19 มิ.ย. 67 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปราย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระแรก ถึงโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตามที่รับฟังพบว่าวาทกรรมท่าทีว่า 'เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้' เป็นวาทกรรมที่หนักไป ทั้งนี้ ข้อวิจารณ์โครงการดังกล่าว เป็นเรื่องมุมมองที่แตกต่างกัน ทั้งนี้รัฐบาลมองว่าการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควรทำก่อน เพื่อให้คนไทยมีกำลังต่อยอด ทั้งการบริโภค การลงทุนในอาชีพ สร้างสภาพคล่อง
"นโยบายเงินดิจิทัลเป็นการคิดนอกกรอบ เพื่อให้โครงการนี้วางรากฐาน และวางระบบการเงิน เช่น การโอนถ่ายเงินกลางของรัฐให้ประชาชน ผ่านแอปพลิเคชันกลางให้บริการประชาชน เป็นโครงการกระตุ้นให้คน 50 ล้านคน ลงทะเบียนผ่านมาตรฐานของรัฐ เพื่อให้มีบัตรประจำตัวดิจิทัล เพื่อใช้ทำธุรกรรมของรัฐได้ทุกประเภท"
รมช.คลัง ชี้แจง ยอมรับว่า ปีนี้กู้เงินเพิ่มขึ้น แต่เป็นการกู้ชั่วคราวเพื่อมาดำเนินโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต มีข้อห่วงใยว่า หากเราขาดดุลเต็มเพดาน ในกรณีวิกฤตจะไม่สามารถปรับตัวรองรับได้อันนี้เป็นความเข้าใจในเรื่องของกลไกงบประมาณและกลไกวินัยทางการเงินการคลังของประเทศไทยที่ยังคาดเคลื่อน ในข้อเท็จจริงมีกลไกตาม พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการภาครัฐที่จะสามารถรองรับไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ในลักษณะใดก็ได้ เรายังสามารถเดินหน้าได้"
![สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท](https://img.pct.fyi/uploads/big/50cd36632778858506956587c3cd91f7.png)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)