Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 11 มิ.ย.48 คนแม่ขนิลใต้ พากันคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนแม่ขาน ยื่นแถลงการณ์คัดค้านให้ยึดแนวพระราชดำรัสในหลวง ให้ตั้งเขื่อนที่เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการอพยพบ้านเรือนราษฎร การย้ายวัด โรง และให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด

เมื่อเช้าวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านแม่ขนิลใต้ ม.8 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 300 คน ร่วมชุมนุมกันที่โรงเรียนบ้านปางแดง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปเป็นประธานเปิดอาคารเรียน โรงเรียนขนาดเล็กรูปแบบใหม่โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยื่นหนังสือคัดค้านโครงการเขื่อนแม่ขาน ว่าจะส่งผลกระทบต่อคนทั้งหมู่บ้าน และขอให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว

ซึ่งก่อนหน้านั้น ได้มีการเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาล กับชาวบ้านแม่ขนิลใต้ และตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ โดยผลการเจรจาได้เห็นชอบให้มีการระงับการดำเนินงานโครงการตามข้อเรียกร้อง หากมีการดำเนินการใดๆ จะต้องถามความเห็นชอบจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก่อน

อีกทั้ง ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2545 เห็นชอบให้ดำเนินการตามผลการเจรจา และมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการติดตามแก้ไขปัญหาของกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.)
และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ซึ่งมีพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีหน้าที่ให้ติดตามการแก้ไขปัญหากรณีโครงการเขื่อนแม่ขานอย่างใกล้ชิด

แต่หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ก็ยังคงเข้าไปทำการสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมการก่อสร้างหัวงานโครงการในพื้นที่ และยังมีการทำหนังสือถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ตาช้าง-แม่ขนิล ซึ่งเป็นพื้นที่เตรียมประกาศเขตอุทยานแห่งชาติออบขาน จำนวน 2,929 ไร่ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.และวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการหยุดชะลอหรือระงับโครงการแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักชลประทานที่ 1 จ.เชียงใหม่ ได้มีการประสานงานและจัดประชุมในระดับจังหวัดขึ้น เพื่อเสนอกรอบการพิจารณาอนุมัติงบประมาณค่าชดเชยในพื้นที่ก่อสร้างโครงการอีก ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ได้สร้างความสับสน และสร้างแรงกดดันให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ นอกจากเป็นการกระทำที่ละเมิดผลการเจรจา ตามมติครม. วันที่ 9 เม.ย.2545 และผลการประชุมร่วมระหว่างชาวบ้าน กับ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ(กปร.) ซึ่งได้ลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่บ้านแม่ขนิลใต้ และได้มีการประชุมร่วมระหว่างชาวบ้าน เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2547 ที่ผ่านมา และชาวบ้านมีมติขอให้ยกเลิกการสร้างเขื่อนไปแล้ว

นอกจากนั้น การดำเนินงานดังกล่าว ยังอาจระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาทขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับโครงการสร้างเขื่อน เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2532 ว่า "กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสมควรพิจารณากำหนด ที่ตั้งเขื่อนที่เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการอพยพบ้านเรือนราษฎร การย้ายวัด โรงเรียน และให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด"

นายพันธ์ จันทร์แก้ว ผู้ใหญ่บ้านแม่ขนิลใต้ กล่าวว่า ชาวบ้านแม่ขนิลใต้ และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาน้ำของ สกน. ซึ่งแต่งตั้งโดย พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จึงขอความกรุณาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โปรดดำเนินการสั่งการให้กรมชลประทานปฏิบัติตามผลการเจรจา,มติ ครม.,และมติผลการประชุมร่วมกับ กปร. คือให้ยกเลิกการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนแม่ขาน เพื่อลดแรงกดดันและการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว

"หากรัฐมีการสร้างเขื่อนแม่ขาน พื้นที่หมู่บ้านแม่ขนิลใต้ทั้งหมด 369 ไร่ จะต้องถูกจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งรวมไปถึงโบราณสถาน วัดวาอารามอายุหลายร้อยปี และประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ชุมชนสืบทอดรักษากันมานานกว่า 200 ปี จะต้องสูญหายไปหมด ดังนั้น ชาวบ้านแม่ขนิลใต้ทั้งหมด จึงขอยืนยันว่า จะไม่ยอมอพยพย้ายไปที่อื่น " นายพันธ์ กล่าวย้ำ

โครงการดังกล่าว นอกจากจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบ้านแม่ขนิลใต้โดยตรงแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของชาวอำเภอหางดง หากมีการสร้างเขื่อนขึ้น จะทำให้มีน้ำท่วมพื้นที่ป่า จำนวน 1,599 ไร่ ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียรายได้ และอัตราการหมุนเวียนของเงินเฉลี่ยต่อวัน ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท จากการท่องเที่ยว

ยังไม่นับถึงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า ซึ่งมีคุณค่ามหาศาล ไม่ว่าพันธุ์พืชพันธุ์ไม้สำคัญที่หายาก รวมทั้งสัตว์ป่า สัตว์น้ำ ซึ่งจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลังจากที่ตัวแทนชาวบ้านแม่ขนิลใต้ ได้ยื่นหนังสือ ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับปากว่า จะนำเรื่องนี้ไปคุยกันใน การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.พะเยา ในระหว่างวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้

ซึ่งปัจจุบัน โครงการเขื่อนแม่ขาน ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการด้านแหล่งน้ำ และโครงการนี้ได้ถูกบรรจุไว้ในโครงการจัดทำแผนรวม(Integrated Plan) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net