Skip to main content
sharethis

มท.1 เผยนั่งเฮลิคอปเตอร์ตรวจราชการต่างจังหวัดวานนี้ (10 มี.ค.) พบตลอดเส้นทางมีการเผาหลายจุดและยังเผากันอย่างต่อเนื่อง ระบุหากใช้มาตรการบังคับก็จะเกิดผลกระทบเพราะชาวบ้านยังต้องทำมาหากินอยู่ จำเป็นที่ต้องขอความร่วมมือให้หยุดการเผา ส่วนพื้นที่ป่าต้องเข้มงวด -  10 มี.ค. ไทยพบจุดความร้อน 1,585 จุด พม่านำโด่งในอาเซียน 7,239 จุด ลาว 3,358 จุด กัมพูชา 1,657 จุด เวียดนาม 811 จุด และมาเลเซีย 14 จุด

11 มี.ค. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าว่าได้ประชุมยกระดับการควบคุมปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากการเผาป่า รวมถึงพื้นที่ไร่นาต้องกวดขัน พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ต้องมีการสุ่มตรวจ และพื้นที่ก่อสร้าง หากพื้นที่ใดมีปริมาณฝุ่นจำนวนมาก อาจมีมาตรการควบคุมการใช้ยานพาหนะในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว ด้านพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านก็พบว่ามีการเผาวัชพืชในพื้นที่เกษตรเช่นเดียวกับไทย โดยในระดับพื้นที่ได้มีการประสานกันอยู่แล้ว 

พลเอกอนุพงษ์ ระบุอีกว่าจากการนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจราชการต่างจังหวัดกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ตลอดเส้นทางพบว่ามีการเผาหลายจุดและยังเผากันอย่างต่อเนื่อง หากใช้มาตรการบังคับก็จะเกิดผลกระทบ เพราะชาวบ้านยังต้องทำมาหากินอยู่ แต่ก็จำเป็นที่ต้องขอความร่วมมือให้หยุดการเผา ส่วนพื้นที่ป่าต้องเข้มงวด เพราะยังมีเผาทำลายจำนวนไม่น้อย และนายกรัฐมนตรีจะไปติดตามการแก้ปัญหาดังกล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 17 มี.ค. นี้ รวมถึง 9 จังหวัดในภาคเหนือ

ไทยพบจุดความร้อนจำนวน 1,585 จุด พม่านำโด่งจำนวน 7,239 จุด

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า GISTDA เผยแพร่ข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 10 มี.ค. 2566 ไทยพบจุดความร้อนจำนวน 1,585 จุด ในขณะที่พม่ายังนำโด่งในภูมิภาคอาเซียน 7,239 จุด ลาว 3,358 จุด กัมพูชา 1,657 จุด เวียดนาม 811 จุด และมาเลเซีย 14 จุด

โดยจุดความร้อนในไทยที่พบมีดังนี้ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 581 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 444 จุด พื้นที่เกษตร 249 จุด พื้นที่เขต สปก. 177 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 118 จุด พื้นที่ริมทางหลวง 16 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ กาญจนบุรี 193 จุด

'ก้าวไกล' ซัด 'ประยุทธ์' ไร้ปัญญาหาทางออก PM2.5 โทษแต่ประชาชน

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์ PM 2.5 หรือมลพิษจากฝุ่นขนาดจิ๋วที่กำลังส่งผลกระทบไปทั่วประเทศขณะนี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องออกมาขอโทษประชาชนจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดและไม่สามารถดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนได้

นอกจากนี้ ในฐานะตัวแทนเขตบางขุนเทียน ซึ่งเมื่อวานนี้มีค่าฝุ่นสูงที่สุดในกรุงเทพ ขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่พวกเราไม่ใช่พื้นที่ต้นเหตุแต่ต้องรับเคราะห์ ซึ่งนอกจากเรื่องสุขภาพแล้วยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย เพราะบางขุนเทียนมีกำลังปลุกปั้นการท่องเที่ยว มีหลายกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกทำไม่ว่าปั่นจักรยาน ชมป่าชายเลน เที่ยวทะเลบางขุนเทียน แต่ฝุ่นที่ท่านปล่อยปละละเลยคุกคามสิ่งแวดล้อมไปทั่ว ทำให้เศรษฐกิจสีเขียวที่คนบางขุนเทียนกำลังช่วยกันทำกลายเป็นความเสี่ยงต่อหลายกิจกรรมกลางแจ้ง

ณัฐชา กล่าวต่อไปว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาแก้ตัวว่า "แก้ปัญหา PM2.5 ทุกปี แต่ประชาชนจำนวนมากคือปัญหา เผาอ้อย เผาก่อนปลูกพืชก่อนทำนา อะไรไม่รู้เยอะไปหมด" คือความชั่วช้าอย่างยิ่งของคนที่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา เอาแต่โทษประชาชน

"การเผาอ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือไฟป่าทั้งจากฝีมือคนและธรรมชาติ เป็นต้นเหตุของ PM2.5 ก็จริง แต่คนที่ไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจปัญหามากที่สุดคือนายกรัฐมนตรี

"เพราะต่อให้ท่านบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดอย่างที่ท่านขู่ฟอดๆ แล้วลดการเผาในประเทศทั้งหมดในตอนนี้ได้ PM2.5 ก็จะไม่ลดลง เพราะต้นเหตุที่แท้จริงมาจากนโยบายของท่านที่เอื้อให้กลุ่มทุนทำลายล้างธรรมชาติเหมือนฝูงตั๊กแตน พอป่าเขาในประเทศไทยกลายเป็นเขาหัวโล้นเพราะไร่ข้าวโพดจนเกิดกระแสต่อต้าน เขาก็แค่ย้ายฐานการผลิตไปเพื่อนบ้าน โดยมีท่านคอยออกนโยบายช่วย เช่น ภาษีนำเข้าต่ำๆให้ ทุกๆ ปี ส่วนวิธีการเลี่ยงความรับผิดชอบก็เหมือนๆกันคือเป็นการทำเกษตรแบบพันธสัญญา รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเดียว แต่พอถามถึงความรับผิดก็โทษไปที่เกษตรกรบริษัทไม่เกี่ยว รัฐบาลไม่เกี่ยว"

ณัฐชา ย้ำว่าปัญหาฝุ่นควันของไทยมองจากนอกโลกก็รู้ว่าเป็นปัญหาทางนโยบาย แค่ให้ลูกน้องไปหาแผนที่ดาวเทียมมาดูก็จะเห็นว่าจุดความร้อนมากมายมหาศาลว่ามาจากนอกประเทศไทยไม่ใช่ในประเทศ ดังนั้น อาชญากรมลพิษจึงอยู่ในทำเนียบ ไม่ใช่ตามทุ่งนาป่าเขา เป็นการรวมหัวเอื้อกันและกันระหว่างนายทุนไร้ความรับผิดชอบกับรัฐบาลไร้หัวใจ คอยแต่จะหาข้ออ้างแบบมักง่ายมาปัดความผิดให้พ้นตัว ทั้งที่หลักฐานยืนยันอยู่ทนโท่ว่ามาจากนโยบายของท่านทั้งนั้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net