Skip to main content
sharethis

'รอมฎอน' สส.พรรคประชาชน แถลงอัพเดทคดีตากใบ เตือนความจำ 25 ต.ค. 67 หมดอายุความคดี ลุ้นคำสั่งศาลวันที่ 23 ส.ค.ประทับรับฟ้องคดีหรือไม่ หวังรัฐบาลใหม่มีทิศทางชัดเจน-คืนความยุติธรรมให้ผู้สูญเสีย นำไปสู่การสร้างสันติภาพชายแดนใต้

 

22 ส.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันนี้ (22 ส.ค.) ห้องแถลงข่าว อาคารรัฐสภา ชั้น 1 รอมฎอน ปันจอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวการเข้าร่วมสังเกตการณ์การอ่านคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องในคดีตากใบ ที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจะมีการอ่านคำสั่ง 23 ส.ค.นี้

รอมฎอน ระบุว่า วันนี้อายุความคดีอาญากรณีตากใบเหลือเวลาอีก 64 วัน โดยคดีดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหาย 48 รายเป็นโจทก์ฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีจำเลยในคดีดังกล่าวรวม 9 คน ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง

สส.พรรคประชาชน กล่าวต่อว่า ผลของคำสั่งในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) จะกำหนดทิศทางของการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบ ภายใต้กรอบเวลาว่าอีก 2 เดือนอายุความจะขาดลง หากศาลเห็นว่ามีมูลและประทับรับฟ้อง ศาลต้องนำส่งหมายเรียกให้จำเลยตามที่ศาลเห็นว่ามีมูลให้มาเบิกตัวต่อศาลก่อนวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นอันเริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาลได้ แต่หากศาลมีคำพิพากษาไม่รับฟ้อง ก็ต้องติดตามว่าฝ่ายผู้ร้องจะอุทธรณ์หรือไม่ แต่ก็จะทำให้กระบวนการในการพิจารณาทอดยาวออกไปอีก

รอมฎอน กล่าวว่า ที่จริงแล้วยังมีการดำเนินคดีคู่ขนานกันไปอีกคดีหนึ่ง นั่นคือคดีที่ดำเนินการโดยพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีที่มาจากการทักท้วงโดยคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ว่าการดำเนินคดีอาญาไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ทำให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพร้อมตั้งสำนวนคดีขึ้นมาเมื่อต้นปี 2567

โดยความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด โดยมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ต้องหาจำนวน 8 คน และล่าสุดเท่าที่ตรวจสอบ ได้มีการส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่อัยการร้องขอไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าอัยการจะมีความเห็นต่อคดีนี้อย่างไร

ทั้งนี้ หลังมีการส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว เมื่อ 12 มิ.ย. 2567 ตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตได้ขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดว่า การดำเนินคดีมีความล่าช้าและไม่เป็นธรรม พร้อมขอให้อัยการสูงสุดมีการเร่งรัดคดี แต่เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 อัยการสูงสุดกลับมีหนังสือส่งกลับมาว่าทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งน่าประหลาดใจว่าอัยการเห็นควรให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรมโดยไม่มีการระบุเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ

รอมฎอน กล่าวว่า จากการร่วมวงเสวนาที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567 มีหนึ่งในประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาถามผู้เสียหายว่า ทำไมถึงได้ตัดสินใจมาฟ้องคดีในช่วงคดีกำลังจะหมดอายุความลง ซึ่งหนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตมีการระบุว่าพวกเขายังอยากได้ความยุติธรรม แม้จะได้รับการเยียวยาจากทั้งการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลและรัฐบาลแล้ว แต่การได้ความยุติธรรม หรือการฟ้องคดีที่ผ่านมาชาวบ้านไม่มีความรู้ อำนาจ หรือโอกาส และยังถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่รัฐจนรู้สึกกลัว ที่ผ่านมาทำได้แค่จัดงานรำลึกทุกปี แต่เมื่อปีล่าสุดจึงเริ่มมีการหารือและตกลงกันว่ารอไม่ได้แล้ว และจะขอฟ้องดำเนินคดีเอง

คดีตากใบเป็นปมปัญหาสำคัญของความขัดแย้งในชายแดนใต้ เพราะวางอยู่บนสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ถ้าสถาบันต่างๆ ในสังคมไทยไม่อาจอำนวยความยุติธรรมได้ก็ยากที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนได้ ที่สำคัญความยุติธรรมในคดีตากใบยังเกี่ยวข้องกับอนาคตกระบวนการสันติภาพ ที่ต้องการพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นใจต่อสถาบันต่างๆ ในสังคมการเมืองไทยด้วย

รอมฎอน กล่าวต่อว่า ปมปัญหาตากใบเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ความรุนแรง และกระบวนการสันติภาพ ซึ่งเดิมตั้งใจจะตั้งกระทู้ถามอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน แต่เสียดายที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้นายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปเสียก่อน แต่ตนก็เชื่อว่าภายใต้รัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะมาช้าหรือเร็วก็ต้องเตรียมคำตอบสำคัญเกี่ยวกับคดีตากใบไว้

คดีตากใบเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2565) ก็เคยกล่าวคำขอโทษและขออภัย แม้จะถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญ แต่ตนก็ยังคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีใหม่น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้

"ผมคาดหวังว่าภายใต้รัฐบาลแพทองธาร จะมีความชัดเจน ความมุ่งมั่น และเจตจำนงที่ชัดเจน รัฐบาลต้องชี้ทิศทางว่าจะไปทางไหน ถ้าหากปราศจากทิศทางเช่นนี้การแก้ไขปัญหาก็จะอยู่ภายใต้ระบบราชการปกติ ที่มีวิธีคิดและมุมมองต่อปัญหาที่แตกต่างหลากหลายและขัดแย้งกันเอง รัฐบาลใหม่น่าจะดำเนินการได้มากกว่าการนั่งรอเฉยๆ ปมปัญหาสำคัญคือความยุติธรรมและข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียชีวิตตายเพราะอะไร ตายโดยใคร และใครต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่คำสั่งชันสูตรพลิกศพว่า ผู้เสียชีวิตบนรถเสียชีวิต เพราะขาดอากาศหายใจ คำตอบแค่นั้นไม่เพียงพอ ถ้าทิศทางคือการแก้ปัญหาและสร้างสันติภาพ ปมเหล่านี้ควรได้รับการคลี่คลาย ใส่ใจ และแสดงความชัดเจน" รอมฎอน กล่าว
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net