Skip to main content
sharethis

พรรคไทยสร้างไทย ไม่ค้านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ห่วงออก พ.ร.บ.กู้เงินเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เสี่ยงกระทบเสถียรภาพการเงิน การคลังของประเทศระยะยาว ขอคิดให้รอบคอบ รับฟังความเห็นต่าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน 

26 พ.ย. 2566 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทตามนโยบายกระตุ้มเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เห็นด้วยกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชาชนจะได้ประโยชน์จากมาตรการของรัฐ แต่มีประเด็นที่กังวล คือการออกพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กู้เงิน วงเงิน 500,000 ล้านบาทเพื่อเดินหน้าโครงการนั้น สุดท้ายแล้วอาจไม่มีใครได้เงินเลย เพราะเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 และขัดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 ที่ระบุว่า หากใช้เงินที่ไม่ได้เป็นไปตามงบประมาณปกติ จะทำได้เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น แต่วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน จึงขอรัฐบาลพิจารณาด้วยความรอบคอบ 

นายรณกาจ กล่าวต่อว่าการที่รัฐบาลกู้เงินมาแจกโดยออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เป็นการซื้อเวลามากกว่าหรือไม่ เพื่อให้เห็นว่าได้ทำตามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง โดยที่ไม่ได้นำผลกระทบมาพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่งผลคนไทยทั้งประเทศต้องแบกรับหนี้ดังกล่าวในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน หลายคนมองว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีการประชาสัมพันธ์ว่าจะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ให้แก่ประเทศ อันจะทำให้เกิดการพัฒนาสู่เศรษฐกิจดิจิทัลแบบก้าวกระโดด แต่ดูเหมือนว่าเมื่อนานไป หลังรัฐบาลออกมาชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดการดำเนินโครงการ ทำให้เห็นชัดว่า ไม่ได้เป็นตามที่เคยประชาสัมพันธ์ไว้ แต่เป็นเพียงการใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการอุปโภค บริโภค แบบเบื้องต้นเท่านั้น ไม่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในมิติของการหารายได้ อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการเพิ่มหนี้สาธารณะ เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว และยังอาจเป็นปัจจัยให้เกิดเงินเฟ้อสูงขึ้นอีก ซึ่งประเด็นดังกล่าว ขณะนี้มีผู้ไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ไม่ได้พัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างที่มีการหาเสียงไว้ 

นอกจากนี้ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ มากกว่าร้านค้าปลีกขนาดเล็กหรือไม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น สำหรับพรรคไทยสร้างไทย มองปัญหาที่สำคัญของประเทศในระยะใกล้ คือการที่ประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยสูงที่สุดในโลก ทั้งยังมีฐานะยากจน สุขภาพไม่ดี รัฐต้องเผชิญปัญหาการเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากไปกับการดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงวัย ดังนั้น การเตรียมตัวในเรื่องนี้จึงสำคัญและจำเป็น รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณอย่างมีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับมาตรการรองรับสังคมผู้สูงวัยให้เป็นนโยบายในระดับต้นๆ  ดังนั้น การดำเนินการของรัฐบาลจึงขอให้ทำอย่างรอบคอบ และรับฟังเสียงของผู้เห็นต่างเพื่อนำมาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขนโยบายให้การกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้เงินภาษีของประชาชนที่มีจำนวนมหาศาล เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net