Skip to main content
sharethis

พม่าเพิกถอนใบอนุญาตส่งออกของบริษัทมากกว่า 100 แห่ง โดยกล่าวหาบริษัทเหล่านี้ว่าไม่ได้แปลงเงินรายได้จากการค้าให้เป็นเงินจ๊าดหลังจากค่าเงินจ๊าดต่ำลงอย่างหนัก และดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทส่งออกในข้อหาที่อาจทำให้ถูกสั่งจำคุกและถูกยึดทรัพย์ได้ ทั้งที่กองทัพพม่ายังเคยบิดเบือนอัตราการแลกเปลี่ยนเงินเพื่อหาเงินมาเป็นทุนซื้ออาวุธให้ตัวเอง

กลุ่มผู้บริหารบริษัทนำเข้า-ส่งออกเปิดเผยว่า บริษัทมากกว่า 100 แห่งในพม่าถูกเพิกถอนใบอนุญาตส่งออกเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าไม่ได้ทำการแปลงค่าเงินรายได้จากสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นค่าเงินจ๊าดของพม่า และมีบริษัทอีก 12 แห่งที่ถูกสั่งให้ต้องเปลี่ยนค่าเงินรวมแล้ว 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้เป็นเงินจ๊าดภายในสองสัปดาห์ (จำนวนเงิน 17 ล้านดอลลาร์คิดเป็นราว 604 ล้านบาท หรือ ราว 36,000 ล้านจ๊าด)

กลุ่มผู้บริหารกล่าวว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว (28 ก.ค. - 3 ส.ค.) กองทัพเผด็จการพม่าได้เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทส่งออก 107 แห่ง ทั้งนี้ เจ้าของบริษัท 107 แห่งยังเผชิญกับข้อกล่าวหาภายใต้กฎหมายนำเข้าส่งออกของพม่าด้วย ทำให้พวกเขามีโอกาสต้องโทษจำคุกและถูกยึดทรัพย์

ผู้ส่งออกในกรุงย่างกุ้งว่าที่สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นเพราะกฎหมายบังคับเปลี่ยนค่าเงินที่เผด็จการทหารบังคับใช้ ผู้ส่งออกกล่าวว่าผู้ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกบางคนอาจจะสามารถรับเงินโดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคารที่ถูกควบคุมโดยเผด็จการทหารได้ แต่พวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนค่าเงินต่างชาติเหล่านี้ให้กลายเป็นเงินจ๊าดได้โดยไม่พึ่งพาระบบธนาคารในประเทศ เพราะการคว่ำบาตรโดยรัฐบาลตะวันตกได้ตัดขาดผู้นำเข้า-ส่งออกเหล่านี้จากธนาคารที่อยู่นอกพม่า

การปราบปรามบริษัทนำเข้าส่งออกเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ค่าเงินจ๊าดลดต่ำลงอีกร้อยละ 13 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาจาก 4,800 จ๊าดต่อดอลลาร์ เป็น 5,400 จ๊าดต่อดอลลาร์ และหากเทียบกับค่าเงินก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. 2564 อัตราค่าเงินจ๊าดของพม่าเคยสูงถึง 1,300 จ๊าดต่อดอลลาร์

ธนาคารกลางของพม่าที่ถูกควบคุมโดยเผด็จการทหารสั่งให้ผู้ส่งออกต้องแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศร้อยละ 65 จากรายได้ให้เป็นเงินจ๊าด แต่เผด็จการทหารพม่าก็อนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราในอัตรา 2,100 จ๊าดต่อดอลลาร์เท่านั้น ทำให้ผู้ส่งออกสามารถใช้รายได้เพียงร้อยละ 35 เท่านั้นในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการของต่างประเทศ

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ของเผด็จการทหารยังสั่งให้บริษัทส่งออก 12 แห่งต้องแลกเปลี่ยนเงินจำนวน 17 ล้านดอลลาร์เป็นเงินจ๊าดด้วย

นับตั้งแต่กองทัพพม่าทำรัฐประหารครั้งล่าสุดพม่าภาคการส่งออกและการลงทุนจากต่างชาติก็ประสบปัญหา ในขณะที่ธุรกิจภายในประเทศไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนกู้ยืมต่างประเทศได้ และการที่พม่าแทบจะไม่มีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไหลเวียนเข้าไปเลยทำให้รัฐบาลจากคณะรัฐประหารต้องขายเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

การขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในพม่าและธนาคารกลางยังปรับอัตราแรกเปลี่ยนให้ต่ำแบบไม่เป็นไปตามความจริงโดยนั้น ทำให้ผู้คนหันกลับมาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในตลาดมืดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเผด็จการทหารก็ยังคงหาเงินมาซื้ออาวุธได้ องค์การสหประชาชาติประเมินว่าในช่วง 2 ปีหลังจากการรัฐประหารในพม่า กองทัพพม่าได้นำเข้าอาวุธและวัสดุที่เกี่ยวข้องมูลค่ารวมแล้วอย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์ จากรัสเซีย, จีน และประเทศอื่นๆ

จาเร็ด บิสซิงเจอร์ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการออกมาตรการควบคุมตลาดเงินตราระหว่างประเทศของเผด็จการทหารพม่านั้นเป็น "การแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ" และเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสามารถในการทำสงครามของพวกเขา

บิสซิงเจอร์ระบุว่าเผด็จการทหารพม่ามีรายได้อย่างน้อย 1,800 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาด้วยการซื้อเงินดอลลาร์ในอัตราที่ต่ำอย่างไม่เป็นไปตามความจริงซึ่งเป็นอัตราตามที่พวกเขาวางมาตรการไว้ จากนั้นก็ขายออกไปในราคาตลาดที่สูงกว่า ซึ่งบิสซิงเจอร์ระบุว่ามันเป็นรายได้ที่กองทัพพม่าได้มาในระดับแทบจะเทียบเท่ากับงบประมาณของกองทัพและอาจจะมากกว่ายิ่งกว่ารายได้จากก๊าซธรรมชาติของประเทศเสียด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม กองทัพเผด็จการพม่าก็ยังคงเผชิญกับการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศที่จะใช้ในการค้ากับต่างประเทศพวกเขาจึงเริ่มผลักดันให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ หันมาใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสินค้าเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เมื่อตอนที่กลุ่มล็อบบี้ทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของพม่าคือสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพพม่าพยายามอธิบายระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าแบบใหม่ให้กับสมาชิกหอการค้า ก็ยิ่งทำให้สมาชิกสับสนมากขึ้นไปอีก

เจ้าของบริษัทขนส่งในย่างกุ้งผู้ที่เคยทำงานกับบริษัทส่งออกที่เพิ่งจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต บอกว่า ดูเหมือนเผด็จการทหารต้องการให้การส่งออกและนำเข้าทั้งหมดกระทำโดยวิธีการแบบแลกเปลี่ยนสินค้า

เจ้าของบริษัทขนส่งกล่าวว่า "ผมคิดว่าเผด็จการทหารพยายามจะผลักดันให้ระบบการค้าขายทั้งหมดกลายเป็นระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าราวกับโลกอุดมคติ" อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าแผนการแทรกแซงตลาดของกองทัพพม่าจะส่งผลตรงกันข้าม การเพิกถอนใบอนุญาตส่งออกจะทำให้การค้าซบเซาลงและส่งผลให้ราคาสินค้าที่ขายในพม่าเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

เรียบเรียงจาก

Over 100 Exporters Face Prison in Myanmar as Junta Escalates Forex Crackdown, The Irrawaddy, 02-08-2024

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net