Skip to main content
sharethis

4 นักปกป้องสิทธิ ‘สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ’ เข้าพบ พนง.สอบสวน สภ.บ้านโฮ่ง หลัง สนง.ที่ดินฯ แจ้งความข้อหา ‘ขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ’ เหตุค้านนายทุนออกโฉนดมิชอบทับที่ชาวบ้านสันตับเต่า จ.ลำพูน ย้ำสู้ไม่ถอยเพื่อ ‘ที่ดินคือชีวิต’ แม้เผชิญคดียืดเยื้อ

13 ส.ค. 2567 ที่ สภ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน นักปกป้องสิทธิในที่ดินจาก “สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ” หรือ สกน. 4 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขัดขวางเจ้าพนักงาน จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาบ้านโฮ่ง แจ้งความดำเนินคดีเพราะรวมตัวคัดค้านการเข้าไปในพื้นที่ของ ตรี ด่านไพบูลย์ อดีตวุฒิสมาชิกลำพูน ที่ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบทับที่ชาวบ้าน ในระหว่างกระบวนการตรวจสอบรังวัดที่ดินของเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินฯ เอง

ชาวบ้านที่มาให้กำลังใจกับทั้ง 4 คน

ผู้ต้องหาในคดีทั้ง 4 คน ได้แก่ วัยศรี โปธาคำ และประเวทย์ บังคมเนตร ชาวบ้านชุมชนสันตับเต่า ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ศราวุฒิ ปินกันทา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น (CPCR) และวิศรุต ศรีจันทร์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ และขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่

หลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน วิศรุต ศรีจันทร์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนและชาวบ้านไม่ได้ร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานตามที่โจทย์กล่าวอ้าง หากแต่การดำเนินการในวันดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการพูดคุยสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนร่วมกัน สร้างความกังวลของชาวบ้าน และที่สำคัญอาจไม่เป็นไปตามคำสั่งศาลว่าให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่นายทุนออกมิชอบด้วยกฎหมาย คืนให้ชาวบ้าน

“เรายืนยันว่าเราไม่ได้ขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เราคัดค้านการเข้ามาในพื้นที่ของ ตรี ด่านไพบูลย์ ที่เคยดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับชาวบ้านมาหลายครั้งแล้ว และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับที่ดินพิพาทนี้ กระบวนการนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตรี ด่านไพบูลย์ ควรจะเป็นกระบวนการที่กรมที่ดินมารังวัดเพื่อเพิกถอนโฉนดตามคำสั่งศาล ฉะนั้นวันนั้นเราจึงไปคัดค้านการเข้ามาของตรี ไม่ใช่ขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่” วิศรุตกล่าว

สุทธิเกียรติ ธรรมดุล ทนายความประจำศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่นกล่าวว่า ทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้ว คาดว่าพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการเร็วๆ นี้

วัยศรี โปธาคำ ชาวบ้านสันตับเต่า หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวว่า พวกเขาจะยืนยันสิทธิในที่ดินเพราะที่ดินคือชีวิต เป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่ที่ดินทำกินพันกว่าไร่มีชาวบ้านทำกินอยู่ 100 กว่าราย แต่นายทุนแค่ครอบครัวเดียวมาออกโฉนดโดยมิชอบมาทับทีชาวบ้านแต่ไม่เคยเข้าทำประโยชน์เลย เขายืนยันว่าจะสู้คดีไม่ถอยแม้ว่าจะมีคดีมาเพิ่มอีก

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ช่างรังวัดจากสำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาบ้านโฮ่ง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปรังวัดที่ดินที่มีข้อพิพาท ระหว่าง ตรี ด่านไพบูลย์ ผู้ยื่นขอรังวัดที่ดินกับชาวบ้านในชุมชนบ้านสันตับเต่า ทางชาวบ้านพูดคุยเพื่อให้ยุติการรังวัดที่ดินเนื่องจากที่ผ่านมาตรีและพวก พยายามเข้ามารังวัดที่ดินอยู่แล้วหลายครั้งตามมาด้วยการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่

จากการดำเนินคดีของตรีทำให้ชาวบ้านต้องเข้าพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมหลายครั้ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่าพวกเขาได้ก่นสร้าง แผ้วถาง และครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อน และใบไต่สวนในการกล่าวอ้างการได้มาในการออกโฉนดของตรีที่เป็นโจทก์ในคดีเป็นการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ จนศาลจังหวัดลำพูนเคยพิพากษาสั่งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดแล้ว

ทั้งนี้ช่างรังวัดที่ดินไม่ได้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคำพิพากษาศาล แต่กลับเร่งรัดให้ตรีโจทย์ที่เคยฟ้อง บุกรุก ขับไล่ ชาวบ้านออกจากพื้นที่มายื่นขอรังวัดสอบเขตและดำเนินการ ทั้งที่ศาลเคยมีคำพิพากษาให้กรมที่ดินเป็นผู้ดำเนินการในการเร่งรัดการเพิกถอนโฉนดที่ดิน

อย่างไรก็ตาม พบว่าดำเนินการดังกล่าวมีมีตรีซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับประเด็นข้อพิพาทในที่ดินนี้มาร่วมด้วย ชาวบ้านสันตับเต่าที่มีที่ดินอยู่ในระหว่างการตรวจสอบแก้ไขข้อพิพาทจึงกังวลว่าอาจนำไปสู่เหตุการณ์ฟ้องร้องดำเนินคดีอีก

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net