Skip to main content
sharethis

'ชุติพงศ์' จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาสารเคมีรั่วไหล-กวดขันมาตรฐานโรงงาน หลังไฟไหม้วินโพรเสส ใกล้ครบ 3 เดือน ยังคืบหน้าไม่ถึงไหน ห่วงหน้าฝนน้ำปนเปื้อนไหลท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน แนะทบทวนนโยบายดึงต่างชาติลงทุน ไม่เพิกเฉยโรงงานจีน 'นิคมศูนย์เหรียญ' เต็มพื้นที่อีอีซี

 

18 ก.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานวันนี้ (18 ก.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.ระยอง เขต 4 พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดกรณีความจำเป็นเร่งด่วนในการเร่งรัดจัดการแก้ไขปัญหาสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานวินโพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลังเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดการปัญหาเท่าที่ควร รวมถึงภาพรวมในการจัดการปัญหาโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ถาม พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

ชุติพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เร่งด่วนยิ่งขึ้นเพราะวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุฝนตกหนักจนมีน้ำไหลซึมออกจากบ่อที่ 2 ซึ่งอยู่ติดกับบ่อที่ 4 หรือบ่อดำ ซึ่งเป็นบ่อที่มีสารเคมีอันตรายปนเปื้อน มีค่าสารพิษเกินค่ามาตรฐาน เช่นค่าเหล็กเกินไปถึง 10,000 เท่า โดยก่อนหน้านี้มีการขุดขยายบ่อดำ ทำให้จุน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 140,000 คิว แต่ขณะนี้มีน้ำอยู่ในบ่อ 90,000 คิวแล้ว 

สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า จากประมาณการหน้าฝนครั้งนี้จะทำให้เกิดน้ำสะสมในพื้นที่รวมแล้วประมาณ 240,000 คิว ดังนั้นอีก 100,000 คิวที่เหลือจะต้องล้นออกไปสู่ชุมชนท่วมบ้านเรือนประชาชนหรือไม่ หากเกิดเช่นนั้นจะทำอย่างไร นี่คือปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงจะทำอย่างไรกับสารเคมีอันตรายอย่างตะกรันอลูมิเนียม (Aluminum Dross) ที่เมื่อโดนน้ำจะเกิดปฏิกิริยา เกิดแอมโมเนียและมีกลิ่นรั่วไหล สองอย่างนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐมนตรีต้องแก้ไขก่อนเข้าสู่หน้าฝน 

รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันไม่เพิกเฉย

ด้าน พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวขอบคุณ สส.ชุติพงศ์ เพราะเป็นหนึ่งในคนที่ติดตามเรื่องนี้ มาบอกตนตลอดว่าเมื่อไหร่จะแก้ปัญหาเสร็จเสียที ยืนยันไม่ได้เพิกเฉย การจัดการมี 2 ส่วนคือการจัดการต้นเหตุของการเกิดมลพิษ นั่นคือของเสียที่อยู่ในโกดังทั้งหมด และการจัดการน้ำเสียที่มีการปนเปื้อน ทั้ง 2 อย่างต้องทำคู่กัน

พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า สำหรับการจัดการน้ำเสีย มีการประชุมล่าสุดวันนี้ของผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กระทรวงอุตสาหกรรม และนายก อบจ.ระยอง เห็นตรงกันว่า บ่อที่มีอยู่อาจเก็บปริมาณน้ำไม่เพียงพอ สิ่งที่ทำได้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือผันน้ำไม่ให้น้ำเข้ามาในบ่อที่ 2 และบ่อดำ เพื่อให้น้ำธรรมชาติไปตามเส้นทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพพื้นที่ที่มีความลาดชัน ทำให้จำเป็นต้องทำทางเบี่ยง รวมถึงบริหารจัดการน้ำเดิมด้วยการเสริมคันกั้นน้ำให้แข็งแรงมากขึ้น

รมว.อุตสาหกรรม ขออนุมัติงบฯ กลางกำจัดกากของเสีย แก้ปัญหาน้ำต้องรอผลสอบ คกก.สิ่งแวดล้อมฯ

