Skip to main content
sharethis

'วันนอร์' มั่นใจว่า ส.ว.เป็นผู้ใหญ่ ไม่พูดเขาอาจจะโหวตให้ก็ได้ ระบุอย่างน้อยต้องมีโหวตเลือก 'พิธา' เป็นนายกฯ 2 ครั้ง ส่วนมากกว่านั้นต้องเคารพสมาชิกสภา หวั่นไม่มาประชุม ต้องอาศัยพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเพื่อให้องค์ประชุมครบก่อนแล้วโหวตกัน

 

3 ก.ค.2566 หลังจากที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ วันมูหะหมัดนอร์ มะทา หรือ วันนอร์ หัวหน้าหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 โดยพรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ พร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้ โดยจะมีการลงมติในการประชุมสภาผู้แทนฯ พรุ่งนี้ (4 ก.ค.) นั้น

ต่อมา วันมูหะหมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์กับรายการตอบโจทย์ทางไทยพีบีเอสถึงเรื่องการวางบทบาทตัวเองเข้ามาทำหน้าที่ท่ามกลางการเป็นคนกลางเข้ามาแก้ปัญหา 2 พรรคใหญ่อย่างไรว่า เนื่องจาก 2 พรรคประชุมร่วมกันและเห็นว่าในสถานการณ์นี้อยากได้คนกลางที่มีประสบการณ์เข้ามาทำหน้าที่ประธานสภา และเขา (พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย) ยินดีที่จะเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ตนเห็นว่าเพื่อที่จะให้ระบบประชาธิปไตยที่ประชาชนใฝ่ฝันอยากได้เดินไปได้ จึงยินดีที่จะทำงานให้ตรงนี้ ตนต้องทำหน้าที่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติประสานงานกับฝ่ายบริหารได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน

สำหรับข้อกังวลหรือห่วงใยที่ 2 พรรคใหญ่ฝากนั้น วันนอร์ กล่าวว่าก่อนที่ตนจะรับตำแหน่ง ตนก็สนับสนุนให้ 2 พรรคใหญ่ตกลงเอาประธานสภาพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เขาบอกว่าในช่วงนี้อยากให้ตนไปช่วยก่อน ตนก็บอกว่าหากมีความจำเป็นเพื่อที่จะให้ระบบจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ตนก็ยินดี และ 2 พรรคใหญ่ยืนยันที่จะยินดีให้ความร่วมมือ พรรคก้าวไกลอยากพัฒนาระบบฝ่ายนิติบัญญัติให้โปร่งใสตรวจสอบได้และให้กฎหมายต่างๆ ออกมาใช้บังคับได้เร็วขึ้น ตนจึงบอกว่าทั้งหมดนั้นไม่ได้อยู่ที่ประธานคนเดียว แต่อยู่ที่รองประธานและความร่วมมือของสมาชิกในสภาทุกคนด้วย รวมทั้งตนเองก็อยากเห็นฝ่ายนิติบัญัติทำงานรุกไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน

สำหรับประเด็นเรื่องการเสนอโหวตคนที่จะเป็นนายกฯ โดยเฉพาะความกังวลของพรรคก้าวไกล ที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เสียงโหวตเพียงพอหรือไม่และจะมีกระบวนการโหวตกี่รอบนั้น หัวหน้าหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวยืนยันว่า ความจริงใจและความไว้วางใจเป็นปัญหาสำคัญของพรรคร่วม 8 พรรค ถ้าเรามีความจริงใจกัน

"ส่วนว่าการจะโหวตจะได้เรื่องของนายก มันไม่ใช่ของสภาผู้แทนราษฎร 500 เพียงอย่างเดียว มันต้องอาศัยความร่วมมือและโหวตจาก ส.ว.ด้วย ให้ได้ 376 ซึ่งอันนี้เราก็ต้องขอความร่วมมือ ผมคิดว่า ส.ว.ส่วนใหญ่เขายังไม่ได้พูดว่าเขาจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน มีคนจำนวนน้อยที่พูดว่าจะสนับสนุนบ้าง หรือไม่อยากสนับสนุนบ้าง ผมว่าคงต้องหลังจากที่วันพรุ่งนี้โหวตได้ประธานสภาแล้ว ทุกพรรคก็ต้องช่วยกันหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. แต่ว่าจะได้เท่าไหร่ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเดินหน้าต่อไป" วันมูหะหมัดนอร์ กล่าว

วันมูหะหมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า เราก็ต้องช่วยให้ตามข้อตกลง MOU ที่บอกว่าเราอยากให้คนที่เสียงข้างมากคือ พรรคก้าวไกล พิธา เป็นนายกฯ ต้องทำให้เต็มที่ให้เห็นว่าเราได้เต็มที่แล้ว ส่วนตอนสุดท้ายถ้ามันไม่ได้จริงๆ ก็มานั่งหารือกันอีกทีว่าเราจะหาทางออกร่วมกันอย่างไร ตอนนั้นเราก็คงใช้สติปัญญาในการที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เราไม่อาจจะคาดข้างหน้าได้ แต่ความจริงใจไว้วางใจตนเห็นว่าสำคัญต้องทำไม่ให้ 8 พรรคนี่แตกแยกไปได้ โดยเฉพาะ 2 พรรคใหญ่ มัน 290 เสียง มันเกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร

