11 มิ.ย. 2567 ซึ่งเขาอาจถูกส่งตัวกลับเวียดนาม และจะถูกจำคุกในข้อหา 'ก่อการร้าย' โดยอี ควิน เบอดั้บ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง "Montagnards Stand for Justice" (MSFJ)

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ต่อมา 13 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวันนี้ (13 มิ.ย.) คณะกรรมการเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ออกแถลงการณ์ถึงรัฐไทยไม่ส่ง อี ควิน เบอดั้บ นักเคลื่อนไหวชาวมองตานญาด กลับประเทศเวียดนาม ชี้มีเหตุให้เชื่อว่าหากส่งกลับเสี่ยงเผชิญอันตราย พร้อมเรียกร้องให้รัฐยึดมั่นตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมานฯ มาตรา 13 อนุสัญญาระหว่างประเทศ และใช้ระบบคัดกรองแห่งชาติ (NSM) เพื่อคุ้มครองสิทธิ

ด้าน แมรี ลอว์เลอร์ (Mary Lawlor) ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลมีเดีย 'X' แสดงความรู้สึกตกใจกับการจับกุมนักเคลื่อนไหวชาวมอนตานญาด 'อี ควิน เบอดั้บ' ในกรุงเทพฯ และกล่าวว่า หากมีการส่งนักเคลื่อนไหวชาวเวียดนามกลับไปถูกจำคุกประเทศ จะถือว่าเป็นการละเมิดทั้งกฎหมายภายในประเทศ และระหว่างประเทศ รวมถึงไม่สมควรได้เป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) อีกด้วย 

รายละเอียดแถลงการณ์

แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

กรณีการจับกุมบุคคลสัญชาติเวียดนามกลุ่มชาติพันธุ์มองตานญาด (Montagnards)

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับการประสานงานจากองค์กรภาคประชาสังคมแห่งหนึ่ง ขอความช่วยเหลือกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมนายอี ควิน เบอดั้บ (Y Quynh BDAP) นักเคลื่อนไหวชาวเวียดนามกลุ่มชาติพันธุ์มองตานญาด (Montagnards)

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า บุคคลดังกล่าวอยู่ระหว่างการขอลี้ภัยไปยังประเทศที่สาม และอยู่ในความคุ้มครองของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จึงมีเหตุควรเชื่อได้ว่าการส่งตัวบุคคลดังกล่าวกลับประเทศต้นทางอาจทำให้ได้รับอันตราย กสม. จึงส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์และประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เน้นย้ำถึงหลักการไม่ผลักดันหรือส่งกลับบุคคลไปยังดินแดนที่มีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในอันตราย (non-Refoulement) ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ หลักการดังกล่าวยังได้รับการกำหนดไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม

ต่อมา มีรายงานข่าวว่านายอี ควิน เบอดั้บ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 กสม. จึงมีความกังวลว่าทางการไทยอาจส่งตัวนาย อี ควิน เบอดั้บ กลับประเทศเวียดนามและอาจได้รับอันตราย จึงขอให้รัฐบาลดำเนินการกรณีข้างต้นในแนวทางที่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนของไทย รวมถึงการนำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 มาใช้เพื่อคุ้มครองบุคคลจากการไม่ถูกส่งกลับไปสู่อันตรายตามหลักการ non-refoulement ทั้งนี้ กสม. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net