รมว.พาณิชย์ ย้ำไม่ยกเลิกประมูลข้าวเก่า 10 ปี หลังตรวจพบเอกชนหลายรายคุณสมบัติมีปัญหาคดีค้างเก่า เดินหน้าเจรจาต่อรองราคารายที่เหลือให้ครบก่อน หากไม่ได้จริงค่อยดูอีกทีว่าจะไปต่อหรือล้ม ชี้แม้ราคายืนเสนอรายต่อไปต่ำกว่ารายแรก แต่ถือว่าราคาดีและพอใจ

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 ว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยืนประมูลสตอกข้าวสารรัฐค้างเก่า 10 ปี หลังจากที่องค์การคลังสินค้าหรือ อคส.ดำเนินการตรวจสอบผู้ยืนซองประมูลข้าวสารในล็อต 15,000 ตันในจำนวน 6 ราย โดยมีกระแสข่าวว่า 3 รายที่ยืนมานั้นขาดคุณสมบัติและมีส่วนเกี่ยวพันธ์กับคดีค้างเก่ากับ อคส.และอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองด้วยนั้น เท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น เห็นว่าผู้ที่เสนอราคาข้าวสูงสุด คือ บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัดที่ให้ราคาประมูลข้าวสารอยู่ที่ 19.07 บาท กก เป็นราคารวม 286 ล้านบาทมีปัญหาค่อนข้างมากและน่าจะหลุดไม่ผ่านคุณสมบัติให้เป็นผู้ชนะประมูลข้าวในครั้งนี้แน่นอน รวมไปถึงบริษัทในรายที่ 2 และรายที่ 3 ที่อาจจะมีปัญหาขาดคุณสมบัติด้วยเช่นกัน คาดว่าในเร็ๆนี้น่าจะมีความชัดเจนหลังจาก อคส.ได้มีการรายงานเข้ามาอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องนี้อาจจะมีความล่าช้าบ้าง แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ยังไม่มีการล้มประมูลในครั้งนี้แน่นอน โดยยังเดินหน้าเจรจาต่อรองกับเอกชนรายต่อไปที่มีคุณสมบัติครบทุกรายก่อนว่าจำนวนที่เคยเสนอยืนซองประมูลเข้ามา แม้จะให้ราคาต่ำกว่าแรกแรกอยู่มาก โดยเฉลี่ยเสนอมาให้อยู่ที่ 12-15 บาท กก แต่ให้อยู่ที่การเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดและให้ครบทุกรายก่อน แต่หากเจรจาแล้วจะได้เพิ่มขึ้นหรือราคาเท่าเดิมตามที่เสนอตอนยืนซองประมูลเข้ามาก็ต้องพิจารณากันต่อไป

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์พอใจในราคาที่เอกชนทั้ง 6 รายที่เสนอมา เพราะเป็นราคาที่ดีไม่ได้ต่ำไปมาก ดังนั้น หากผลการเจรจาต่อรองทุกรายที่เหลือทั้งหมดแล้ว ไม่เป็นที่น่าพอใจก็คงค่อยมาตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเดินต่อหรือล้มเลิกประมูลไป แต่โดยส่วนตัวยังเห็นว่ายังมีทางออกของเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองที่ภาครัฐจะได้ราคาดีทีสุดกันต่อไป