ชุติพงศ์ จึงถามต่อว่า การทำทางผันน้ำและเบี่ยงน้ำ จะช่วยแก้ไขปัญหาการสะสมของน้ำ 240,000 คิว ได้หรือไม่อย่างไร และรัฐมนตรียังไม่ได้ตอบว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้น้ำที่ล้นออกมาไหลไปสู่บ้านเรือนพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ดี ตนได้ทราบแล้วว่า รัฐมนตรีมีการจัดทำแผนของบประมาณรายจ่ายกลาง จึงอยากให้รัฐมนตรียืนยันอย่างชัดเจนว่าได้ยื่นของบกลางไปแล้วเพื่อจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นอกจากนี้ รัฐมนตรีลงพื้นที่กับนายกฯ คงทราบดีว่ากลิ่นที่ประชาชนต้องทนดมนั้นเหม็นขนาดไหน ตนจำข้อสั่งการ 6 ข้อของนายกฯ เมื่อครั้งลงพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ท่านได้สั่งการให้เร่งรัดแก้ไขปัญหา แต่ตอนนี้เหลืออีก 4 วันจะครบสามเดือนหลังเกิดเหตุการณ์ แม้ตนเข้าใจว่าการทำแผนของบประมาณต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ประชาชนรอฟังคำตอบอยู่ว่า รัฐมนตรีจะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไหร่ งบกลางนั้นกั๊กไว้สำหรับทำดิจิทัลวอลเลต แต่อย่างไรก็ต้องมีเงินเหลือเพื่อแก้ปัญหาฉุกเฉิน จึงขอถามว่าที่รัฐบาลบอกว่างบกลางเหลือ ขอได้หลายหมื่นล้าน รัฐมนตรีจะเอาเข้าที่ประชุม ครม. ใช่หรือไม่ และเมื่อไร

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้นำเรื่องของบประมาณรายจ่ายกลางมาถึงตนเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. แต่ต้องส่งเรื่องกลับไปยังกรมโรงงานฯ อีกครั้งเพื่อทำรายละเอียดให้รอบคอบ ยืนยันนายกฯ มีนโยบายชัดเจนที่จะแก้ปัญหานี้ตั้งแต่วันแรก โดยงบ 397 ล้านบาทที่กรมโรงงานเสนอมา เป็นการขอเพื่อจัดการกากของเสีย ส่วนเรื่องการจัดการน้ำและน้ำใต้ดินยังไม่ได้ประเมิน เพราะต้องรอผลวิเคราะห์ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและกรมควบคุมมลพิษ 

ชุติพงศ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าต้องทำรายละเอียดให้ครอบคลุม จึงต้องถามกรอบระยะเวลา เพราะประชาชนต้องการความชัดเจน วันนี้ได้ยินว่าการของบกลางไม่ใช่ปัญหา ตนก็ยินดี อย่างน้อยรู้แล้วว่ารัฐมนตรีจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. แน่ ตนก็จะติดตามต่อไป

สส.ก้าวไกล ถาม รบ.จะมีนโยบายทบทวนมาตรการดึงนักลงทุนที่ดีขึ้น

สส.พรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า ส่วนคำถามที่สาม สืบเนื่องจากข้อสั่งการ 6 ข้อของนายกฯ เป็นคำถามเชิงนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลนี้ เราเห็นตรงกันว่า วินโพรเสส คือ ข้อบกพร่องของการส่งเสริมการลงทุน เกิดนักลงทุนที่ไม่มีความรับผิดชอบ นายกฯ ได้สั่งการให้ตรวจสอบหาโรงงานที่มีปัญหาเหล่านี้ ทั้งหมด นโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมนักลงทุนต้องถูกนำมาทบทวน เพื่อสร้างการลงทุนที่ดีขึ้น

กรณีตัวอย่างที่ตนจะยกขึ้นมา คือกรณีเครนถล่มโรงงานซินเคอหยวน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พบความผิดปกติคือโรงงานนี้ยังไม่เปิดดำเนินงาน เป็นเพียงไซต์ก่อสร้าง ได้รับ BOI ขอ EIA และใบอนุญาต รง. เรียบร้อย แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวหรือไม่