"ตามที่เราคุยกัน 8 พรรคเวลาโหวตต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน แต่ว่าตอนโหวตนายกฯ ต้องได้ 376 เราได้แค่ 312 ก็ต้องไปหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ทีนี้ถ้าสมมติ ผมสมมติไปก่อน โหวตรอบแรก มันไม่ถึง 376 ต้องมานั่งวิเคราะห์ว่าจะทำอย่างไรให้ได้ 376 มันขาดอีกเท่าไหร่ ขาดในส่วนไหน แล้วจะไปทำอย่างไร ก็โหวตอีกสักครั้งเป็นอย่างน้อย หรืออาจจะ 2 ครั้งผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่าทุกอย่างมันก็ต้องเป็นตามธรรมชาติ เป็นไปตามกติกา ถ้าทำไม่ได้แล้วก็ต้องลองวิธีอื่น" หัวหน้าหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว

วันมูหะหมัดนอร์ ยืนยันว่าอย่างน้อยต้องมีโหวตเลือก 2 ครั้ง มากกว่านั้นตนไม่กล้าจะคิดไปเพราะเราต้องเคารพสมาชิกสภาบ้าง หากเราทำตามใจเราแล้วสมาชิกไม่ร่วมมือเขาไม่มาประชุมมันก็ประชุมไม่ได้ มันไม่ขึ้นกับว่าประธานอยากจะจัดกี่ครั้ง มันขึ้นกับความร่วมมือกันของสมาชิก เช่น เมื่อนัดประชุมแล้วเขาก็มาเกินครึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา 750 คน ตอนนั้นยังไม่มีวิปฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและ ส.ว. เราต้องอาศัยพูดจากับหัวหน้าพรรคต่างๆ ว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมครบก่อนแล้วโหวตกัน เขาคงจะถามว่าจะมีการโหวตกี่ครั้งคำตอบนี้คงให้ยาก นอกจากเราร่วมมือและใช้สติปัญญาคิดว่ามันจะสำเร็จไหม และหากสำเร็จมีคนเสนอวิธีอย่างอื่นไหม แต่ความไว้วางใจและความจริงใจเป็นประการสำคัญจาก 8 พรรคที่จะสนับสนุนพิธาเพราะเราตกลงร่วมมือและเป็นฉันทามติที่ประชาชนเขามอบมาเราก็ต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย แต่หากไม่บรรลุเป้าหมายประชาชนจะถามเรา 312 คนนี่ไม่ได้ มันต้องถาม ส.ว. ซึ่งเขาไม่ได้มาจากประชาชนเลือกโดยตรง แต่เขาก็เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญเหมือนกัน

"ผมยังมั่นใจว่า ส.ว.เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เขาไม่พูดเขาอาจจะโหวตให้ก็ได้นะ เพื่อรัฐบาลเดินหน้าไปได้" วันมูหะหมัดนอร์ กล่าว

ผู้ดำเนินรายการถาม สมมติว่าโหวต 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือ 4 ครั้งก็ตาม แต่เมื่อต้องมานั่งคุยกันว่าหากพรรคก้าวไกลทำไม่ได้ตรงไหนที่จะเป็นเวลาที่พรรคเพื่อไทยควรเสนอบ้างนั้น อะไรจะเป็นคนหรือกลไกที่จะกำหนด นั้น วันมูหะหมัดนอร์ กล่าวว่า เส้นตรงนี้มันเป็นเส้นที่เราไม่สามารถจะบอกได้ มันต้องคุยกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะพรรคร่วม 8 พรรคด้วย สองต้องคุยกับพรรคฝ่ายค้านด้วยและก็ต้องคุยกับ ส.ว.ด้วย ว่าเราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ที่ตนเป็นห่วงที่สุดคือหากองค์ประชุมไม่ครบเราจะแก้อย่างไร เป็นเรื่องที่สภาต้องร่วมมือกัน ตนมองว่ามีทางออกเพราะว่าทุกคนเห็นแล้วว่าหากไม่มีรัฐบาลบ้านเมืองก็เสียหาย

ต่อคำถามที่หากได้รับการโปรดเกล้าแล้วจะเรียกประชุมทั้ง 2 สภาเมื่อไหร่นั้น วันมูหะหมัดนอร์ กล่าวว่าต้องรอโปรดเกล้าก่อนสมมติพรุ่งนี้โหวตตนเป็นประธานสภา นายกฯ ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภา หลังจากนั้นตนก็จะคุยกับประธานวุฒิสภาและเลขาทั้ง 2 สภาว่าเราพร้อมเร็วที่สุดเมื่อไหร่ ซึ่งตนหากจำไม่ผิดหลังจากมีประธานสภาแล้วให้เวลาน่าจะ 10-15 วัน ต้องมีการประชุมเพื่อเลือกนายกฯ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net