Skip to main content
sharethis

'คารม พลพรกลาง' รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นส่วนตัว ถ้านำความผิดตาม ปอ.ม. 110 และหรือ ม.112 เข้ามารวมใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาจทำให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ และกฎหมายดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ


คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังมีการจัดทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่กระทำผิด ระหว่างปี พ.ศ.2548  เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน  โดยในการนิรโทษ นั้น ไม่นำเอาความผิดเกี่ยวกับชีวิต  และความผิดที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงรวมเข้าใน พ.ร.บ.การนิรโทษกรรม ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  110  และมาตรา  112  กรรมการที่ศึกษาเพื่อจัดทำกฎหมายนิรโทษกรรมเห็นว่ามีความอ่อนไหวทางการเมือง มีความเห็นเป็น  3 แนวทาง คือ  1.ไม่ควรนิรโทษกรรม  2.ให้มีการนิรโทษกรรม โดยไม่มีเงื่อนไข  3.ให้มีการนิรโทษกรรม แบบมีมาตรการเงื่อนไข

“ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะเป็นนักกฎหมาย  และเป็นคนที่เคยร่วมชุมนุมกับประชาชนในช่วงปี 2549 ถึงปี 2554 ได้สัมผัสถึงความรู้สึกความคิดเห็นที่แตกต่างในทางการเมืองของประชาชน ได้เห็นความต้องการของประชาชน   ที่มาเรียกร้องว่าเขาต้องการความเป็นอยู่ที่ดี  มาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ก็มาก มาแบบมีการจัดการก็มี  ดังนั้น เมื่อมีการดำเนินคดีกับประชาชนเหล่านี้  ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง   เพราะเขามาชุมนุมตามสิทธิที่เขาเข้าใจ และต้องการเรียกร้องในฐานะประชาชน ดังนั้น การดำเนินคดีกับประชาชนเหล่านี้จึงไม่ถูกต้อง   เขาจึงควรได้รับการนิรโทษกรรม ” นายคารม ระบุ
          
นายคารม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของบุคคลที่กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 หรือมาตรา  112 นั้น ต้องเข้าใจว่าความผิดตามมาตรา 107 ถึงมาตรา  112 นั้นกฎหมายบัญญัติไว้ในหมวด 1  ลักษณะ  1  ภาค  2  ประมวลกฎหมายอาญา   เป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี  รัชทายาท  และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์  เมื่อพิจารณาความผิดฐานนี้  ประกอบกับเนื้อความในรัฐธรรมนูญหมวด  1 บททั่วไป และหมวด  2  พระมหากษัตริย์ในหลายมาตรา  เช่นมาตรา  2  มาตรา  5  และมาตรา 6  จะเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  110 และ  112   มีลักษณะแตกต่างจากประมวลกฎหมายอาญามาตราอื่น  เพราะบัญญัติไว้เชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญอย่างมีนัยสำคัญ  เพราะฉะนั้นถ้ามีคนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญามาตรา  110  หรือ  112 แล้ว  ต่อมาได้มีการออกกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าว   ไม่ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด  เพราะการนิรโทษกรรมเท่ากับบุคคลนั้นไม่ได้กระทำผิดเลย  ทำให้มีนัยยะว่า อาจเป็นการส่งเสริมให้กระทำผิดและเมื่อกระทำผิดแล้วก็มาออกกฎหมายภายหลังว่าการกระทำดังกล่าว  ไม่ถือเป็นความผิด  โดยอ้างว่าที่กระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์ไปนั้น  เพราะมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง   จึงถือว่าเป็นการส่งเสริมให้มีการละเมิดพระมหากษัตริย์์  ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า  พระองค์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ  ผู้ใดจะละเมิดมิได้  ผู้ใดจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ  มิได้

นายคารม กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณามาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญ  ที่เขียนไว้ว่า  ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   ยิ่งเป็นการบอกชัดว่าการละเมิดพระมหากษัตริย์ นั้น คือการเจตนากัดเซาะ บ่อนทำลายระบบการปกครองของประเทศไปด้วย  ดังนั้น การละเมิดพระมหากษัตริย์จึงไม่อาจทำได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญาหรือทางใด  และไม่ต้องคำนึงถึงมูลเหตุจูงใจในทางการเมืองหรือทางใดใด  ไม่อย่างนั้นทุกคนก็เอามูลเหตุจูงใจในทางการเมืองมาอ้าง เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์  การนำเอา ปอ. มาตรา 110 หรือ112 เข้ามาอยู่ในกฎหมายนิรโทษจึงทำไม่ได้  เพราะความผิดมาตรา 110 และ 112 ไม่เหมือนกับความผิดอาญาทั่วไป   จะทำให้กฎหมายนิรโทษกรรมโมฆะเพราะขัดกับรัฐธรรมนูญ  ตามมาตรา 5 ค่อนข้างแน่นอน   ซึ่งจะทำให้ส่วนดีของกฎหมาย  และเจตนาดีที่จะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มาชุมนุมตกไปไม่ได้รับประโยชน์  แทนที่จะได้ลดความขัดแย้งลง  แต่จะเพิ่มความขัดแย้งเพราะนำมาตรา  110 และ 112  เข้าไปรวมด้วย

“สำหรับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่า  กระทำความผิดตามมาตรา 110 หรือ  112   สิ่งน่าจะเหมาะสมและควรทำคือ  การให้เขาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม  เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้มีเจตนากระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์ โดยให้เขาได้รับสิทธิการประกันตัว  และหากสุดท้ายผลของคดีเป็นอย่างไร  บุคคลดังกล่าวยังมีสิทธิในการขอพระราชทานอภัยโทษต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระองค์ โดยแท้" นายคารม กล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net