ที่สำคัญกฎหมายประเทศไทย อนุญาตให้ใช้แรงงานในไซต์งานก่อสร้าง ได้แค่แรงงาน MOU จากประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม แต่เครนถล่มครั้งนี้ มีแรงงานจีนเสียชีวิต 1 ราย คำถามคือคนจีนเข้ามาทำอะไรทั้งที่กฎหมายไม่อนุญาต ยกเว้นผู้มีทักษะพิเศษ ตนสอบถามเรื่องนี้ระหว่างการลงพื้นที่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการชี้แจง

จึงตั้งข้อสงสัยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานในกำกับของ รมว.อุตสาหกรรม หรือไม่ และตนค่อนข้างแน่ใจจากข้อมูลที่มีอยู่ การลักลอบเข้ามาทำงานผิดกฎหมายผ่านการฟรีวีซ่าของคนจีน เฉพาะใน ต.มาบยางพร และ ต.บ่อวิน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง มีแรงงานจีนนับหมื่นคนเข้ามาทำงานในเขตพื้นที่อีอีซี จนแทบเรียกได้ว่าเป็นชุมชนคนจีนไปแล้ว 

กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการตรวจสอบมาตรฐาน ความปลอดภัยโรงงานลักษณะนี้ตามข้อสั่งการของนายกฯ หรือไม่ ตนเข้าใจดีว่าประเทศเราต้องเปิดรับนักลงทุน แต่ก็ต้องคัดกรอง ไม่ใช่ปล่อยให้มีโรงงานจีนผิดกฎหมาย ไม่ได้มาตรฐาน เข้ามาประกอบการ เข้ามาแล้วก็จับจ่ายผ่านวอลเล็ตของคนจีนด้วยกัน ไม่ส่งเสริมรายได้ของคนพื้นที่ สุดท้ายคนไทยได้อะไร 

ชุติพงศ์ กล่าวว่า เขามั่นใจว่ารัฐมนตรีทราบว่าโรงงานแห่งนี้มีปัญหา เพราะเมื่อ 18 ม.ค. ตนได้ตั้งกระทู้ถามขอให้รัฐมนตรีช่วยตรวจสอบมาตรฐานโรงงานที่ขณะนั้นกำลังจะเปิดอีก 1 สาขา แต่แล้วอีก 2 เดือนต่อมาก็เกิดเหตุ จนบัดนี้ยังไม่เห็นการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนจากรัฐมนตรีเลย

"การเพิกเฉยแบบนี้จะยิ่งทำให้เขาได้ใจ แห่เข้ามาลงทุน จ้างงานคนจีนผิดกฎหมาย เข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยไม่ส่งเสริมรายได้ ไม่ส่งเสริมการลงทุนในเขตอีอีซีไปเรื่อยๆ ท่านต้องจริงจังและชัดเจนกับเรื่องนี้ ถ้าเราเคยคุยกันว่าทัวร์ศูนย์เหรียญคือปัญหา สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ในพื้นที่ที่ตนเป็น สส. ก็คือนิคมศูนย์เหรียญ" ชุติพงศ์ กล่าว

ชุติพงศ์ ถามคำถามที่ 3 ว่ารัฐมนตรีจะมีการปรับแนวนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร ทั้งเรื่องการส่งเสริมการลงทุน การออกบีโอไอให้บริษัทที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศขนเทคโนโลยีเข้ามาทิ้งมลพิษให้คนในพื้นที่ สร้างโรงงานไร้ความรับผิดชอบ รวมถึงมีแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อชุมชนอย่างไร

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กรณีโรงงานซินเคอหยวน อุตสาหกรรมจังหวัด และกรมโรงงาน ไม่ได้เพิกเฉย ได้ใช้อำนาจตามกำหมายให้ปิดปรับปรุง และถ้าไม่ปรับปรุงตามระยะเวลาและข้อกำหนด ก็จะสั่งปิด นักลงทุนนั้นมีทั้งที่มีจรรยาบรรณ และขาดจรรยาบรรณ สิ่งที่กระทรวงอุตสาหกรรมพยายามทำคือการบังคับใช้กฎหมาย บังคับโทษให้เพิ่มขึ้น ตั้งแต่โรงงานผู้ก่อให้เกิดของเสีย ผู้ขนส่ง และพื้นที่ที่อนุญาตให้กำจัดของเสีย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net